จักรยานหุ่นยนต์ไร้คนขี่

ลุ้นการแข่งขันรถยนต์อัจฉริยะไร้คนขับมา 3 ปี วันนี้ เด็กไทยสามารถ ทำถึงเป้าหมายที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันทำไว้ คือ 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เพื่อสร้างความท้าทายและแปลกใหม่มากขึ้น ปีนี้คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (เอไอที) สมาคมวิชาการหุ่นยนต์แห่งประเทศไทย และบริษัทซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปลี่ยนรูปแบบจากรถยนต์อัจฉริยะมาเป็น การแข่งขันจักรยานหุ่นยนต์ชิงแชมป์ประเทศไทย แบบไร้คนขี่ เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและครั้งแรกในโลก

รศ.ดร.มนูกิจ พานิชกุล อาจารย์ประจำภาควิชาแมคคาทรอนิกส์ เอไอที ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันจักรยานหุ่นยนต์ชิงแชมป์ประเทศไทย 2553 บอกว่า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพัฒนาจักรยานหุ่นยนต์ไร้คนขี่ที่สามารถใช้งานได้จริงในอนาคต โดยกำหนดระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางล้อหน้าและล้อหลังที่ 90 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของล้อมากกว่า 50 เซนติเมตรและหน้ากว้างของยางน้อยกว่า 5 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดจักรยานมาตรฐานทั่วไป

จักรยานหุ่นยนต์นี้จะต้องสามารถวิ่ง ได้ด้วยตัวเอง โดยใช้พลังงานที่เป็นมิตับสิ่งแวดล้อม

รศ.ดร.มนูกิจ บอกว่า การพัฒนาจักรยานหุ่นยนต์ จะเหมือนกับการพัฒนารถอัจฉริยะไร้คนขับทุกอย่าง แต่ยากกว่า ตรงที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติมให้จักรยานหุ่นยนต์ 2 ล้อสามารถทรงตัวได้โดยไม่ล้ม เทคโนโลยีที่นำมาใช้มีหลายเทคโนโลยี เช่น การใช้น้ำหนักถ่วง ใช้เทคโนโลยีลูกข่างหมุนหรือไจโร หรือใช้เทคโนโลยีแรงหนีศูนย์กลางในการสร้างสมดุลของรถจักรยาน

อย่างจักรยานหุ่นยนต์ต้นแบบที่นำมาโชว์ จะใช้เทคโนโลยีแบบลูกข่างหมุน ทำให้ไม่ล้ม ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มีเซ็นเซอร์ในการบังคับทิศทาง สามารถรับน้ำหนักคนซ้อนได้ถึง 60 กิโลกรัม สามารถนำประยุกต์ใช้ในอนาคต เข้ากับกระแสการประหยัดพลังงาน โดยใช้กับคนที่ขี่รถจักรยานไม่เป็นได้

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ มีกติกาบังคับใช้รีโมตได้เฉพาะจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นต้องวิ่งได้ด้วยตัวเอง และวิ่งผ่านเส้นทางที่กำหนดไปถึงจุดหมายโดยไร้คนบังคับ

ตัดสินกันที่ระยะทางและ ความเร็ว คือเร็วที่สุดและไกลที่สุด

ประเดิม...ทีมแรกที่พร้อมลง แข่งขันครั้งนี้ก็คือ ทีมนักศึกษาจากเอไอที ทีมโดยนายชูพงศ์ ช่วยเพ็ญ นักศึกษาปริญญาเอกจากภาค วิชาแมคคาทรอนิกส์ ซึ่งบอกว่า ปัจจุบันใกล้แล้วเสร็จ เหลือแค่การพัฒนาซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน โดยจักรยานหุ่นยนต์คันนี้ เลือกใช้เทคโนโลยี แรงหนีศูนย์กลางในการรักษาสมดุลของรถ ข้อเสียก็คือไม่สามารถหยุดนิ่งโดยไม่ล้มได้ แต่สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง

นักศึกษาทั้งระดับอาชีวศึกษาหรืออุดมศึกษาสถาบันไหนสนใจ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 19 มีนาคมนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://bicyrobo.ait.ac.th หรือ http:// www.trs.or.th

การแข่งขันครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดความสามารถของเยาวชนไทยจากรถยนต์อัจฉริยะ ไปสู่จักรยานหุ่นยนต์ ส่วนจะสนุกแค่ไหน รอลุ้นได้ในวันแข่งจริง !!!.

นาตยา คชินมร

nattayap@dailynews.co.th