หนุ่มจีนช็อก เข้าเรียน ม.ดัง จ่ายค่าเทอมแพงลิ่ว 4 ปี เพิ่งรู้ไม่มีชื่อเป็น นศ.ตั้งแต่แรก

ช็อกกันหมด เรียนมหาลัยดัง 4 ปี เพียงเพื่อจะรู้ว่าเรียน "มหาลัยผี" ประหลาดสุดๆ ผอ.แจ้งว่าหนุ่มสาว 32 คน ไม่เคยมีใครได้รับเข้าเรียนเลย สืบสาวจนเจอที่แท้โดนตุ๋นเสียเงินมหาศาล

ตามรายงานพบว่าในเดือนมิถุนายน ปี 2554 นายจาง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี มีผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ไม่น่าพอใจ เมื่อเขากำลังตัดสินใจว่าจะเลือกวิทยาลัยอื่น หรือรอสอบใหม่ปีหน้าเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเดิม ในเวลานั้นได้มีคนรู้จักคำแนะนำที่น่าสนใจ ว่าสามารถช่วย "วิ่ง" ให้เขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยหวู่ฮั่นผ่านช่องทางพิเศษ แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 150,000 หยวน (มากกว่า 7 แสนบาท)

มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น เป็นสถานศึกษาที่เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าของประเทศ อยู่ใน 300 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก แน่นอนว่าเป็นความใฝ่ฝันของเด็กๆ หลายคน ดังนั้น หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง พ่อของนายจางก็ยอมจ่ายเงินเพื่อให้ลูกชายมีอนาคตที่สดใส หลังจากนั้นไม่นานเอกสารการรับเข้าเรียนก็ถูกส่งมาให้ เป็นการยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยได้รับเขาเข้าเป็นนักศึกษาแล้ว

เมื่อเขาเข้าไปในมหาวิทยาลัยวันแรก เขาได้รับคำแนะนำจากครูที่ปรึกษาแซ่ต่ง (นามสมมุติ) ทั้งเรื่องการเข้าคลาสเรียนและการอาศัยอยู่ในหอพัก โดยรูมเมทของเขาก็เป็นคนที่เข้าเรียนผ่าน "ช่องทางพิเศษ" เช่นเดียวกัน โดยค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพของนักศึกษากลุ่มนี้จะสูงกว่าปกติมาก และทุกคนได้รับคำสั่งอย่างระมัดระวังไม่ให้บอกคนอื่น ว่าพวกเขาใช้วิธีจ่ายใต้โต๊ะเพื่อให้มีชื่อในการลงทะเบียนเรียน

แม้ว่านายจางจะเพิกเฉยต่อปัญหาในตอนเริ่มแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่าตลอด 4 ปีที่เรียนในมหาวิทยาลัย มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นไม่น้อย คือเขาไม่อยู่ในรายชื่อคลาสเรียน ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าค่ายเตรียมทหารของมหาวิทยาลัย แต่ต้องถูกแยกไปอยู่ในพื้นที่อื่นๆ และไม่มีแม้กระทั่งบัตรนักศึกษา ทุกครั้งที่เข้าสอบก็ถูกแยกไปสอบกับเพื่อนอีก 31 คนที่เข้ามาด้วย "ช่องพิเศษ" เหมือนกัน โดยอาจารย์แซ่ต่งมักอธิบายเสมอว่า เพระเข้ามาแบบแตกต่าง จึงมีการปฏิบัติที่แตกต่าง

แม้จะมีข้อสงสัยและสับสนหลายครั้ง แต่นายจางก็ยังคงมีความสุขกับการเรียนมหาวิทยาลัย 4 ปี มีความสุขเสมอเมื่อได้เข้าเรียนในคลาสต่างๆ กระทั้งมารู้ว่า 4 ปีที่สวยงามของวิทยาลัยเป็นเพียงภาพลวงตา เมื่อเพื่อนคนอื่นๆ ต่างยุ่งอยู่กับการทำโปรเจกต์จบการศึกษา แต่เขากลับไม่ได้มีรับมอบหมายงานใดๆ จากอาจารย์ ด้วยความใจร้อนเขาจึงตรงไปที่สำนักวิชาการของมหาวิทยาลัย และได้แต่ตกตะลึงเมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่แจ้งว่า "ตามรายชื่อ คุณไม่ได้อยู่ในระบบของมหาวิทยาลัย นั่นหมายความว่าคุณไม่เคยได้รับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของเรา"

เมื่อได้รับข่าวที่น่าตกใจ เขาจึงโทรหาอาจารย์แซ่ต่งทันที แต่บุคคลนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากกลับมาที่หอพักเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆ อีก 31 คนฟัง เมื่อทุกคนได้ยินเรื่องนี้ก็ตกใจเช่นกัน รีบไปที่สำนักงานการเรียนการสอนเพื่อตรวจสอบสถานะการเป็นนักเรียนของพวกเขา และก็ต้องช็อกกับความจริงที่ว่าพวกเขาใช้เวลา 4 ปีในการเป็นนักศึกษาเหมือนคนอื่นๆ แต่สุดท้ายกลับได้รับแจ้งว่าพวกเขา "ไม่เคยถูกรับเข้าเรียน"

หลังจากนั้นทางครอบครัวของพวกเขาเริ่มเข้ามามีส่วนร่วม โดยนำหนังสือแจ้งการรับเข้าเรียนที่ได้รับเมื่อ 4 ปีก่อนมาใช้เป็นหลักฐานยืนยัน อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการฝ่ายรับสมัครของมหาวิทยาลัยหวู่ฮั่น ระบุว่าหลังจากตรวจสอบเอกสารดังกล่าวว่า "เป็นของปลอม"

จากการสอบสวนของตำรวจ เยาวชนจำนวน 32 คนถูกหลอกลวงให้เข้าไปใน "มหาวิทยาลัยผี" ตัวกลางเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากจิตวิทยาของผู้ปกครองของนักเรียน ปลอมใบแจ้งรับเข้าเรียน และจัดให้นักเรียนไปหาอาจารย์ปลอมๆ เพื่อฉ้อโกงเงินตลอด 4 ปี ในขณะที่คนหนุ่มสาวเหล่านั้นตั้งใจเล่าเรียนอย่างหนัก ความฝันและอนาคตของพวกเขาได้สูญเสียไปหมดแล้วโดยไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตามเรื่องไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เมื่อผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกหลอก มองว่ามหาวิทยาลัยหวู่ฮั่นก็มีความรับผิดชอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ถ้าโรงเรียนสร้างความเข้มแข็งในการบริหารจัดการได้ ไม่ให้พ่อค้าคนกลางมาเอาเปรียบอย่างไร้ยางอาย เด็กๆ จะไม่ถูกหลอกให้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยในช่วง 4 ปีอย่างโจ๋งครึ่มแบบนี้

คดีฉ้อโกงนักเรียนนี้สร้างความปั่นป่วนในความคิดเห็นของชาวจีนในปี 2558 เผยให้เห็นปัญหาและช่องโหว่มากมายในการจัดการอุตสาหกรรมการศึกษา ในที่สุดนักต้มตุ๋นก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดและติดคุก อย่างไรก็ตาม เวลา 4 ปี ของเยาวชน 32 คน ไม่สามารถเรียกคืนได้ จากที่เคยคิดว่าตัวเองจะจบปริญญาตรีจากโรงเรียนชั้นนำ พวกเขาก็ตกใจเมื่อพบว่าตัวเองกำลังกลายเป็นตัวละครไร้สาระโดยไม่รู้ตัว