กรณ์หัก''สามสี'' ร่วมภท.ลุยต่อถนนปลอดฝุ่น
* เทือกปัดเก้าอี้เลขาฯถูกแทะ
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะ ถูกปรับออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคว่า ไม่มีการถูกเลื่อยขาแน่นอน ข่าวที่ออกมาเข้าใจว่าคนที่เจตนาออกมาปล่อยเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลมีความร้าวฉานเกิดขึ้นธรรมเนียมของพรรคทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความแตกแยก ตนกับนายกฯ มีเจตนาที่จะทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ต้น และนายกฯ ก็เป็นคนเสนอชื่อตนให้สมาชิกพรรคเลือกเป็นเลขาธิการ
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะว่าไปข้ามหน้าข้ามตา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า สมาชิกพรรคเคารพผู้อาวุโส แต่เวลาแสดงความคิดเห็นแต่ละบุคคลย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยใจหรือไม่กับการทำงานที่ผ่านมา ที่มีความพยายามเลื่อยขาเก้าอี้ นาย สุเทพกล่าวว่า ตนน้อยใจไม่ได้ เพราะเข้ามาทำหน้าที่ที่คนไทยทุกคนกำลังรอความหวัง ตนมีหน้าที่ทำให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัย หน้าตาอย่างตนจะน้อยอกน้อยใจไม่ได้
* กรณ์ หักหน้า สามสี
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงกรณี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เตรียมจะปรับลดโครงการถนนปลอดฝุ่นว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมเห็นว่าโครงการถนนไร้ฝุ่นเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นเศรษฐ กิจ ยังจำเป็นที่ต้องดำเนินการโครงการต่อไปไม่ตัดทิ้งตามนายไตรรงค์ระบุ โครงการดังกล่าวมีเงินจากการกู้จึงยืนยันว่า งบฯ โครงการนี้ยังอยู่เท่าเดิมไม่ได้น้อยลงหรือเพิ่มขึ้น
โครงการลงทุนไทยเข้มแข็งเป็นโครง การที่เป็นประโยชน์ในการยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศ จึงต้องยังอยู่และวงเงินเท่าเดิม 1.43 ล้านล้านบาท แต่การกู้เงินเพื่อมาลงทุนจะน้อยลง จะไปใช้เงินจากงบประมาณมากขึ้น เพราะการเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้มาก โดยในปีงบประมาณ 54 ที่กำลังพิจารณาจะเก็บรายได้สูงกว่าปีงบประมาณ 53 ถึง 300,000 ล้าน บาท รมว.คลังกล่าว
* มาร์คไม่ลดงบฯถนนไร้ฝุ่น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่ได้เป็นการปรับลดงบฯ จำนวนเงินยังคงเดิมแต่จะปรับโครงการให้เกิดความเหมาะสม อย่างไร ก็ตาม ที่มีข่าวว่ารัฐบาลอาจจะถอนร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิฯก็ไม่เป็นความจริง
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ระบุ ว่าจะปรับปรุงโครงการในแผนปฏิบัติการไทย เข้มแข็ง รวมถึงโครงการถนนไร้ฝุ่นที่เป็นของพรรคภูมิใจไทยด้วยว่า เข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความคิดส่วนตัวของนายไตรรงค์ แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเป็นคนละเรื่องกับ การสร้างให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โตอย่างที่นายไตรรงค์บอก
* ไตรรงค์ทำจริงต้องคุยกัน
หลักคิดของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเป็นการทำให้ประเทศเข้มแข็งด้วยการ สร้างสาธารณูปโภคใหม่ ๆ ให้มีครบถ้วนทั้งในส่วนกลางและต่างจังหวัด ซึ่งโครงการถนนไร้ฝุ่นเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ นอกจากนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ถ้าจะมีการระงับก็ต้องมีการอธิบายเหตุผล โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวและว่า เรื่องนี้เมื่อเป็นดำริของท่านที่ดูแลเศรษฐกิจ เราคิดว่ากำลังเดินหน้าอยู่ก็มาเบรก พรรคก็อาจจะหน้าคะมำลงก็ได้แล้วมันก็เสียหายมาถึงรัฐบาล
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน พรรคเห็นว่าโครงการนี้ยังเป็นประโยชน์กับประชาชน สิ่งที่นายไตรรงค์คิดอาจเป็นเรื่องของการทำความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน วันนี้ต้องทำหลักคิดให้ตรงกันก่อนว่าเรื่องทั้งหมดเป็นโครงการของรัฐบาล เมื่อถามว่า มองเจตนาของรองนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้อย่างไร โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า คิดว่านายไตรรงค์มองในมุมเศรษฐกิจ คงไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจแต่ถึงเวลาคงต้องมีการพูดคุยกัน และไม่เป็นการตอกย้ำรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล
* แขวะ ปชป.อย่าขี้เหนียว
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ตีรวนพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า ตนไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าการลงทุนถนนหลวงชนบทประชาชนแต่ละ พื้นที่ได้ประโยชน์ ไม่อยากให้รัฐบาลมาเสียดายเงินเพียง 5 ล้านบาท ที่จะสร้างถนนได้ถึง 2 กม. ในหมู่บ้าน แต่ลงทุนหลายแสนล้านบาทกับโครงการรถไฟฟ้าใน กทม.
ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า โครงการถนนปลอดฝุ่นที่เราสนับ สนุนเพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนชนบท เราจะเดินหน้าต่อไป โครงการนี้ประชาชน ในชนบทได้ประโยชน์ เราเป็นตัวแทนของประชาชนก็ต้องดูแลประชาชนทุกส่วน ไม่ ใช่ว่าเป็นตัวแทนของคนจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เราเป็นพรรคการเมืองต้องทำงานให้คนทั้ง ประเทศ
* สามสีเคลียร์โสภณแล้ว
นางค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงสาเหตุที่เตรียมยกเลิกโครงการถนนไร้ฝุ่นว่า ตนได้พูดคุยกับนายโสภณในที่ประชุม ครม. แล้ว ก็เห็นตามหลักการของตนที่ต้องการให้เรียงลำดับความสำคัญโครงการต่าง ๆ เสียใหม่ นายโสภณเป็นคนมีสมองไม่อย่างนั้นก็คงไม่ได้มาเป็นรัฐมนตรี จึงเข้าใจในหลักการที่ตนเสนอ ส่วนที่มีความกังวลว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท อาจจะถูกคว่ำได้นั้น ตนไม่กังวล และไม่คิดว่าประเด็นเรื่องถนนไร้ฝุ่นจะทำให้เกิดปัญหา ไม่เช่นนั้นตนคงรับไม่ได้ถ้าจะมาคว่ำร่าง พ.ร.บ.กู้เงินเพียงเพราะไม่พอใจข้อเสนอของตน
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าโครงการต่อไป หากใครจะให้ล้มโครงการต้องไปชี้แจงกับชาวบ้านว่าเพราะเหตุใด แต่เรื่องนี้จะไม่กระทบกับการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
* สุวัจน์จัดงานครบ 55 ปี
อีกด้านหนึ่งที่บ้านพักซอยราชวิถี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้จัดงานคล้ายวันเกิดครบ 55 ปี มีนักการเมือง นักธุรกิจ และบุคคลในแวดวงกีฬา และ ส.ส. มาร่วมอวยพร โดยนายสุวัจน์ได้แจกหลวงพ่อนิมิตรดี วัดธรรมนิมิตร และหลวงพ่อตามใจ วัดพระยาไม้ จ.ราชบุรี ให้ผู้ที่มาร่วมงานด้วย อย่างไรก็ตามในงานดังกล่าวตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาเมื่อมอบกระเช้าดอกไม้เสร็จแล้ว ไม่ยอมอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย
นายสุวัจน์กล่าวว่า ของขวัญวันเกิดที่อยากได้มากที่สุดคืออยากให้บ้านเมืองสงบสุข และอยากเห็นการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลสำเร็จลุล่วง วันนี้แนวโน้มเศรษฐกิจ ดีขึ้นมาก หากรัฐบาลมีเสถียรภาพก็จะเป็นสิ่งดีในการแก้ปัญหา ส่วนอนาคตจะกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่ยังบอกไม่ได้ เพราะยังเหลือเวลาอีก 2 ปี วันนี้การเมืองเป็นของคนรุ่นที่ 3 สำหรับตนขอดูอย่างห่าง ๆ ถ้าบ้านเมืองเรียบร้อยก็คงปล่อยให้รุ่นต่อไป ทำงาน แต่หากเห็นว่าตนยังมีประโยชน์ก็ พร้อมกลับเข้ามาทำงาน
* แนะถอยแก้ รธน.ถ้าขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเสถียรภาพรัฐ บาลในขณะนี้อย่างไร นายสุวัจน์กล่าวว่า ยังไม่เสียหายอะไรมาก แต่อาจมองต่างมุมในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภาพที่ออกมาจึงดูมีความขัดแย้ง แต่คิดว่าคงไม่นำไปสู่ความแตกแยก ซึ่งเสถียรภาพรัฐบาลสำคัญมากต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เรื่องรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องตายของประเทศ จึงไม่ควรนำเรื่องนี้ไปสู่ความขัดแย้ง หากแก้แล้วทำให้เกิดความขัดแย้งก็ควรยุติแล้วกลับมาสู่จุดเดิม เมื่อถามว่า พร้อมเป็นแกนกลางที่จะประสานความเข้าใจระหว่างพรรคร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า นายกฯ มอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม เป็นผู้ประสานอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า ห่วงสถานการณ์การตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทในวันที่ 26 ก.พ. หรือไม่ นายสุวัจน์ยอมรับว่า เป็นห่วง
* มาร์คไม่เชื่อเก้าอี้หาย
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่อยู่ร่วมรับประทานอาหารในวันเกิดนายสุวัจน์ว่า ไม่ต้องมีตีความอะไรเพราะไม่ได้มีความหมาย ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไปจับมือเปลี่ยนขั้วทางการเมืองและสนับสนุนให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมน ตรี เป็นนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนที่นายอภิสิทธิ์จะเดินทางมาประชุมพรรคในช่วงบ่าย ได้มีพระสงฆ์จากวัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด นำสายสิญจน์มาผูกข้อมือให้กับนายกฯ นอก จากนั้นยังได้มอบพระเครื่องจำนวน 10 องค์อาทิ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ชาลี หลวงปู่ดุลและผ้ายันต์ของหลวงพ่อคูณให้นายกฯเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย ทั้งนี้นายกฯ รับมอบวัตถุมงคลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
* ชทพ.ปัดข่าวพลิกขั้ว
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงข่าวนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทยเพื่อพลิกขั้วทางการเมืองว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีฝุ่นตลบแน่นอน เข้าใจว่าเป็นการ โยงเข้ากับกระแสแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า กระแสข่าวดังกล่าวจะเป็นการดิสเครดิตนายบรรหารหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า ไม่ แต่ทำให้การเมืองสับสนวุ่นวาย เรื่องนี้คงไม่ต้องถามนายบรรหารเพราะมันไม่มี ถ้าไปเต้นตามข่าวก็ไม่ต้องทำมาหากิน
เมื่อถามว่า กรณีที่แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้อยู่ร่วมทานข้าวกับนายกฯ และแกนนำพรรคร่วมอื่นที่บ้านนายสุวัจน์มีนัยอะไรหรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า ที่ตนไม่อยู่เนื่องจากต้องมาเป็นประธานในการประชุมพรรค และก่อนหน้านั้นได้ทานก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟกับ นพ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
* อย่าเอาทุกเรื่องมาโยงกัน
นายชุมพลกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนสน ใจเรื่องที่ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. จะส่งสัญญาณเพื่อส่งคดีเงินบริจาค ให้พรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ตนสนใจอันนี้มาก กว่า ตอนนี้บ้านเมืองกำลังสับสนวุ่นวาย ทำใจให้หนักแน่น เอาประเทศชาติไว้ก่อน ส่วนรัฐสภาก็ว่าเรื่องรัฐธรรมนูญกันไป และศาลฎีกาจะพิจารณาคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็พิจารณากันไป อย่าเอาเรื่องทั้งหมดมาผูกโยงกัน
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ว่า นายอภิชาตได้แจ้งให้ที่ประชุม กกต. ทราบเป็นระยะ แต่ไม่ได้ลงลึกรายละเอียด เพราะอยู่ขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมข้อมูลอยู่ ตนอยากให้สำนวนดังกล่าวมีความ ชัดเจนภายในเดือน ก.พ. นี้ เพราะไม่อยากให้มีการยืดเยื้อให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
* กกต.ยื้อเงินบริจาค ปชป.
นายอภิชาต ประธาน กกต. เปิดเผยความคืบหน้าคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทและเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า รายงานเบื้องต้นภายในเดือน ก.พ. คงไม่สามารถ พิจารณาได้แล้วเสร็จ ตนดูแล้วคิดว่าเรื่องจะ ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ จึงต้องสืบหาพยานหลักฐานเอกสารข้อเท็จจริงให้ชัดเจนพร้อมที่จะให้ศาลวินิจฉัยได้เลย และขณะนี้มีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินต้องดำเนินการตรวจสอบกับธนาคาร แต่ไม่ทราบว่าจะสอบถามไปยังธนาคารโดยตรงได้หรือไม่ เพราะ ว่านายทะเบียนไม่มีอำนาจเหมือน กกต.
นายอภิชาตกล่าวต่อว่าหนังสือที่ทางดีเอสไอส่งมาไม่ได้มีอะไรชัดเจนเลยว่าใครทำผิดอย่างไร ประกอบกับเรื่องการตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารของบริษัททีพีไอ ที่เกี่ยวกับการยักยอกเงินดีเอสไอก็ยังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้น ทั้งที่จริงเรื่องนี้ทางดีเอสไอน่าจะส่งศาลได้แล้วแต่เรื่องก็เงียบไป และยังไม่ได้สรุปว่ามีการยักยอกเงิน 258 ล้านบาทจริงหรือไม่ ยืนยันว่าการดำเนินการของ ตนจะเป็นมาตรฐานเดียว ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
* ชัยนัดประชุมแก้ รธน.
วันเดียวกันนายชัย ชิดชอบ ประธาน รัฐสภา ได้เรียกวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิ หารือกรณีการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และกรอบการเจรจาระหว่างประเทศ โดยใช้เวลาการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนายชัยแถลงว่า ที่ประชุมมีมตินัดประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณาวาระเรื่องด่วนเรื่องแรกคือ พิจารณาญัตติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ของ คป. พร. เรื่องด่วนที่ 2 คือ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น ของพรรคร่วมรัฐบาล จากนั้นเป็นวาระกรอบการเจรจากับต่างประเทศตามมาตรา 190 จำนวน 4 เรื่อง
รายงานข่าวจากที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล ได้แจ้งที่ประชุมทราบถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเปิดโอกาสให้ส.ส. อภิปรายได้อย่างเต็มที่ หากที่ประชุมเสนอให้มีการลงมติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของพรรคร่วม ที่ประชุมพรรคจะงดออกเสียง เพื่อไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของพรรคร่วมรัฐบาล
* พบพิรุธกองทัพซื้ออาวุธ
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นคร ราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้เตรียมที่จะนำเสนอข้อมูลเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เนื่องจากพบความผิดปกติในการจัดซื้ออาวุธยุทธโธปกรณ์ของกองทัพจำนวนมาก เช่น เครื่องช่วยฝึกยิงอาวุธประจำกาย เครื่องบินกริฟเพน เรือเหาะ เครื่องตรวจระเบิดและสารเสพติดจีที 200 และอัลฟ่า 6 ซึ่งพบว่ามีการอนุมัติซื้อมากที่สุดในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องค มนตรี และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็น รมว.กลาโหม
พ.ต.ท.สมชาย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่าโครงการจัดซื้อรถ 4 ล้อ ลำเลียงของกองทัพบก ยังมีความไม่ชอบมาพากล เป็นการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษเช่นกัน จาก บริษัทหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น วงเงิน 4,996 ล้านบาทในราคายกเว้นภาษี จำนวน 1,474 คัน ซึ่งราคาเฉลี่ยตกคันละ 3 ล้านกว่าบาท ถือว่าสูงเกินความจริงมาก เพราะเป็นรถบรรทุก 4 ล้อธรรมดาที่ราชการทหารไม่ใช้กัน
* น้องยิ้มสุขสมฉลองแต่ง
ค่ำวันเดียวกันที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี รอยัล เมอริเดียน ได้มีการจัดงานเลี้ยงฉลองสมรสพระราชทานระหว่างนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย บุตรชายนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมว. ยุติธรรม กับ น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ บุตรสาวนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ท่ามกลางความปลื้มปีติของพ่อแม่ฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานดังกล่าวมีแขกผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญทั้งจากแวดวงการเมืองในซีกฝ่ายค้าน รัฐบาลและแวดวงธุรกิจมาร่วมแสดงความยินดีและอวยพรอย่างคับคั่งกว่า 500 คน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิ สภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น.
