พบหอยกะพงเทศระบาดทะเลสาบสงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบหอยกะพงเทศ ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจากทวีปอเมริกา ที่รุกรานในหลายประเทศเช่น อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ กำลังแพร่กระจายพันธุ์ และระบาดในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาตอนล่าง โดยพบมากที่สุด บริเวณหาดแก้วลากูน ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึก จ.สงขลา และเริ่มส่งผลกระทบผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ หมู่ 1 ต.หัวเขา อ.สิงหานคร จ.สงขลา เนื่องจาก หอยกะพงเทศ ได้เกาะบนตาข่ายเลี้ยงปลาเก๋า ของชาวบ้าน จำนวน 300 ราย รวมกว่า 1,000 กระชัง
ส่วนสาเหตุของการระบาดในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา คาดว่า น่าจะติดมากับน้ำในถังอับเฉาเรือเดินสมุทร หรือเกาะติดมากับตัวเรือ และได้มาแพร่พันธุ์ในทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะในบริเวณหาดแก้วลากูน ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกสงขลา โดยชาวบ้านได้เรียกร้องให้หน่วยงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจและหาป้องกันการแพร่ระบาดของหอยกะพงเทศ ไม่ให้ขยายวงกว้าง ส่งผลกระทบมากไปกว่านี้
ทั้งนี้ จากการศึกษา ของนักวิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า การระบาดของหอยกะพงเทศ จะก่อให้เกิดปัญหาต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ความสมดุลของระบบนิเวศ เพราะการดำรงชีวิตของหอยกะพงเทศ เป็นหอยที่ทนทาน ต่อความเค็มและอุณหภูมิได้ในช่วงกว้าง รวมทั้งทนต่อมลภาวะได้ดี และมีความสามารถในการสร้างกลุ่มประชากรหนาแน่น ยังสามารถยึดเกาะได้
บนทุกพื้นผิววัสดุที่จมน้ำ เช่น ตาข่ายกระชัง และเครื่องมือประมง และยังทำให้เกิดปัญหากระแสน้ำไม่หมุนเวียน และทำให้ประสิทธิภาพ ของเครื่องมือประมงลดลง อาจส่งผลถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ ในบริเวณดังกล่าว
ส่วนสาเหตุของการระบาดในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา คาดว่า น่าจะติดมากับน้ำในถังอับเฉาเรือเดินสมุทร หรือเกาะติดมากับตัวเรือ และได้มาแพร่พันธุ์ในทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะในบริเวณหาดแก้วลากูน ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกสงขลา โดยชาวบ้านได้เรียกร้องให้หน่วยงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจและหาป้องกันการแพร่ระบาดของหอยกะพงเทศ ไม่ให้ขยายวงกว้าง ส่งผลกระทบมากไปกว่านี้
ทั้งนี้ จากการศึกษา ของนักวิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า การระบาดของหอยกะพงเทศ จะก่อให้เกิดปัญหาต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ความสมดุลของระบบนิเวศ เพราะการดำรงชีวิตของหอยกะพงเทศ เป็นหอยที่ทนทาน ต่อความเค็มและอุณหภูมิได้ในช่วงกว้าง รวมทั้งทนต่อมลภาวะได้ดี และมีความสามารถในการสร้างกลุ่มประชากรหนาแน่น ยังสามารถยึดเกาะได้
บนทุกพื้นผิววัสดุที่จมน้ำ เช่น ตาข่ายกระชัง และเครื่องมือประมง และยังทำให้เกิดปัญหากระแสน้ำไม่หมุนเวียน และทำให้ประสิทธิภาพ ของเครื่องมือประมงลดลง อาจส่งผลถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ ในบริเวณดังกล่าว