ม.พัน4รอ.ติดป้ายห้ามเสธ.แดงเข้าออก

ม.พัน4รอ.ติดป้ายห้ามเสธ.แดงเข้าออก

ม.พัน4รอ.ติดป้ายห้ามเสธ.แดงเข้าออก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ม.พัน 4 รอ.ร่อนเอกสารสั่งห้าม "เสธ.แดง" พร้อมสมุน ผ่านเข้า-ออก กำลังพลสังกัดกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองศ์ ตบเท้าแสดงพลังปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ถูกนายทหารบางคนลบหลู่ก้าวร้าว

(27ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ม.พัน 4 รอ. พ.ท. ชินสรณ์ เรืองศุข ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ กล่าวถึงมาตรการป้องกันของหน่วยเกี่ยวกับการเข้า ออกพื้นที่ ม.พัน. 4 รอ.นั้นก็มีอยู่แล้วในเรื่องของการ รปภ.สถานที่ต้องมีการตรวจค้นยานพาหนะและบุคคลที่ผ่านมาเข้าออกทุกคน ซึ่งสืบเนื่องมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่ถูกคำสั่งพักราชการ และพบสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธสงครามจำหนวนหนึ่งจึงมีมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งทางผู้บัญชาการกองพลทหารม้าเห็นว่าควรเพิ่มเติมเรื่อง รปภ.สถานที่เนื่องจากว่ามีสิ่งผิดกำหมายที่เป็นอาวุธสงคราม ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายจึงให้สารวัตรทหารมาช่วยดูแลความปลอดภัย

ซึ่งมีความเป็นห่วงถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะเป็นพื้นที่ของบ้านพักของกำลังพลและครอบครัว กลัวจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดี และจะส่งผลกระทบต่อกองทัพบก ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์การเอาวัตถุระเบิดมาวางหน้าบ้านพักพล.ต.ขัตติยะ ถือว่าเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยตัวเขาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้ามาทำอะไรที่ไม่ดี

พ.ท.ชินสรณ์ กล่าวว่า สำหรับการสั่งห้ามพล.ต.ขัตติยะ เข้าพื้นที่ของกองพันทหารม้าที่ 4 รอ.นั้น ซึ่งมีอยู่ 2 ส่วน พื้นที่แรกคือสำนักงานคือตัว กองพันทหารม้าที่ 4 รอ. และพื้นที่บ้านพัก ซึ่งการแบ่งความรับผิดชอบในพื้นที่สำนักงานคือพื้นที่ห้ามเข้า ส่วนพื้นที่บ้านพักบุคคลที่ผ่านเข้าออก จะเป็นบุคคลภายนอก และกำลังพลภายใน ซึ่งขณะนี้ถ้าใครผ่านเข้าบ้านพักต้องปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความปลอดภัยของหน่วยอย่างเคร่งครัด คือการตรวจค้นอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย ซี่งมาตรการนี้ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าก็มีความเห็นชอบ พร้อมกับอกว่าถ้ามีสิ่งผิดกฎหมายก็ให้ยึดและนำส่งเจ้าพนักงานได้ตามระเบียบ และให้กำลังพลที่มีความผิดออกจากพื้นที่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง

พ.ท.ชินสรณ์ กล่าวว่าสำหรับพล.ต.ขัตติยะ ยังสามารถเข้าพักในบ้านพักได้แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยอย่างเคร่งครัด ต้องไม่มีอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายนำเข้าไปในบ้านพัก ทั้งนี้ยังไม่มีการสั่งห้ามพล.ต.ขัตติยะ เข้าไปในบ้านพักเพราะทุกขึ้นอยู่กับการดำเนินการของตำรวจด้วย ขณะนี้ยังถือว่าปกติไม่มีเหตุการณ์น่าเป็นห่วง ในส่วนของลูกน้องของพล.ต.ขัตติยะ นั้นก็ต้องปฏิบัติเช่นกัน อย่างไรก็ตามหลังจากมีการตรวจค้นอาวุธ พล.ต.ขัตติยะ ได้เข้าออกบ้านพักของเขาเป็นบางโอกาสตามปกติ

พ.ท.ชินสรณ์ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่ามีนายทหาร ยศ ร้อยเอก สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก นำของบางอย่างมาไว้ในบ้านพักของพล.ต. ขัตติยะ นั้น ตนขอยืนยันว่าในฐานะที่เป็นผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ บุคคลที่เข้าไปในบ้านพักของพล.ต.ขัตติยะ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมานั้นมีนายทหาร 4 คนคือ ผบ.กองพันสารวัตรที่ 11 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตรวจค้น และตนเอง พร้อมด้วยนายทหารพระธรรมนูญของ มทบ.11 และผู้บังคับหมวดสารวัตร มทบ.11 ส่วนที่เหลือเป็นนายทหารประทวนรวมถึงเจ้าหน้าที่บันทึกภาพ ทั้งนี้การปฏิบัติต่อพล.ต.ขัตติยะ นั้นเรายังให้เกียรติท่านอยู่เพราะเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งตนเคยพุดคุยด้วยเรื่องการให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าจะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก็ขอให้สัมภาษณ์นอกพื้นที่ ซึ่งพล.ต.ขัตติยะ ก็ได้รับปาก ทั้งนี้ไม่คิดว่า ม.พัน. 4 รอ.จะเป็นเป้าในการโจมตีเพราะไม่มีปัญหา เนื่องจากตนได้ปฏิบัติตามกรอบของกองทัพที่วางไว้ทุกอย่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้ปรากฏว่ามีเอกสารของทางราชการที่ กลาโหม 0481.1/90 ลงวันที่ 26 ม.ค.2553 ด่วนที่สุด จากกองพลที่ 1 รอ. ได้ติดไว้ที่กองรักษาการณ์กองพันทหารม้าที่ 4 รอ. ด้วยข้อความว่า เนื่องจากปัจจุบันได้ปรากฏข่าวสารของพล.ต.ขัตติยะ ได้ใช้คำพูดข่มขู่ก้าวร้าวต่อ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพ หลังจากที่กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ เนื่องจากมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเสื่อมเสียและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อผู้บังคับบัญชา อีกทั้งมีการพกพาอาวุธประจำการติดตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทุกกรณี จึงให้หน่วยปฎิบัติดังนี้

1.1ชี้แจงกำลังพลประจำกองรักษาการณ์ให้เข้าใจสถานการณ์ พร้อมแสดงภาพถ่ายยานพาหนะตามข้อมูลที่ส่งมาเพื่อให้รับรู้กันทั่วหน้า เมื่อมีการเปลี่ยนทหารกองรักษาการณ์ทุกวัน

1.2 ห้ามบุคคลดังกล่าวผ่านเข้าออกพื้นที่หน่วยอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หากจำเป็นต้องเข้าต้องปฏิบัติตรมมาตรการ รปภ.ของหน่วยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจค้นอาวุธสงคราม รวมถึงบุคคลติดตามและยานพาหนะ

1.3 รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบทันที

1.4 อุปกรณ์ประจำกองรักษาการณ์มีทั้งกล้องวิดีโอ ถ่ายภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง ไฟฉายประจำผู้ปฎิบัติหน้าที่ เครื่องมือหาวัตถุระเบิด ขั้นตอนการตรวจค้นตามระเบียบการผ่านเข้าออก ลงชื่อ พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์

 

ทหารพล.2ตบเท้าฮึ่ม "ผบ.ทบ." ถูกหมิ่น

เช้าวันนี้ที่หน้ากรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (กรม ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังพลในสังกัดและหน่วยขึ้นตรง 3 กองพัน กำลังพล ประกอบด้วยพลทหาร นายสิบ พลทหาร กว่า 1,000 คน จัดพิธิรวมพลังปกป้องสถาบันทหาร โดยมีตัวแทนทหารนำหนังสือมอบเป็นกำลังใจให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา กรณีถูกก้าวร้าว จากนั้นมีการอ่านแถลงการณ์หน้าแถว การปฏิณาณตนของทหารในสังกัดที่จะเป็นผู้มีระเบียบวินัย พร้อมร้องเพลงไทยสามัคคี 4 เหล่าดังกระหึ่ม

นอกจากนี้ยังมีป้ายโปสเตอร์ผ้าเขียนกล่าวเป็นคำขวัญต่างๆอาทิ "กองทัพสง่าได้ด้วยทหารปฏิบัติตามคำสั่ง ผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด" "กองทัพเป็นสถาบันหลักไม่ใช่สถาบันของคนใดคนหนึ่งที่จะไม่ไปกล่าวอ้างกองทัพเป็นทหารของประชาชน" "ทหารที่ขาดวินัยไร้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีไม่เคารพสายการบังคับบัญชาไม่มีอาวุโสย่อมไม่มีค่าต่อกองทัพ" "จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกรียรติดำรง จะปิดทองหลังองคืพระปฏิมา"

พ.อ.กู้เกียรติ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงพลังปกป้องสถาบันทหาร จากสถานกรณ์ของชาติห้วงที่ผ่านมามีบุคคลบางกลุ่มบางฝ่ายได้ใช้ข้าราชการทหารเข้ามาจาบจ้วงสถาบันทหาร ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ซึ่งในระบบทหารถือว่า เป็นการกระทำที่ผิดวินัยอย่างร้ายแรง และจะได้นำหนังสือที่ได้รับนี้ยื่นให้ผู้บังคับบัญชา (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก) ต่อไป

ส่วนเรื่องการปฏิวัตินั้น พ.อ.กู้เกียรติ กล่าวว่า "ไม่ขอกล่าวถึง ปราจีนบุรี ไม่มีปฏิวัติ "

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook