สศก.ชี้ความหวานอ้อยลดฉุดรายได้เกษตรกร

สศก.ชี้ความหวานอ้อยลดฉุดรายได้เกษตรกร

สศก.ชี้ความหวานอ้อยลดฉุดรายได้เกษตรกร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สศก.ระบุอ้อยปีนี้หวานน้อย เฉลี่ย 9-10 ซี.ซี.เอส ฉุดรายได้เกษตรกร สวนทางราคาน้ำตาลทรายที่ปรับตัวสูงขึ้น ระบุแล้งจัด และฤดูหนาวสั้น

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากภาวะแล้งจัดขณะนี้ ประกอบกับอากาศหนาวช่วงสั้นๆ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้อ้อยให้ความหวานหรือน้ำตาล โดยเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 9-10 ซี.ซี.เอส.เท่านั้น ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่ค่าความหวานของอ้อยจะเฉลี่ยประมาณ 11 ซี.ซี.เอส. ประกอบกับอ้อยมีปัญหาโรคแมลงระบาด และภัยแห้งทำให้อ้อยขาดน้ำ ส่งผลให้ผลผลิตอ้อยในปี 2552/2553 มีเพียง 69 ล้านตันลดลงจากที่เป้าหมายที่พยากรณ์ว่าจะได้ผลผลิต 71.1 ล้านตัน จากพื้นที่การผลิตรวม 6.3 ล้านไร่ เพิ่มขึ้น 6 ล้านไร่

"ค่าความหวานของอ้อยที่ลดลง จะส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรลดลงตามไปด้วย โดยมติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูกาลผลิตปี 2552/2553 ในอัตราตันอ้อยละ 965.00 บาท ณ ระดับค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. โดยกำหนดอัตราขึ้น-ลง ของราคาอ้อยเท่ากับ 57.90 บาทต่อ 1 หน่วยซี.ซี.เอส. และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2552/2553 เท่ากับ 413.57 บาทต่อตันอ้อย" นายอภิชาต กล่าว

นายอภิชาต กล่าวว่า ในขณะนี้แม้ความต้องการน้ำตาลทรายในตลาดโลกจะสูงขึ้น ทำให้ราคาน้ำตาลในประเทศขยับตัวตาม ดังนั้นในทางปฏิบัติเกษตรกรควรได้รับรายได้ จากราคาน้ำตาลดังกล่าวด้วย แต่ความหวานที่ลดลง รายได้เกษตรกรจึงหายไป และในปีนี้ยังเปิดหีบเร็วมาก ทำให้อายุของอ้อยต่ำ เฉลี่ยประมาณ 8 เดือน น้อยกว่าอายุที่ควรจะเก็บเกี่ยวในช่วง 9 เดือน

"คงไม่สามารถแก้ปัญหาในภาพรวมได้ แต่กระทรวงเกษตรฯ จะให้ความรู้กับเกษตรกรมากขึ้น ในการปลูกอ้อยปีหน้า ซึ่งราคาสูงคงจูงใจให้เพิ่มพื้นที่เพาะปลูกเป็น 6.5 ล้านไร่ผลผลิตรวมน่าจะประมาณ 74 ล้านตัน ซึ่งต้องปรับปรุงพันธุ์ จัดการดูแลแปลงอย่างเหมาะสมเพื่อให้อ้อยมีคุณภาพดีขึ้น" นายอภิชาต กล่า

สำหรับภาวการณ์ผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ บริษัทที่ปรึกษา Kingsman คาดว่าในปี 2553/2554 จะมีผลผลิตน้ำตาลโลกส่วนเกิน 3.99 ล้านตัน ลดลงเมื่อเทียบปีที่ผ่านมาที่ผลผลิตน้ำตาลโลกส่วนขาด 11.92 ล้านตัน

ขณะที่อินเดีย คาดว่าผลผลิตน้ำตาลในปี 2553/2554 จะมีจำนวน 22-23 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีผลผลิต 15.0-15.5 ล้านตัน และคาดว่าอินเดียยังต้องนำเข้าน้ำตาลอีก 6 ล้าน โดยแยกเป็นน้ำตาลทรายดิบจำนวน 4.5 ล้านตัน และน้ำตาลทรายขาวจำนวน 1.5 ล้านตัน

ด้านราคาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์กซื้อขายทันที เฉลี่ยสัปดาห์นี้ 27.52 เซนต์/ปอนด์ หรือกิโลกรัมละ 19.97 บาท ลดลงจาก 29.48 เซนต์/ปอนด์ หรือกิโลกรัมละ 21.37 บาท ของสัปดาห์ก่อนหรือลดลง ประมาณ 6.65%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook