จิ๋วไม่รับผบ.สส.

จิ๋วไม่รับผบ.สส.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ยันเสื้อแดงสู้ด้วยสันติวิธี แอ้ดคืนเขายายเที่ยงแล้ว

ปฏิเสธทันควัน ไม่รับตำแหน่ง แม่ทัพแดง ผบ.สส. คุมกองทัพประชาชนฯเปิดศึกรัฐบาล บิ๊กจิ๋ว เผยพร้อมร่วมแนวทางประชาชนผู้รักสันติมุ่งหาความเป็นธรรมมากกว่า ชี้ใฝ่สันติไม่จำเป็นต้องมีแม่ทัพ พัลลภ แจงตั้งชื่อหวังแค่เท่ ๆ เท่านั้น อภิสิทธิ์ เตือนอย่าตื่นตูม ปิดประตูเจรจาอดีตนายกฯ เทือก ชี้กองทัพเถื่อน ข่มขู่คุกคามประชาชนหากทำผิดจัดการขั้นเด็ดขาด ขู่เตรียมงัด พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ- พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้หมดแล้ว เตือนข้อหากบฏโทษประหารชีวิต ขณะที่เสื้อแดงทั่วประเทศตบเท้าชุมนุมหน้ากรมทหารฯ ยื่นหนังสือเรียกร้อง อย่าปฏิวัติ-รัฐประหาร ทำเอาแกนนำ นปช. พอใจภาพรวม เดินหน้าจี้ สนธิ ถวายฎีกาคดีหมิ่นสถาบันทำได้หรือไม่ ระบุสิ้นเดือน ก.พ. รบแตกหัก อธ. อัยการคดีอาญา ทำหนังสือแจ้งตำรวจหาตัว แกนนำ พธม. ส่งอัยการยื่นฟ้องฐานหมิ่นเบื้องสูงแล้ว อ้างเลื่อนรายงานตัวรอผลฎีกาไม่เกี่ยว บิ๊กแอ้ด ยอมคืนที่ดินเขายายเที่ยงแล้ว ไม่ขออุทรณ์คำสั่งอธิบดีกรมป่าไม้

กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันที กรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ประกาศตั้ง กองทัพประชาชนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (กปช.) โดยให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เป็น ผบ.สส.กปช. ในการต่อสู้เพื่อนำความสงบสุข เนื่องจากทนไม่ไหวกับสภาพบ้านเมืองที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความไม่ถูกต้องเรื่อง 2 มาตรฐานในประเทศ ขณะที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุจะเดินทางชุมนุมไปยังหน่วยทหารทั่วประเทศ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการทำรัฐประหาร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

* มาร์คเตือนอย่าตื่นตระหนก

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่โรงแรมดุสิตธานี เวลา 08.30 น. วันที่ 4 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศแต่งตั้งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เป็น ผบ.สส.กปช.ว่า เป็นเรื่องที่ต่อ เนื่องกับแนวทางที่พยายามเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวให้เกิดความรู้สึกว่าจะมีความวุ่นวายขึ้น ตนคิดว่าทุกคนต้องไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าตื่นตระหนกแต่ก็อย่าประมาท ถามว่ามีการยื่นเงื่อนไขให้เวลารัฐบาลในการเจรจาจนถึงสิ้นเดือน ก.พ.นี้ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรง คิดว่าแนวทางการเจรจายังมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงความเคารพกระบวนการยุติธรรม ตนก็มั่นใจว่าสังคมพร้อมให้อภัย แต่หากยังไม่ยอมรับผิด ไม่ยอมรับกระบวนการ ก็เป็นเรื่องยากที่จะเจรจากัน

* เทือกไม่รับกองทัพเถื่อน

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การที่ออกมาประกาศจัดตั้งกองทัพประชาชน และพูดลักษณะต่อรองกับรัฐบาลว่าถ้าไม่เจรจาจะดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นการข่มขู่รัฐบาล อยากบอกว่ารัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จึงมีความชอบธรรม ที่จะบริหารประเทศ ในฐานะที่ตนเป็นรองนายกฯ รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคง ตนไม่ยอมรับกองทัพเถื่อนใด ๆ ทั้งสิ้น และจะไม่ยอมให้กองทัพเถื่อนมาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือมาข่มขู่รัฐบาล ข่มขู่ประชาชนโดยเด็ดขาด

* ลั่นเอาไม่อยู่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

ทั้งนี้หลังประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงเสร็จ นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ตนสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวใต้ดินอยู่ แต่ยังไม่มีการรายงานว่ามีกองกำลังไม่ติดอาวุธอย่างที่มีข่าวในขณะนี้เบื้องต้นจะใช้ตำรวจเป็นกำลังหลัก และใช้กฎหมายปกติไปก่อนตราบใดที่ยังไม่เกิดความรุนแรง แต่ถ้ากฎหมายปกติเอาไม่อยู่ ดูท่าทางว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น เราประกาศพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร แต่ถ้าถึงขนาดเข้ามาทำอะไรที่อาจเป็นการจลาจล เผาบ้านเผาเมือง ตนก็จะประกาศใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเตรียมไว้หมดแล้ว

* เข้าข่ายกบฏโทษประหาร

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะทำงานเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมพิจารณาประเด็นการจัดตั้งกองทัพฯ ของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เป็นการสร้างรูปการณ์เพื่อจะสร้างความรุนแรง สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือการแอบอ้างกระทำในนาม กปช.ถือเป็นการใช้ยุทธศาสตร์ต่อรองสถาบัน หวังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มั่นใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่สัมฤทธิผล ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การ กระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 153-154 เข้าข่ายกระทำผิดฐานกบฏมีสิทธิติดคุก หรือประหารชีวิต

* จิ๋วปัดรับตำแหน่งแม่ทัพ

ที่พรรคเพื่อไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงว่า ที่ปรากฏเป็นข่าวใหญ่โตว่าตนได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.สส. กปช.นั้น ขอเรียนว่าคำว่ากองทัพประชาชนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคงจะหมายถึง กองทัพที่มาจากประชาชน และความหมายที่สอง อาจมีคนไปพูดว่า เป็นเรื่องของพี่น้องเสื้อแดงที่วันนี้มีความเติบโตมาก คงต้องเข้าใจว่ากลุ่มพี่น้องเสื้อแดงเกิดขึ้นมาบนความปรารถนาที่จะเห็นความเป็นธรรม และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนยืนยันว่าพี่น้องเสื้อแดงยึดมั่นสันติวิธี การออกมาพูดถึงเรื่องนี้ เข้าใจว่า พล.อ.พัลลภ คงหมายถึงว่าให้ตนเป็นหัวหน้าประชาชนที่ใฝ่สันติเพื่อประโยชน์ชาติ คงไม่ใช่ให้ไปเป็นอะไรที่สร้างความเสียหาย การที่จะให้ไปเป็นผบ.สส.ก็คงเป็นไปไม่ได้

* ชี้ใฝ่สันติไม่จำเป็นต้องมีผู้นำ

ถามว่าพร้อมที่จะรับเป็นผบ.สส.กองทัพประชาชนฯของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่าไปเรียกอย่างนั้นจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งที่ผู้พูดอาจไม่มีเจตนา ก็คงขอปฏิเสธที่จะใช้ถ้อยคำนี้ แต่ถ้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพี่น้องประชาชน ที่รักบ้านเมือง ใฝ่สันติก็แน่นอนที่สุดต้องร่วมอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นว่าต้องไปเป็นผู้นำ ถามว่าที่เคยบอกจะเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษได้เข้าพบแล้วหรือยัง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าเป็นความลับ พล.อ.เปรม ท่านมีเจตนารมณ์ที่ดีต่อบ้านเมือง ท่านอาจจะมีอารมณ์โกรธเข้าใจผิดไปบ้างก็เป็นธรรมดา แต่เมื่อท่านเข้าใจแล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไร

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ได้เข้าร่วมประชุมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่อาคารชินวัตร 3 ซึ่งที่ผ่านมาถูกใช้เป็นสถานที่ประชุมลับของแกนนำระดับสูงสุดของพรรคเพื่อไทย โดยในการแถลงข่าววันนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องดังกล่าวกับ พล.อ.ชวลิตว่าไปหารือกับใคร พล.อ.ชวลิต ย้อนถามติดตลกว่า ทำไมรู้ว่าผมไปตึกนู้น อู้ฮู้เก่งจังเลย ก็แอบไปดูอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ

* แม้วทวีตแก้ข่าวตั้งกองทัพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านเว็บบล็อกส่วนตัวทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ กรณีข่าวการจัดตั้งกองทัพประชาชนแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (กปช.) โดยให้ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดว่า อย่าตกใจกับข่าวว่าจะมีอะไรรุนแรง ผมบอกทุกคนที่มาหาว่าเราจะต่อสู้ด้วยความจริงโดยสันติวิธี การพูดของเสธ.แดงเป็นการเตือนรัฐบาลไม่ให้ปราบประชาชนก็เท่านั้น

* บุกกรมทหารอ่านแถลงการณ์

ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคน เสื้อแดง ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีฯ เช้าวันเดียวกัน กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 200 คนทยอยเดินทางมาชุมนุมบริเวณฟุตปาธด้านหน้า ทำให้การจราจรถนนวิภาวดีฯติดขัดอย่างมาก โดยมีแกนนำจากวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้มีการประกาศเจตนารมณ์ความเป็นมิตรกับทหารที่แท้จริง และขอประกาศต่อต้านทหารบางนายที่แฝงตัวในกองทัพ แต่นิยมอำนาจเผด็จการ เรียกร้องให้ทหารทั้งหลายปฏิเสธการทำรัฐประหารโดยเด็ดขาด กระทั่งเวลา 11.00 น. จึงสลายการชุมนุม โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับที่กรมทหารราบที่ 11 รอ.ย่านบางเขน ก็มีการชุมนุมอย่างสงบเช่นกัน

* เสื้อแดงรวมพลทั่วประเทศ

ส่วนความเคลื่อนไหวตามต่างจังหวัด เริ่มที่ จ.ราชบุรี นปช.กลุ่ม 4 ภาคตะวันตกกว่า 100 คน รวมตัวกันหน้าสโมสรนายทหารชั้นประทวน คภาณุรังษี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนที่ไม่ ต้องการรัฐประหาร ด้าน จ.ระยอง หน้าประตูทางเข้าค่ายมหาสุรสิงหนาถ กองพันทหารราบที่ 7 เครือข่ายคนเสื้อแดงในนามชมรมแดงระยอง 52 ต่อต้านเผด็จการ รวมตัวกันประกาศเจตนารมณ์เป็นมิตรกับทหาร ต่อต้าน รัฐประหาร ก่อนจะยื่นหนังสือและมอบดอกกุหลาบแดงให้กับทหารที่มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย ขณะที่หน้าโรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 400 คน เข้าร่วมชุมนุม เช่นเดียวกับที่หน้ากองพล ทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี, ค่ายพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี ก็มีการชุมนุมด้วย ส่วนหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน อ่านแถลงการณ์ พร้อมโจมตีการทำงานของรัฐบาลก่อนมีการ เผาหุ่นนายกรัฐมนตรี ก่อนผู้ชุมนุมจะสลาย ตัว ด้าน จ.ลพบุรี มีการชุมนุมหน้าหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 13 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์

* ทหารแตงโมเขียว-แดง

เช่นเดียวกับที่หน้ากรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ ริมถนนสุวรรณศร อ.เมือง จ.สระแก้ว กลุ่มคนเสื้อแดงสระแก้ว เดินทางมารวมตัวอ่านแถลงการณ์ต่อต้านทหารไม่ให้ทำรัฐประหาร ก่อนสลายตัวไปโดยไม่มีเหตุ การณ์รุนแรงแต่อย่างใด ด้าน จ.จันทบุรี คนเสื้อแดงกว่า 500 คน ชุมนุมหน้ากองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี (ค่ายตากสินจันทบุรี) เรียกร้องไม่สนับสนุนรัฐประหาร ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดง จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางไปยังโรงงานซ่อมยาง กองโรงงานซ่อม สร้างรถยนต์ทหาร ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก และหมวด สห.ที่ 24 ต.ท่าวาสุกรี เพื่ออ่านแถลงการณ์ พร้อมให้กำลังใจทหาร เขย่าตีนตบก่อนหยอกล้อว่าทหารทุกนายเป็นทหารแตงโม ข้างนอกเขียว แต่ข้างในสีแดง ทำเอาทหารที่มาสังเกตการณ์พากันอมยิ้มกันเป็นแถว

* อีสานตำรวจ-ทหารคุมเข้ม

ส่วนทางภาคอีสาน จ.อุดรธานี นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร นำสมาชิกชมรมคนรักอุดร และกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 500 คน ชุมนุมที่บริเวณหน้าค่ายประจักษ์ศิลปาคม ต่อต้านเผด็จการ โดย มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. และสารวัตรทหารบกกว่า 100 นาย คอยดูแลรักษาความ สงบเรียบร้อย ส่วนที่หน้าค่ายกฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร กลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน กว่า 1,200 คน รวมตัวกันโดยสงบเรียกร้องไม่ให้ทหารร่วมปฏิวัติ-รัฐประหาร โดยมีตำรวจ-ทหารตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยกระจายอยู่เต็มไปหมด หลังอ่านแถลงการณ์เสร็จก็แยกย้ายกันกลับ เช่นเดียวกับการชุมนุมบริเวณหน้าค่ายศรีสองรัก อ.เมือง จ.เลย, หน้าค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จ.ร้อยเอ็ด, หน้ากรมทหารราบที่ 16 ค่าย บดินทรเดชา จ.ยโสธร, ลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา, หน้าค่ายวีรวัฒน์ โยธิน จ.สุรินทร์, สนามหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย, หน้าค่ายศรีพัชรินทร มณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น, หน้าค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม ก็เป็นไปอย่างสงบด้วยเช่นกัน

* รวมพลังต้านขี้ข้าอำมาตย์

ที่ จ.นครสวรรค์ นายวันชัย วงศ์สิทธิกร แกนนำคนเสื้อแดงนครสวรรค์ นำคนเสื้อแดงจาก 4 จังหวัดได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และกำแพงเพชร กว่า 500 คน เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ต่อต้านรัฐประหาร หน้ามณฑลทหารบกที่ 31 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ตามยุทธศาสตร์แดงทั้งแผ่นดิน ผูกมิตรทหารกล้า ต้านขี้ข้าอำมาตย์ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะสลายตัวไป ส่วน จ.พิษณุโลก นายบุญเลิศ เรืองทิม หรือ เลิศ ไม้เก่า นายพยัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.สิงห์บุรี และนายประมวล ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก พร้อมกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 200 คน รวมตัวกันที่หน้าค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ (บชร.3) กองทัพภาคที่ 3 ประกาศเจตนารมณ์ ยื่นหนังสือแถลงการณ์ ไม่ต้องการให้ทหารก่อ การรัฐประหาร ส่วนหน้าค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จ.เชียงใหม่ กลุ่มเสื้อแดงกว่า 300 คน พร้อมใจแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร เช่นเดียวกับที่หน้าค่ายสุริย พงษ์ จ.น่าน, ที่ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช จ.พะเยา, ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงใหม่ ก็มีการชุมนุมกันอย่างสงบ

* ใต้ร่วมประกาศเจตนารมณ์

ที่เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เครือข่ายคนเสื้อแดง ในนามกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 30 คน รวมตัวกันไปยังมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ ยื่นหนังสือแถลงการณ์ นปช.แดงทั้งแผ่นดินต่อต้านการทำรัฐประหาร ส่วนหน้าค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี หน้ากองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จ.สตูล, หน้าค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 จ.ตรัง, หน้าศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบ คีรีขันธ์ กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้มารวมตัวอ่านแถลงการณ์ ประกาศเจตนารมณ์ก่อนสลายตัวกลับเช่นกัน

อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปร่วมพิธีศพภรรยาของนายอ่ำ รองเงิน อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ที่วัดพิกุลทอง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด

* พอใจภาพรวมต้านปฏิวัติ

ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษก นปช. ร่วมกันจัดรายการสดของคนเสื้อแดง ที่รวมพลังเดินทางไปยังค่ายทหารทั่วประเทศ เพื่ออ่านแถลงการณ์ต่อต้านรัฐประหาร ผ่านทางสถานีโทรทัศน์พีเพิล ชาแนล โดยมีกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนเข้าร่วมรายการโดย นายณัฐวุฒิ กล่าวหลังจัดรายการว่า ภาพรวมถือเป็นเรื่องที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ที่คนเสื้อแดงทุกกลุ่มออกมาแสดงพลังต้านทหารที่คิดจะทำรัฐประหาร ภาพแบบนี้เราไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งจะเป็นตัวอธิบายว่าคนเสื้อแดงพร้อมจะเปลี่ยนแปลงประเทศให้พ้นจากระบอบอำมาตย์

* ไม่เกี่ยวกองทัพประชาชน

ถามว่า กองทัพนักรบประชาธิปไตยเชื่อมโยงกับกระแสข่าวที่จะมีการตั้งกองทัพประชาชน และชู พล.อ.ชวลิต เป็นผู้นำอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ พล.อ.พัลลภ และพล.ต. ขัตติยะ คิดอ่านกัน 2 คนหรือไม่ เรายืนยันมาตลอดว่าคนเสื้อแดงต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธี ซึ่งถ้าแนวทางของ พล.อ.พัลลภเป็นแนวทางโดยสันติวิธีก็ถือว่าไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้ แต่วันนี้เรายังไม่ทราบรายละเอียดว่า พล.อ.พัลลภ จะมีการขับเคลื่อนอย่างไร ขอย้ำว่าการเคลื่อนไหวไม่ได้ผูกติดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งเรื่องยึดทรัพย์และคดีความอื่น ๆ เราสู้เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย เนื่องจากวันนี้คนเสื้อแดงถูกกระทำอย่างหนึ่ง ขณะที่คนเสื้อเหลืองเป็นอภิสิทธิ์ชน

* ปลายก.พ.ศึกครั้งสุดท้าย

ถามว่าจะเห็นการชุมนุมใหญ่ในสัปดาห์สุดท้ายตามที่มีการคาดการณ์หรือไม่ นายณัฐวุฒิ ตอบว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจเคลื่อนไหวโหมโรงวันที่ 15 ก.พ.แล้ว แกนนำนปช.จะประชุมหารืออีกครั้ง ทั้งนี้การต่อสู้ครั้งสุดท้ายช่วงปลายเดือนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แกนนำจะไม่หนี เราไม่มีแผนสองที่จะหนีไปต่างประเทศ เราตั้งใจที่จะร่วมต่อสู้ กับประชาชนจนบรรลุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง งานนี้ไม่มีเสมอ มีแต่แพ้กับชนะ ตนไม่ใช่นักรบที่สู้แล้วหนี วินาทีสุดท้ายของการต่อสู้จะเห็นแกนนำอยู่ร่วมด้วยแน่นอน

* พัลลภระบุเรื่องเข้าใจผิด

ด้าน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทาง กลับจากดูไบ ว่าเรื่องตั้งกองทัพประชาชน เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ตนจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่พรรคฯ วันที่ 5 ก.พ.นี้ ข้อเท็จจริงคือตนมีความเป็นห่วงกรณีที่มีประชาชนจำนวนมากนับล้านคน เตรียมจะเดินทางมาชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทราบว่าอาจจะเป็นปลาย ก.พ. หรือต้น มี.ค.นี้ การที่คนจะมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ต้องมีคนที่มีบารมี เป็นผู้ใหญ่มาเป็นผู้นำเข้ามาช่วยดูแลไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งก็เห็นว่าพล.อ. ชวลิต เป็นคนเดียวที่มีความเหมาะสม เพราะ นอกจากจะมีบารมีแล้วยังเป็นคนประนีประนอมด้วย

* อ้างใช้กองทัพปชช.เท่ดี

พล.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า ส่วนคำว่ากองทัพประชาชน ความหมายจริงคือการรวมตัวของคนจำนวนมากที่จะเกิดขึ้น และตนก็คิดว่าทำอย่างไรให้มันเท่ ก็เลยใช้คำว่ากองทัพประชาชน เพราะรู้สึกว่าเท่ดี แต่พอ พล.ต. ขัตติยะ ไปพูดว่าจะให้ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้นำ เลยเกิดความตกใจ เข้าใจผิดไปกันใหญ่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีอะไรอย่างนั้น อย่างไรก็ตามก่อนที่ตนจะเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้เข้าพบ พล.อ.ชวลิต และได้เรียนขอให้ท่านเข้ามาช่วยดูแลประชาชนที่จะเข้ามาแล้ว ซึ่ง พล.อ.ชวลิตก็ตกลง เพราะท่านเองก็มีความเป็นห่สถานการณ์ อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า พล.อ.ชวลิต จะเป็นผู้นำคนเสื้อแดง แต่หมายถึงการช่วยดูแล พูดจาบ้างเท่านั้น ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กังวลคดียึดทรัพย์หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ได้วิตก โดยบอกว่าเป็นทรัพย์ที่พิสูจน์ได้ว่ามีมาแต่เดิม มองข้ามประเด็นนี้ไปแล้ว แต่เรามองไปถึงเรื่องความไม่ยุติธรรม สองมาตรฐานมากกว่า

* เตรียมชุมนุมสนง.อัยการ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. กล่าวถึงกรณี ที่อัยการฝ่ายคดีอาญาออกมาระบุว่ายังไม่สามารถยื่นฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม. และหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากนำคำปราศรัยของนางดารุณี เชิงชาญศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด ไปเผยแพร่ โดยให้เหตุผลว่ายังอยู่ในขั้นตอนการถวายฎีกาว่า ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ใช้เงื่อนไขถวายฎีกาในชั้นอัยการ หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้จะเกิดการเลียนแบบถวายฎีกาตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน นี่ไม่ใช่เรื่อง 2 มาตรฐาน แต่เป็นเรื่อง ที่ไร้มาตรฐาน เป็นการหาข้ออ้างเพื่อนายสนธิคนเดียว เพราะศาลสั่งจำคุกนางดารุณีไปแล้ว 18 ปี ตามกฎหมายตัวการกับผู้ร่วมดำเนินการจะมีความผิดเท่ากัน โดยวันที่ 8 ก.พ.นี้ คนเสื้อแดงจะเดินทางไปที่สำนักงานอัยการ ถนนรัชดาฯ เพื่อทวงถามเรื่องดังกล่าวด้วย

* สั่งตร.ตามตัวสนธิส่ง อัยการ

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายกาย สิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวกรณีที่นายสนธิ กรณีอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 51 เลื่อนการเข้ารายงานตัวโดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า ตามข้อกฎหมายแล้วเมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องนายสนธิแล้วจะต้องนำตัวไปยื่นฟ้องเป็นจำเลย ต่อศาล กระบวนการต้องดำเนินการต่อไป โดยอัยการได้มีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ไปดำเนินการติดตามตัวนายสนธิมาให้อัยการส่งฟ้องแล้ว ส่วนจะต้องขอศาลอนุมัติหมายจับมาส่งฟ้องหรือไม่นั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

* แจงยื่นถวายฎีกาทำได้2กรณี

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวต่อว่า กรณีนายสนธิยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษทั้งที่ศาลยังไม่ได้พิจารณาพิพากษาลงโทษนั้นโดยทั่วไปการยื่นถวายฎีกาทำได้ 2 กรณี คือกรณีราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องทั่วไป อีกกรณีคือยื่นถวายฎีกาเรื่องคดี ซึ่งถูกศาลพิพากษาจำคุก และคดีสิ้นสุดแล้วให้ลงโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ยื่นผ่านกระทรวงยุติ ธรรม กรณีนายสนธิไม่ทราบว่าจะเข้าหลักเกณฑ์ที่กระทรวงยุติธรรมกำหนดไว้หรือไม่ หรือสำนักพระราชวังจะรับฎีกาไว้หรือไม่ แต่พนักงานอัยการคงไม่รอจึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาส่งอัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อไป

* ไม่เข้าเงื่อนไขยุติธรรม

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบ สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า เรื่องการทูลเกล้า ขอพระราชทานอภัยโทษผ่านกระทรวง ยุติธรรมต้องเป็นกรณีที่ศาลพิพากษาให้คดี ถึงที่สุดแล้ว ดังนั้นคาดว่ากรณีของนายสนธิ น่าจะเป็นการถวายฎีกาเรื่องทุกข์ร้อนทั่วไป อาจจะยื่นไปถึงสำนักราชเลขาธิการโดยตรงไม่เข้าเงื่อนไขที่ต้องผ่านกระทรวงยุติธรรม สำหรับเงื่อนไขในการขอพระราชทานอภัย โทษหรือถวายคำแนะนำมีอยู่ด้วยกัน 4 ประการคือ 1.เมื่อคดีถึงที่สุด 2.ผู้ถวายเรื่องราว (ผู้ต้องคำพิพากษา) ต้องจำคุกอยู่ในเรือนจำ 3.เมื่อมีการขอพระราชทานอภัย โทษแล้ว แต่ไม่ได้รับพระราชทาน จะยื่นซ้ำไม่ได้จนกว่าจะพ้นกำหนด 2 ปี และ 4.การพระราชทานอภัยโทษคดีหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับคดีอื่นที่มีการพิจารณาอยู่ในศาล

* น.1 สั่งคุมเข้มบ้านพักนายกฯ

ส่วนคดีปาสิ่งปฏิกูลเข้าไปในบ้านพักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. มีบันทึกด่วนที่สุดให้ รอง ผบช.น. และ ผบก.น.5-ผบก.ตปพ.ออกตรวจสอบการปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยบ้าน พักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงให้รอง ผบช.น. ทุกท่าน ออกตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในซอยสุขุมวิท 31 โดยให้ลงบันทึกผลการตรวจไว้ในสมุดตรวจผู้ใหญ่ ซึ่ง สน.ทองหล่อ ได้จัดไว้ที่ป้อมตำรวจหน้าบ้านพัก และแจ้งให้ศูนย์วิทยุผ่านฟ้าทราบทุกครั้ง แล้วให้ศูนย์วิทยุผ่านฟ้ารวบรวมรายงานให้ ผบช.น.ทราบทุก 3 วัน จึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการต่อไป

* บิ๊กแอ้ดคืนที่ดินเขายายเที่ยง

ขณะที่ความคืบหน้าคดีรุกที่ดินเขายายเที่ยง พล.อ.นินนาท เบี้ยวไข่มุก นายทหารคนสนิท พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เปิดเผยว่า ทนายของ พล.อ.สุร ยุทธ์ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกรมป่าไม้เพื่อคืนที่ดินเขายายเที่ยงแล้ว โดยแจ้งความจำนงว่าจะไม่ขออุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีกรมป่าไม้ ที่เห็นชอบตามมติของคณะกรรมการฯ พิจารณาสิทธิในการถือครองที่ดินบริเวณดังกล่าว โดยวันที่ 11 ก.พ.นี้ จะมีตัวแทนของ พล.อ.สุรยุทธ์ ส่งมอบพื้นที่คืนให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขต 8 จ.นครราชสีมาตามขั้นตอน ซึ่งการดำเนินการในการคืนสิทธินั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการรังวัดที่ดินตามระเบียบ ก่อนปิดการใช้พื้นที่ดังกล่าวตาม ที่กรมป่าไม้ชี้ขาด ในระหว่างนี้ได้มีการเก็บของ และรื้อสิ่งปลูกสร้างบ้างแล้ว แต่ต้นไม้ที่มีการปลูกไว้ก็จะยังคงไว้ ไม้มีการตัดทำลาย แต่อย่างใด

* ฮุนเซนเยือนพื้นที่ทับซ้อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากภาคใต้ จากนั้นได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่อาคารสำนักงานท่าอากาศยานกรุงเทพ ดอนเมือง โดยมี ผบ.เหล่าทัพ รักษาการ ผบ.ตร. นายสุเทพ เข้าร่วมประชุมทันที ทั้งนี้นายสุเทพให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่า ไม่ได้มีเรื่องประชุมวาระพิเศษแต่อย่างใด แต่เนื่องจากพรุ่งนี้ส่วนใหญ่จะติดภารกิจกัน ถามว่ามีข่าวว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางมาพื้นที่ทับซ้อนใกล้กับปราสาทพระวิหาร จะมีการตรวจสอบหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า หากจะเข้ามาก็ได้ เราต้องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทั้งนี้คงรอดูสถานการณ์ก่อนว่าจะมาจริงหรือไม่ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าไม่ได้ตามมาด้วยแน่ ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชาเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า สมเด็จฮุนเซน จะเดินทางมาพื้นที่ทับซ้อนใกล้กับปราสาทพระวิหาร ระหว่างวันที่ 6-7 ก.พ.นี้ แต่ไม่ได้มีการแจ้งว่ามาด้วยเหตุผลใด ตรงนี้สื่อคงต้องถามสมเด็จฮุนเซน เอง.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook