กมม.ประณามบึม2จุด-จี้รองสุเทพพิจารณาตัว

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึง เหตุลอบวางระเบิด 2 ครั้ง โดยยอมรับว่า
เป็นสัญญาณที่ไม่ดี ขณะที่ตนก็จะแก้ไข โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เห็นว่า
มีการจ้องสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากให้มีการกวดขันสถานที่ราชการให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า
ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าจะมีการวางระเบิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยืนยันว่า จะไม่ใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อควบคุม
สถานการณ์ ซึ่งต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เชื่อว่า การวางระเบิดข้างศาลฎีกานั้น จะไม่ทำให้ผู้พิพากษาศาลรู้สึก
หวั่นไหวได้ เพราะทำหน้าที่มานาน อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ตนจะประชุมหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมิน
สถานการณ์ต่อไป

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ประเมินว่า การที่กลุ่มคนร้ายลอบยิงระเบิด ชนิด M79 เข้าไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลพาณิชย์พระนคร และการลอบวางระเบิดชนิดซีโฟร์ ข้างศาลฎีกา น่าจะเป็นขบวนการ หรือฝีมือของกลุ่มคนร้าย ที่ลอบยิงระเบิด M79 เข้าไปยังกองบัญชาการกองทัพบก กระทรวงกลาโหมรวมถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งคาดว่า จะเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลมีสี ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ หวังผลการเมือง และอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อนช่วงวันที่ 26 ก.พ. ที่ศาลฎีกา จะมีการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ต้องขอประณาม การกระทำที่ก่อให้เกิดผลเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ที่รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะ จะต้องพิจารณาตนเอง


พร้อมกันนี้ นายสุริยะใส กล่าวว่า เวลา 12 วัน ต่อจากนี้ไป รัฐบาลจะต้องทบทวน และจัดระเบียบงานด้านการข่าว ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เชื่อว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่าย กำลังพยายามออกแบบการรัฐประหาร หรือหวังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวก่อนวันที่ 26 ก.พ. มีโอกาสที่จะสถานการณ์ความรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง

ด้าน นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งปรับ
ปรุงงานทางด้านการข่าว ให้สอดคล้อง และเหมาะสม กับสถานการณ์ หลังจากที่มีกลุ่มคนร้าย ลอบยิงระเบิด
ชนิดดังกล่าว เข้าไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลพาณิชย์พระนคร และการลอบวางระเบิดชนิดซีโฟร์
ข้างศาลฎีกา ซึ่งฝ่ายความมั่นคง จะต้องมีการประเมินสถานการณ์ แบบวันต่อวัน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย
เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย จะต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง พรรคร่วมรัฐบาล จะต้องมีความเป็นเอกภาพ
ในการทำงานร่วมกับรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐบาลต้องทราบว่า ความขัดแย้งของการต่อสู้เคลื่อนไหวทางการเมืองใน
ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงต้องการชุมนุมกดดันกับรัฐบาลเท่านั้น เนื่องจาก จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ และความ
มั่นคงของประเทศชาติ ในทุกๆด้านด้วย

นอกจากนี้ โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ยังเห็นว่า แนวโน้มสถานการณ์ หลังจากพิพากษาคดี 76,000 ล้านบาท
ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยังเกิดความรุนแรง เพราะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่
ยอมรับการตัดสินของศาล รวมถึงคาดว่า วันที่ 26 ก.พ. อาจจะมีรูปแบบลงสู่ใต้ดิน ที่ใช้วิถีการรุนแรง ใน
รูปแบบต่างๆ เพื่อหวังผลการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง