ศก.จีนกระฉูดจ่อแซงญี่ปุ่นขึ้นอันดับ2โลก

รัฐบาลจีนประกาศตัวเลขเศรษฐกิจปีที่แล้ว ขยายตัวเกินคาดการณ์ถึง 8.7% โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้าย พุ่งกระฉูด 10.7% นักวิเคราะห์ชี้เตรียมแซงญี่ปุ่นขึ้นสู่อันดับ 2 ของโลก และอาจแซงสหรัฐขึ้นสู่อันดับ 1 ภายในปี 2563

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสสุดท้ายเติบโต 10.7% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ตลอดทั้งปีเศรษฐกิจจีนเติบโตได้ 8.7% เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่รัฐบาลกังวลว่า การกระตุ้นการใช้จ่ายและการปล่อยกู้ของธนาคารอาจทำให้ภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงมีคำสั่งให้ธนาคารควบคุมการปล่อยกู้ และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีที่แล้วส่งผลให้จีนกำลังตามทันเศรษฐกิจญี่ปุ่น และจ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ทั้งนี้ คาดว่าญี่ปุ่นจะประกาศตัวเลขจีดีพีปี 2552 ในเดือนก.พ. ซึ่งน่าจะหดตัวลงประมาณ 6% ขณะเดียวกัน ไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส หรือพีดับเบิล ยูซี ซึ่งเป็นสำนักงานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจจีนมีสิทธิแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งของโลกอย่างเร็วสุดในปี 2563 นี้ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม นายหม่า เจียนถัง ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปฏิเสธที่จะคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนไล่ทันญี่ปุ่น เพราะในความเป็นจริงตามมาตรฐานสหประชาชาติ จีนยังมีประชากรอีกถึง 150 ล้านคนที่มีฐานะยากจน มีรายได้ยังชีพเพียงวันละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 34 บาทึ่งแม้ว่าตัวเลขจีดีพีของจีนเพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจแข็งแรง แต่ก็ยังต้องยอมรับว่า จีนเป็นประเทศกำลังพัฒนา

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของโกลแมน แซคส์เชื่อว่า จีนจะเพิ่มการเข้มงวดนโยบายการเงินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของซีไอซีซีในจีนคาดว่า จีนจะปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าในเดือนมี.ค.หรือ เม.ย.หลังจากชะลอมานาน 18 เดือน แต่จะเป็นการแข็งค่าอย่างช้า ๆ ราว 3-5% ต่อปี เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นจะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ ส่งเสริมการบริโภคในประเทศ ช่วยปรับสมดุลเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลก.