ชทพ.ปัดเลื่อนแก้รธน.หวังต่อรองผลประโยชน์

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยัน กรณีการเลื่อนญัตติพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไทย ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการต่อรองผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานและกล่าวหาแบบเลื่อนลอย ทั้งนี้ ขอตั้งสังเกตว่า พรรคการเมือง ที่ออกมาปล่อยข่าวลักษณะนี้มีวัตถุประสงค์ใด รวมถึง ไม่ควรนำธรรมเนียบปฏิบัติของพรรคตนเอง มาเป็นบรรทัดฐานของพรรคการเมืองอื่น ขณะเดียวกัน การเลื่อนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เกี่ยข้องกับแรงกดดันของกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจาก พรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อแรงกดดันภายนอก เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นขบวนการพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายหลักของพรรค

ทั้งนี้ นายวัชระ กล่าวว่า การที่ กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมากล่าวหาพาดพิง นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม ขณะเดียวกัน ขอเรียกร้องให้ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ต้องมีความชัดเจนในบทบาทของตนเอง
ว่าจะเลือกทำงานทางการเมืองลักษณะใด ระหว่างเลขาธิการพรรค กับ ผู้นำม็อบ

ขณะที่ รู้สึกวิตกกังวลถึงมาตรการการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ออกมาชุมนุมคัดค้าน ในช่วงต่อจากนี้ไป ดังนั้น ขอเรียกร้องถึงรัฐบาล โดยเฉพาะ ฝ่ายความมั่นคงและกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สำนึกอยู่ตลอดเวลาว่า ทุกฝ่าย เป็นประชาชนคนไทยด้วยกัน ซึ่งการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ขอให้กระทำด้วยความสงบ สันติ อหิงสา รวมถึง ควรให้การเคารพต่อความศรัทธาทางการเมืองของอีกฝ่าย ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ได้เหมารวมว่า เป็นการต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงอย่างเดียว เนื่องจาก การออกมาแสดงบทบาททางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง หลายคนทำไปด้วยความเชื่อศรัทธาของตนเอง

อย่างไรก็ตาม โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย ละเว้นการแสดงออก ด้วยการกระทำที่รุนแรงและไม่ควรกล่าวหาใส่ร้ายซึ่งกันและกัน รวมถึง คนไทยส่วนใหญ่ ก็ไม่ต้องการเห็นสถานการณ์ที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศ