ภูมิใจไทยเมิน ปชป.ขู่ยุบสภา

ภูมิใจไทยเมิน ปชป.ขู่ยุบสภา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ปชป.กะซวกกันเอง ผวาเทือกปันใจให้พรรคร่วมรัฐนาวา เชื่อล็อบบี้ กก.บห.หนุนเขตเล็กฉลุย ขณะที่ มาร์ค ยันพรุ่งนี้มีคำตอบแน่ ฟุ้งลูกพรรคไม่กลัวยุบสภา เทือก เมินพรรคร่วมต่อรองแลกอุ้ม มาร์ค ผ่านศึกซักฟอก ลั่นปม รธน. ไม่ส่งผลถึงขั้นยุบสภา เย้ย แม้ว ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ฟาก ปู่จิ้น ไม่สนเด็กดื้อขู่ยุบสภา พผ. ให้เวลา ปชป. ตัดสินใจ ด้าน เพื่อแม้ว เสี้ยมไม่หยุด แจงนายใหญ่จ้อตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ดักคอรัฐประหารต่างหาก เล็งแจกเอกสาร ลุ้นโต้คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ส่วน ทหารแก่ ฮึ่มไม่สร้างสงครามการเมือง ซัด ปชป. พูดเพ้อเจ้อ ฝ่าย เสี่ยอ๋อย ปูดกลิ่นปฏิวัติโชย แถมอ้างกองทัพขึ้น บัญชีเสื้อแดง เล็งตามล่า 200 หัวโจก ด้าน กษิต โผล่แกว่งปากตามเคย มาร์ค สวดยับเอ็นจีโอต่างชาติรู้ไม่จริงสักเรื่อง บัวแก้ว ตีปี๊บแก้ข่าวละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ ปลอดประสพ ตามบี้ สุรยุทธ์ ผิดกฎหมายป่าไม้-สวล.

* มาร์คย้ำอังคารนี้มีคำตอบ

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การประชุมพรรคที่ จ.กระบี่ ยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากที่ประชุมได้ขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการแก้รัฐธรรมนูญในวันอังคารนี้ หลังจากได้ข้อสรุปทั้งหมดจึงจะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนสาเหตุที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์กันในพรรคว่าหากตัดสินใจเห็นด้วยจะเป็นอย่างไรและไม่เห็นด้วยจะเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปของการประชุมที่ต้องวิเคราะห์ทุกด้าน สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เกรงกลัวว่าหากไม่เอาด้วยกับพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องยุบสภา เพราะสภาต้องเป็นหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล และมั่นใจว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่เป็นปมขัดแย้งในรัฐบาล

* เทือกไม่กลัวพรรคร่วมบีบ

ต่อข้อถามกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความในบล็อกเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่าจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น เพราะประเทศไทยจะมีปฏิวัติเร็ว ๆ นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้อย่างไรที่ไหน และหากมีปฏิวัติก็ปฏิวัติรัฐบาล ไม่เกี่ยวอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

ที่ จ.กระบี่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชา ธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสวนดุสิตโพลระบุว่า ฝ่ายค้านจ้องอภิปรายไม่ไว้วางใจในโครงการไทย เข้มแข็งว่า เป็นเรื่องที่ดี ขอยกย่องฝ่ายค้าน ที่จะตรวจสอบในสภา ส่วนรัฐบาลต้อง เตรียมตัวชี้แจงให้ดีที่สุด ประชาชนจะได้รู้ว่าฝ่ายไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน

สำหรับเสียงสนับสนุนพรรคร่วมรัฐ บาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมมั่นใจว่าเหนียวแน่น ไม่มีปัญหา ไม่เกี่ยวกับปัจจัยเรื่องการต่อรองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอีก 1-2 วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีความชัดเจน เพื่อนพรรคร่วมทั้งหลายจะได้สบายใจขึ้น ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมเข้าใจว่าหลายพรรคที่ร่วมรัฐบาลอยู่ก็คงถูกอภิปรายด้วยกันทั้งนั้น ต่างคนจึงต้องต่างทำการบ้าน เลขาธิ การพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

* ปชป.ไม่ร้าว-ขั้วรบ.ไม่สวิง

เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะสบายขึ้นนั้น แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มจะแก้รัฐธรรมนูญ ให้เขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็กหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่การมีคำตอบก็ยังดีกว่าที่จะรอคอยโดยไม่รู้ว่าจะได้คำตอบเมื่อใด อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าความเห็นแตกต่างของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ทำให้เกิดความร้าวฉานในพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นแม่แบบประชาธิปไตยที่มีความเห็นที่แตกต่างกันได้โดยไม่ต้องโกรธเคืองกัน ทั้งนี้หลังกลับจาก จ.กระบี่ ตนจะไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่เปลี่ยนขั้ว เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก ตนคิดว่าเข้าใจไม่กลัว ซึ่งมั่นใจว่าไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีมติอย่างไรก็ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง

* ยันปมแก้รธน.ไม่ทำให้ยุบสภา

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ท่าทีของพรรคเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำให้อายุของรัฐบาลสั้นลง เพราะทุกวันนี้อายุรัฐบาล ก็สั้นลงเรื่อย ๆ อยู่แล้ว เหลืออีกปี กว่าจึงจะครบวาระ และขณะนี้ยังไม่เห็นประเด็นที่จะเป็นอุปสรรคให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ 1 ปีของรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเป็นอย่างมาก และยังไม่เห็นว่ามติของพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำสู่การยุบสภา ต้องคิดว่านายกฯ ทำงานโดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน มีความสำเร็จ ไม่มีอุปสรรค แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องยุบสภา เพื่อกลับไปนับหนึ่งใหม่ ต่อข้อถามว่า สาเหตุ สำคัญคือพรรค ร่วมรัฐบาลไม่คบ จึงต้องมีการยุบสภา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เคยมีใครบอกอย่างนั้น และปัญหาของประเทศที่สำคัญคือความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

* เย้ยแม้วตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา แต่ยังมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ ของ นพ.เหวง โตจิราการ และพวกค้างอยู่ในวาระ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาว่าจะรับฉบับไหน และเชื่อว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ นพ.เหวง หรือ คปพร. จะไม่เป็นตัวแปรอะไร ส่วนที่มองกันว่าอาจมีปัญหาเรื่องเสียงสนับสนุน จาก ส.ว. นั้น ถือเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าที่สร้างความน่ากลัวให้กับตัวเอง ซึ่งตนจะไม่ทำเช่นนั้น

รองนายกฯ ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นว่า คงไม่เป็นที่ยอมรับของชาวโลก เพราะการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นโดยทั่วไปต้องเกิดขึ้นภายหลังการ ปฏิวัติ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกปฏิวัติในปี 2549 จนมีรัฐบาลที่มาจากพรรคพวก 2 รัฐบาล กระทั่งมาถึงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นจริงก็คงตั้งได้แค่ในประเทศกัมพูชา และปาปัวนิวกินี แต่เชื่อว่าหากมีการตั้งรัฐบาลพลัด ถิ่นจริงก็ไม่กระทบกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และ ไม่น่ากลัวอะไร ขออย่างเดียวอย่าเผาบ้านเผาเมืองเหมือนตอนเดือน เม.ย. 2552

* วอนหยุดเป่านกหวีดแดงเดือด

นายสุเทพ กล่าวถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยุติการชุมนุมที่เขาสอยดาว และจะไปกด ดันกองทัพเป็นเป้าหมายต่อไปว่า ตนพยายามจะวางใจกับสถานการณ์ เมื่อกลุ่มเสื้อแดง บอกว่าจะหยุดก็ดีใจ เพราะจะทำให้คนไทยมีความสุข แต่ก็ไม่ประมาท เตรียมรับสถาน การณ์ตลอด ส่วนที่ได้ประเมินว่าวันที่ 19-26 ก.พ.นี้ กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมและเกิดความรุนแรงนั้น ได้ประเมินจากการที่ผู้ประสานงานผู้จัดชุมนุมพูดไว้ในสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวีตและโฟนอินเข้ามาก็ได้บอกชัดว่าจะทำอะไรเมื่อใดอย่างไร แต่เมื่อเป็นคนไทยด้วยกันไม่ควรคิดเผด็จศึกหรือให้เป็นฉากสุดท้าย เพราะยังต้องมีชีวิตอยู่ด้วยกันในประเทศนี้อีกนาน จึงไม่ควรสร้างความบาดหมาง ขยายผลออกไป

* หวังสงกรานต์ปีนี้น้ำตาไม่นอง

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ากังวลสำหรับประเทศในตอนนี้คือเรื่องของ พ.ต.ท. ทักษิณ ซึ่งสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวารกำลังดำเนินการอยู่และจะดำเนินการต่อไปเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจของคนไทย ซึ่งตนจะพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด โดยขณะนี้ประชาชนช่วยส่งข้อมูลข่าวสารให้รัฐบาลบ้างแล้ว และขอให้ มั่นใจในรัฐบาล ไม่ต้องตื่นตระหนกในเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น และถ้ามีอะไรที่จำเป็นต้องให้ประชาชนช่วยเหลือรัฐบาล จะบอกประชาชนเป็นระยะ

เมื่อถามว่า คิดว่าสถานการณ์หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณไปแล้ว ประเทศไทยจะอยู่ในสถาน การณ์ที่ดีขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความ มั่นคง กล่าวว่า คิดว่าคงมีแรงเฉื่อย ต่อไป จนถึงเดือน มี.ค. และหวังว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จะเป็นช่วงที่คนไทยมีความสุข

* เชื่อพรรคร่วม รบ.เข้าใจปชป.

แหล่งข่าวระดับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เวทีสัมมนาพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.กระบี่ มีมติให้คณะ กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 94 เรื่องเขตเลือกตั้ง ส.ส.แล้วนั้น เมื่อตรวจสอบท่าทีพบว่า ส.ส.ภาคอีสาน ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้มีท่าทีอ่อนลงเมื่อนายสุเทพพูดถึงเรื่องการยุบสภา เนื่องจาก ส.ส.อีสานยังไม่พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ ขณะเดียวกันมี ส.ส. อีกส่วนหนึ่ง อาทิ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กรุงเทพฯ นางพจนารถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี ล้วนมั่นใจในฐานเสียงจึงไม่กังวลว่าจะเป็นเขตใหญ่หรือเขตเล็ก

แหล่งข่าว เปิดเผยว่า หากมติของกรรมการบริหารพรรคออกมาไม่ตรงกับความต้องการของพรรคร่วมที่ต้องการเขตเล็ก ก็เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจวัฒนธรรมของพรรค จุดนี้จะทำให้นายสุเทพนำไปอ้างกับพรรคร่วมได้ แต่ขณะเดียวกันยังมีความกังวลว่าพรรคร่วมอาจจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ

* ระแวงเทือกปันใจให้เพื่อน

แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์จึงต้องพยายามไม่ให้พรรคร่วมหันไปพึ่งพรรคเพื่อไทยในเรื่องแก้ไขรัฐธรรม นูญ และต้องพยายามตะล่อมให้พรรคร่วมมาอยู่แนวเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้

นายสุเทพ เคยบอกกับ ส.ส.ในกลุ่มว่าดูอย่างผมกับนายเนวิน (ชิดชอบ) เมื่อ ก่อนด่ากันจะตาย ภายหลังก็มาทำงานร่วมกันได้ แต่นายสุเทพมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจ

แหล่งข่าวจากกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง เปิดเผยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคคงจะพิจารณาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะการสัมมนาที่ผ่านมา มีองค์ประชุมที่ใหญ่แล้ว มีทั้ง ส.ส.กรรมการบริหารพรรคประชุมร่วมกัน ซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับได้หากจะมีการแก้ไขมาตรา 190 แต่หากจะแก้เรื่องเขตเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

ขณะที่ แหล่งข่าวจากกรรมการบริหารพรรคอีกคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มของนายสุเทพ เปิดเผยว่าแม้ที่ประชุมส่วนใหญ่จะ ไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่แนวทางการโยนให้กรรมการบริหารพรรคตัดสินใจไม่น่าวางใจ เพราะกรรมการบริหารพรรคประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มนายสุเทพหลายคน และรู้อยู่แล้วว่านายสุเทพต้องการอะไร จึงอาจวิเคราะห์ได้ว่ามติกรรมการบริหารพรรคอาจเห็นตรงกับพรรคร่วมรัฐบาล

* ภท.เมิน ปชป. ขู่ยุบสภา

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า คงต้องรอพรรคประชาธิปัตย์สรุปเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เชื่อว่าไม่ได้เป็นการซื้อเวลา เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังต้องคุยกันไปเรื่อย ๆ เมื่อถามว่า ในการหารือพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการหยิบยกมาตรา 265-266 มาหารือเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมจากมาตรา 94 และ 190 หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือนอกจาก 2 ประเด็นเดิม เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความสับสน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.กระบี่ โดยนายสุเทพ พูดทำนองว่า หากไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดความวุ่นวายถึงขั้น ยุบสภา หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องนี้จะเรียกว่าขู่คงไม่ได้ เป็นแค่เรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกัน ต้องพูดคุยจนกว่าความเห็นจะตรงกัน คงไม่มีใครขู่ใครได้ เพราะโต ๆ เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว

* พผ.ก้มหน้ารับเลือกตั้งใหม่

นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลคงให้เวลา พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีระบบของคณะกรรมการบริหารพรรคที่เป็นประชาธิปไตย ในเมื่อความคิดเห็นยังไม่ตกผลึกจึงต้องให้คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งเรารอได้และยืนยันว่าไม่มีการบีบหรือกดดันพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด รวมทั้งไม่อยากให้คิดว่าพรรคร่วมต่อรองเพื่อเปลี่ยนขั้วรัฐบาล

โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องใช้เสียงพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน รวมทั้งวุฒิสภา ในขั้นตอนการผ่านวาระ 1-3 ซึ่งเรื่องนั้นก็ต้องว่ากันต่อไป วันนี้ทุกคนต้องการความสมานฉันท์และเคยมีข้อสรุปให้แก้ รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นมาแล้ว ของเราขอให้แก้เพียง 2 ใน 6 ประเด็น ถือว่าไม่มาก ไปและประเด็นที่ขอแก้ก็เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริงส่วนกระแสข่าวนายกฯ อาจยุบสภาหากพรรคร่วมกดดันในเรื่องรัฐธรรมนูญมากนั้น ถ้านายกฯ เห็นว่ายุบสภาแล้วจะทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ เดินหน้า พวกตนก็พร้อมยอมรับ

* เพื่อไทยสวมบทจอมเสี้ยม

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรคจับมือผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ประเด็นว่า เรื่องนี้กำลังนำไปสู่วิกฤติขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนายอภิสิทธิ์และแกนนำบางคนได้เล่นการเมืองแบบตี สองหน้า ด้านหนึ่งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แสร้งทำดีและให้สัญญากับพรรคร่วมรัฐบาล แต่อีกด้านหนึ่งนายอภิสิทธิ์และผู้ใหญ่ในพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แสดงบทบาทคัดค้าน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ไม่แก้รัฐธรรมนูญ โดยยอมผิดข้อตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะมั่นใจว่าพรรคร่วมคงไม่กล้าถอนตัว และอีกสาเหตุหนึ่งเพราะพรรคประชาธิปัตย์เกรงใจกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์โยนให้คณะกรรมการบริหารพรรคตัดสิน เป็นเรื่องที่น่าเวทนาสำหรับพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกหลอกซ้ำซาก ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์เหยียบบ่าเพื่อนเป็นใหญ่ การเล่นการเมืองในลักษณะนี้แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ รวมถึงแกนนำบางคนว่ามีความจริงใจทางการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาลแค่ไหน และควรที่จะร่วมลงเรือลำเดียวกันอีกต่อไปหรือไม่ โฆษก พรรคเพื่อไทย ระบุ

* แจงนายใหญ่ตีปี๊บรบ.พลัดถิ่น

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี โดยประกาศว่าหากทหารยึดอำนาจอีกครั้งจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นสู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยบอกกล่าวแนวคิดนี้ให้ทราบ แต่คิดว่าคงเป็นการพูดเพื่อปรามและส่งสัญญาณถึงคนที่คิดจะยึดอำนาจว่า คนเสื้อแดงจะไม่มีทางยอมรับการยึดอำนาจ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนอกระบบตามที่ปรากฏข่าวลือเป็นระยะ ๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อให้คนเสื้อแดงกลัวหรือปล่อยถึงรัฐบาลที่บริหารล้มเหลว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยึดอำนาจอีกครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในฐานะที่จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นและขอการรับรองจากสหประชาชาติได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดคือต้องมีเงื่อนไขว่าเกิดการยึดอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ตั้งโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้หลักการทั่วไปเมื่อผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนถูกยึดอำนาจไปก็จะเป็นเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้ แต่รัฐบาลพลัดถิ่นไม่มีอำนาจในประเทศ จริง ๆ ตามกฎหมายภายใน แต่มีนัยทางการเมืองมากกว่า

* เล็งแจกเอกสารรวยแล้วไม่โกง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น นายนพดล ยอมรับว่า มีคนเสนอแนวคิดดังกล่าวจริง แต่เราเข้าใจว่าบ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่เอาเข้าจริงผ่านพ้นไป 3 ไม่มีอะไรดีขึ้น จึงเป็นเรื่องของอนาคตที่จะต้องรอดู เมื่อถามต่อว่า จะเข้าไปเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพลัดถิ่นหรือไม่ นายนพดล หัวเราะก่อนกล่าวว่า ไม่ได้เป็น อย่าให้ตนตอบคำถามเลย เพราะยังไม่ถึงขั้นนั้น

ที่ปรึกษากฎหมายรายนี้ กล่าวด้วยว่า คาดว่าในช่วงต้นเดือนหน้า จะมีแจกจ่ายเอก สารหลายแสนฉบับให้กับประชาชน เพื่อชี้แจงกระบวนการต่าง ๆ ภายหลังยึดอำนาจ เช่น การใช้ระบบสองมาตรฐานในประเทศไทย ประวัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบ ครัว โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินที่ปรากฏชัดว่าร่ำรวยมาก่อนเข้ามาเล่นการเมือง รวมทั้งชี้แจงกระบวนการทำมาหากินก่อนและขณะรับตำแหน่งนายกฯ ยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวจะไม่เป็นการกดดันศาลหรือส่งผลกระทบต่อคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท เป็นเพียงการสื่อสารกับสังคมเท่านั้น

* วันอาทิตย์ทักษิณขอพักรบ

นายนพดล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ พ.ต.ท. ทักษิณ ยังพำนักอยู่ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ มีความกังวลในเรื่องของกระบวนการใส่ร้ายป้ายสี ล่าสุดมีการปลอมทวิตเตอร์ เพื่อสร้างความสับสน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะทยอยบอกความจริงกับประชาชนในรายการทอล์ก อะราวด์ เดอะ เวิร์ล ทุกวันอังคาร และอาจ ทำเป็นซีรีส์เพื่อชี้แจง

สำหรับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท. ทักษิณ วันเดียวกันนี้ ได้ทวีตข้อความผ่านเว็บบล็อกส่วนตัวในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อคืนหลายคนคงดึก บางคนไปที่เขาสอยดาว บางคนอาจจะฟังพีเพิล ชาแนลอยู่ที่บ้าน วันนี้วันอาทิตย์พักผ่อนกันหน่อยเพื่อสุขภาพ

* พัลลภโต้ปชป.เพ้อเจ้อ

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ประเมินกลุ่มคนเสื้อแดงจะเผด็จศึกรัฐบาลระหว่างวันที่ 19-26 ก.พ. นี้ว่า ขอปฏิเสธว่าอดีตนายทหารที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องการก่อความวุ่นวาย หรือการนำรถจักรยานยนต์-รถยนต์ออกมาขวาง มีแต่การพูดคุยกันว่าอยากให้การชุมนุมยึดหลักสันติ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการปะทะระหว่างทหารและประชาชน ดังนั้นใครที่เคยเป็นผู้ นำในหน่วยไหนก็จะช่วยพูดจากับอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาและนายทหารรุ่นน้องว่าอย่าได้ใช้ความรุนแรง อย่าใช้อาวุธกับประชาชน เพราะจะนำมาซึ่งความสูญเสีย

ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวยื นยันว่า จะไม่มีก่อความวุ่นวายแน่นอน การวิเคราะห์ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องเพ้อ เจ้อ สร้างภาพสิ่งที่ไม่รุนแรงให้รุนแรง แล้วพยายามบอกว่าพวกตนสร้างความรุนแรง ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ หน้ากองทัพบก ไม่ใช่การท้าทายหรือยั่วยุให้ทหารออกมา แต่เสื้อแดงไปประท้วง เพราะกองทัพวันนี้มีสองมาตรฐาน

* ม็อบแดงยุติชุมนุมเขาสอยดาว

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่สนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์ หมู่บ้านวังกระแพร หมู่ 2 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของการ์ดเสื้อแดง และตำรวจจาก สภ.ต่าง ๆ ใน จ.จันทบุรี โดยการชุมนุมในวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างสงบตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ตั้งแต่เวลา 07.00 น. วันที่ 24 ม.ค. กลุ่มคนเสื้อแดงพา กันเก็บข้าวของสัมภาระ รวมทั้งช่วยกันเก็บขยะในพื้นที่ ก่อนแยกย้ายเดินทางออกจากสนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์ ท่ามกลางการจัดระเบียบการจราจรของตำรวจและการ์ดเสื้อแดง ขณะที่ผู้บริหารสนามกอล์ฟได้เปิดน้ำ รดหญ้าในสนามกอล์ฟเพื่อให้ความชุ่มชื่นกับหญ้า ทั้งนี้นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า วันที่ 27 ม.ค. นี้ จะเดินทางไปกระทรวงกลาโหม และกองทัพบก เพื่อตามเรื่องร้องเรียนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ไปเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร. หลังจากเรื่องเงียบหายไป

* ปลอดตามถล่มบิ๊กแอ้ด

วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดเสวนาเรื่อง สองมาตรฐาน-แนวโน้มความรุนแรงในสังคมไทย? : กรณีศึกษาเขายายเที่ยง นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวตอนหนึ่งว่า พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54-55 ที่ห้ามครอบครอง แผ้วถาง หรือก่อสร้างในพื้นที่ป่า แต่กรณีเขายายเที่ยงครอบครองมา 7-8 ปี รวมทั้งก่อสร้างบ้านพักและถนน ถือว่ามีเจตนาสมบูรณ์แล้ว ขอถามว่าสำนวนที่ส่งไปครบหรือไม่ ผู้ส่งสำนวนมีเจตนาส่งไม่ครบหรือไม่ ส่วนประเด็นเรื่องที่ดินที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ ครอบครองอยู่ในแปลงที่ 49 แต่ปัจจุบันปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีแปลงที่ 50 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนของอัยการ และที่พล.อ.สุรยุทธ์ แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีที่ดิน 21 ไร่ แต่ความเป็นจริงมี 26.8 ไร่ หากปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นจะต้องรื้อสำนวนคดีขึ้นมาใหม่หรือไม่

* จี้รัฐฟ้องแพ่งไล่เบี้ยค่าเสียหาย

นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 25 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มาตรา 21-22 และ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 40 ให้อำนาจอธิบดีกรมป่าไม้และอธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างได้ทันทีโดยไม่ต้องรออัยการหรือศาลชี้ขาด แต่เหตุใดบุคคลที่มีหน้าที่จึงไม่ใช้อำนาจ โดยเฉพาะกรณีเขายายเที่ยงควรจะทำตั้งนานแล้ว แต่อธิบดีกรมป่าไม้กลับเซ็นคำสั่งไม่ได้เพราะหมึกหมด และไม่ได้ทำจนอัยการมาเติมหมึกให้จึงลงมือทำ ทั้งนี้การที่ขนย้ายรื้อถอนสิ่งของออกจากเขายายเที่ยงเหตุใดจึงต้องทำในเวลากลางคืน หรือเป็นเพราะได้ไม้มาจากไหน ตนขอเรียก ร้องให้แสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องนี้ด้วย

กรณีเขายายเที่ยงถามว่าจบได้หรือไม่ ถ้าหยวน ๆ ตามประสาคนไทยถือว่าจบได้ แต่ถ้าตามกฎหมายเรื่องนี้ยังจบไม่ได้ ต้องมีการดำเนินการทางแพ่งตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มาตรา 95 ในลักษณะ เดียวกับกรณีที่มีการฟ้องร้องค่าเสียหายทำโลกร้อน และเรียกเงินค่าเสียหายจากชาวบ้านในจังหวัดทางภาคใต้ ในเมื่อปฏิบัติกับชาวบ้านได้ก็ต้องปฏิบัติกับผู้มีวาสนาบารมีได้เช่นกัน รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ

* เปิดแผลนายทุนรุกเขาสอยดาว

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเขาสอยดาว จ.จันทบุรี ขณะนั้นตน เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ได้มอบหมายให้นาย สมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ขณะนี้เป็นคนดำเนินการในเรื่องนี้ และผู้บริหารแบงก์แห่งหนึ่งเคยบอกกับตนต่อหน้าพยานหลายคนว่าถ้าผิดจริงพร้อมจะคืนที่ดิน วันนี้ตนขอเรียกร้องให้คืนที่ดินจำนวน 100 ไร่ ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เพราะ ผู้บริหารแบงก์คนนี้รู้ดีว่าครอบครองโดยไม่มีเอกสารสิทธิ ส่วนแปลงอื่น ๆ ที่มีเอกสารสิทธิ แม้จะอยู่ในเขตป่าสงวนก็ให้ไปสู้คดี กัน และในหน้าแล้งที่จะถึงนี้ขอให้ปล่อย น้ำจากเขื่อนกั้นที่สร้างในพื้นที่ต้นน้ำโดย ไม่ขออนุญาตและมีความผิดแน่ ๆ มาให้ประชาชนที่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี ได้ใช้ด้วย รวมทั้งเปิด ทางเข้าน้ำตกที่ตั้งอยู่ในที่ดินของท่านให้ประชาชนได้เข้าไปเที่ยวชมด้วย มิฉะนั้นคนเสื้อแดงจะเป็นคนตั้งชื่อน้ำตกให้แล้วจะยุ่งกันใหญ่

* อ๋อยซัด ป.ป.ช.2มาตรฐาน

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า กรณีที่ดินเขายายเที่ยง ชาวบ้านกับผู้มีอำนาจบารมีได้รับการปฏิบัติแตกต่างกัน ครอบครองถึง 7-8 ปีแต่กลับไม่มีเจตนา ประชาชนทั่วไปจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ ก่อนหน้านี้มีคนไปร้อง ป.ป.ช. แต่ก็ไม่มีการตรวจสอบ เรื่องนี้จึงเป็น สองมาตรฐานที่เกิดขึ้นกับนายกฯ 2 แบบ คือ นายกฯ ที่มาจากรัฐประหาร กับนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งถูกพิจารณาเรื่องทำครัว ในขณะที่นายกฯ ที่มาจากการแต่งตั้งกลับช่วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้ง ๆ ที่เรื่องของ พล.อ.สุรยุทธ์ต้องถูก ป.ป.ช.ดำเนินการง่ายกว่ากรณีตำรวจที่อุดรธานี เป็นการโยงเรื่องสองมาตรฐานกับเรื่องไม่เป็นประชาธิปไตย

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวต่อว่า หลายวันมานี้มีการพูดถึงการรัฐประหารกันมาก บรรยากาศการไล่ล่า พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ดูเป็นเรื่องไม่ปกติแล้ว ศาลให้ออกหมายเรียกแต่กลับมีการสั่งไล่ล่า ซึ่ง ผบ.ทบ. บอกไม่ทราบเรื่องแต่มันเป็นข่าวมา 2-3 วันได้อย่างไร ซึ่งเป็นความไม่ชอบธรรมทางกฎหมายที่กองทัพจะไปไล่ล่า เสธ.แดง

* ปูดบิ๊กทหารจ้องรัฐประหาร

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ได้ยินข่าวจากทหารและนายตำรวจบางคนบอกว่าผู้มีอำนาจในกองทัพบางคน มีแนวคิดจะทำรัฐประหารอยู่ และมีการขึ้นบัญชีดำคนเสื้อแดง และไม่ใช่เสื้อแดงที่สู้เพื่อประชาธิปไตยกว่า 200 คน คนที่ให้ข้อมูลมาบอกว่าถ้าคุมไม่อยู่ก็จะมีการรัฐประหาร

ถ้าไม่จริงก็ให้ ผบ.ทบ.รีบออกมาปฏิเสธ และขอให้ปรามคนในกองทัพที่คิดจะปราบคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย คนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยก็เหลือทนเต็มทีแล้วที่วันนี้เกิดสองมาตรฐานขึ้น ผมคิดว่าคนที่ต่อ สู้เพื่อประชาธิปไตยส่วนใหญ่ไม่ต้องการความรุนแรงและต้องการใช้สันติวิธี แต่การใช้สื่อและข่าวสารออกมาทำให้เกิดความเป็นห่วงว่าความรุนแรงจะเกิดจากฝ่ายรัฐและฝ่ายความมั่นคง ถ้าเกิดขึ้นจะเป็นความรุนแรงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน และเสียหายอย่างรุนแรง ถ้าไม่ต้องการให้เกิดต้องกลับสู่ระบบมาตรฐานเดียวกัน ให้เท่าเทียมในเรื่องความยุติธรรม ล้มเลิกความคิดที่จะปราบปรามเด็ดหัวประชาชน หรือจัดการให้ราพณาสูร ผมขอสื่อสารไปยังนายกฯ ด้วย เพราะท่านคุมทุกอย่างรวมทั้งสื่อของรัฐด้วย อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุ

* อาจารย์ผวาสงครามกลางเมือง

นายธีระ สุธีวรางกูร อาจารย์คณะนิติ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ระบบสองมาตรฐานเป็นอาการของโรคที่เกิดขึ้นในสังคมไทย สิ่งนี้สะท้อนทั้งในตัวบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ การบังคับใช้กฎหมาย และคำวินิจฉัยของศาลในการพิจารณาคดีต่าง ๆ อย่างไรก็ดีตนมีบทสรุปว่า เพราะวันนี้เราอยู่ใน ช่วงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างคนสองกลุ่ม คนกลุ่มหนึ่งต้องการทำลายล้างทางการเมืองคนอีกกลุ่มให้ราพณาสูร จึงต้องเกิดความ ไม่เสมอภาคขึ้น ดังนั้นเป้าหมายจึงสำวิธีการ องค์กรผู้บังคับใช้กฎหมายและองค์ การตามรัฐธรรมนูญมีการยอมรับหลักความไม่เสมอภาคในประเทศให้เกิดขึ้นมาได้ เพราะต้องการเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง ถ้าสองฝ่ายสู้กันและควบคุมไม่ได้จะเกิดรัฐ ประหารอีกครั้งหนึ่ง และเกิดการต่อสู้ทั้งภายในและนอกประเทศ ดูจากการทวีตของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แล้วสงครามกลางเมืองครั้งแรกในไทยมีโอกาสเกิดได้สูง

* กษิตแกว่งปากทำชั่วได้ชั่ว

ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ ดิ เอ็กซ์ คลูซีฟ ทางสถานีข่าวคลื่นเอฟเอ็ม 100.5 เมกะเฮิรตซ์ ถึงสถานการณ์การเมืองไทยจนถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ วันที่ 26 ก.พ. นี้ว่า ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นนักการเมืองต้องเคารพกติกาไม่ว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร หลักพุทธศาสนา เมื่อทำชั่วแล้วต้องรับกรรม ทำชั่วแล้วจะมา บอกว่ามีเสียงข้างมาก เงินมากแล้วไปยัดเยียดเพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินกระบวน การยุติธรรมไม่ได้ รัฐบาลนี้ยืนยันไม่ได้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

รมว.การต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ตนอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดี 4 คดี ทั้งคดีผู้ก่อการร้าย คดีที่การบินไทยฟ้องร้อง และคดีหมิ่นประมาท ยืนยันว่าไม่หนีกระบวนการยุติธรรม ผมไม่หนีศาล ไม่หนีคุกหนี ตะราง ไม่ใจฝ่อ หรือเก่งแต่กรอกไมโครโฟนโฟนอินแต่หนีกระบวนการยุติธรรม

* แฉปชป.ซูเอี๋ยพรรคร่วมรบ.

ที่พรรคการเมืองใหม่ นายประพันธ์ คูณมี กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ แถลงคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคขอประกาศย้ำจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหรือลดพระราชอำนาจ และโครงสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการแก้ไขเพื่อฟอกความผิดให้กับนักการเมืองและพวกพ้อง และการแก้ไขที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ที่เป็นจุดยืนเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตรฯ

ในสถานการณ์ของประเทศขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลมีปัญหามีภารกิจด้านอื่น ๆ อีกมากมายที่จะต้องแก้ไข เช่น ปัญหาความขัดแย้งขอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook