"เอ พศิน" ได้เงินคืนแล้ว! ปมเล่านิทานแฉสาว ยืมเงินซื้อกระเป๋าหรูไม่ยอมคืน

"เอ พศิน" ได้เงินคืนแล้ว! ปมเล่านิทานแฉสาว ยืมเงินซื้อกระเป๋าหรูไม่ยอมคืน

"เอ พศิน" ได้เงินคืนแล้ว! ปมเล่านิทานแฉสาว ยืมเงินซื้อกระเป๋าหรูไม่ยอมคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวเน็ตแห่แชร์คลิป หลังนักแสดงหนุ่ม เอ-พศิน เรืองวุฒิ ออกมาไลฟฟ์สดเล่านิทานเรื่องหนึ่ง ซึ่งบางช่วงบางตอนมีการพูดถึงเรื่องสัจจะวาจาและความซื่อสัตย์ โดยเจ้าตัวบอกว่า “ช่วงหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงแรกมันก็ดีงาม เเต่เกิดปัญหานิดหน่อย คือเมื่อวันที่ 11 เมษายน เป็นการพบกันครั้งที่สอง

ซึ่งไปเดินซื้อของกับลูกชายด้วย หลังจากนั้นตนไปส่งทีมงานคนหนึ่งที่สนามบิน เพราะเขากำลังจะไปเรียนต่อ ระหว่างนั้นได้มีการไลฟ์ขายกระเป๋าเเบรนด์เนมชื่อดัง และเขาอยากได้กระเป๋าราคาอยู่ที่ 120,000 บาท เเต่ตอนนั้นเงินในบัญชีเขาไม่สามารถโอนจำนวนหลักเเสนได้

จึงหันมาถามตนว่าวงเงินถึงมั้ย ซึ่งวงเงินตนโอนได้ครั้งละ 50,000 บาท โดยตอนนั้นมีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 80,000 บาท ก็เลยช่วยฝ่ายหญิงด้วยการโอนไป 50,000 บาท ส่วนอีกบัญชีโอน 15,000 บาท ไม่มีคำว่าขอ เพราะเพิ่งเจอกันครั้งที่ 2 จะให้เปย์ก็ไม่ได้

ที่ต้องออกมาพูด เพราะมีคำพูดบางคำที่รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เอได้ส่งข้อความไปหาฝ่ายหญิงในไลน์ คิดว่าฝ่ายหญิงน่าจะได้อ่านข้อความแล้ว แต่ไม่ขึ้นสเตตัสว่าอ่าน จึงทำให้รู้สึกว่าถูกเพิกเฉย ไม่ให้เกียรติ การที่ฝ่ายหญิงบล็อกโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของเอ ตอนนี้ตนเริ่มเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร

พอเวลาผ่านไป ตอนที่คบกัน เอก็ไม่ได้ทวง ตอนเลิกรากันไป ฝ่ายหญิงก็เหมือนจะได้เจอคนที่ดีกว่าและมีฐานะที่ดีกว่าเอแล้ว หรือถ้าขายกระเป๋าได้ก็โอนคืนมาหน่อย ถึงเงินจะไม่เยอะเเต่เป็นค่าเทอมลูกได้ 1 ปี จริง ๆ จะไม่ทวงก็ได้ แต่เพราะถูกพูดถึงในมุมที่ไม่น่ารัก ไม่ให้เกียรติ จึงต้องออกมาพูด”

ล่าสุดในอินสตาแกรมส่วนตัว เอ พศิน ได้โพสต์ภาพระบุข้อความว่า “ปัญหาได้ถูกแก้ไขแล้วอย่างถูกต้อง #ได้คืนครบถ้วน กรณีCC 11.4.66 จะได้นำเงินจำนวนนี้ไปช่วยเหลือ สาธารณะกุศล เพื่อเป็น ธรรมทาน ต่อไป” พร้อมแคปชั่นใต้โพสต์ดังกล่าวด้วยว่า “thank you” งานนี้แฟนๆ ต่างเข้ามากดไลก์แสดงความยินดีด้วยมากมาย

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ

อัลบั้มภาพ 14 ภาพ ของ "เอ พศิน" ได้เงินคืนแล้ว! ปมเล่านิทานแฉสาว ยืมเงินซื้อกระเป๋าหรูไม่ยอมคืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook