ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 19 มกราคม 2553

ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 19 มกราคม 2553

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันนี้ เวลา 15.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา จากวังศุโขทัย ไปทรงยกช่อฟ้าหอสวดมนต์ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดขนอนใต้ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เวลา 17.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังศุโขทัย พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเอก เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ประธานนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11 นำนายทหาร นายตำรวจ และสมาชิกนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 11 เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2552 ในการนี้ เจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จออกด้วย ต่อจากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกพร้อมด้วย เจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลำดับดังนี้ - นายสว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และคณะอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่ง เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน ซึ่งเป็นรายได้ของมหาวิทยาลัยราชภัฏฯ เพื่อสมทบทุนมูลนิธิคุรุปถัมภ์ เพื่อสมทบทุนทีปังกรรัศมีโชติ และโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ในการนี้ ผู้แทนมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานถ้วยรางวัล ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปี 2550 2551 เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัลดังกล่าว - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน ซึ่งเป็นรายได้จากการจัดงาน "มหกรรมสินค้าราคาถูก เพื่อสมทบ "กองทุนทีปังกรนภัทรบุตร ในโอกาสนี้ ผู้แทนจากกกองทุนฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานเงินดังกล่าวด้วย เสร็จแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกพร้อมด้วย เจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายโยฮันเนิส เปเทอร์ลิค (Dr. Johannes Peterlik) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐออสเตรียประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาทในโอกาสเข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ในโอกาสนี้ นางริอา-อัวซูลา เปเทอร์ลิค (Mrs. Ria- Ursula Peterlik) ภริยาเอกอัครราชทูตฯ ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาท ด้วย ในวันเดียวกันนี้ เวลา 15.47 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากสำนักชลประทานที่ 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นทีระทับแรม ไปในการพระราชทานเพลิงศพ คุณหญิงสวาท รัตนวรราห ต.ช.,ต.จ.,บ.ม. ณ สุสานสันกู่เหล็ก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ อนึ่ง เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2553 เวลา 07.26 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปยังท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระหว่างวันที่ 18-22 มกราคม 2553 ในโอกาสนี้ ประทับแรม ณ เรือนรับรอง สำนักชลประทาน 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เวลา 09.19 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ทรงยกยอดฉัตรพระบรมธาตุหริภุญชัย ซึ่งพระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าอาวาส ร่วมกับจังหวัดสร้างขึ้นตามโครงการ "บูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์ วัดพระธาตุหริภุญชัย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งพระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นปูชนียสถานสำคัญของนครหริภุญชัย สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยพญาอาทิตยราชแห่งราชวงศ์จามเทวีวงศ์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่เคารพสักการะของบูรพมหากษัตริย์ และเจ้าผู้ครองนครล้านนาทุกพระองค์ ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ยกย่องให้เป็นจอมเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวน 8 องค์ของไทย ซึ่งตามโบราณราชประเพณี พระมหากษัตริย์ทรงมอบให้ผู้แทนพระองค์นำเครื่องราชสักการะ มาถวายเป็นพุทธบูชาเป็นประจำ ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนา บ้านดอยก้อม อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ซึ่งมูลนิธิชัยพัฒนาได้สนองพระราชดำริในการพัฒนาที่ดิน ซึ่งพระอาจารย์สุชินวิมโลน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย โดยจัดทำแปลงสาธิตการเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี อีกทั้งเป็นแหล่งรวบรวมและขยายผลการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีการเกษตรแผนใหม่ ในการนี้ ทรงฟังการบรรยายและการเรียนรู้การขยายพันธุ์พืช ซึ่งเป็นงานฝึกอบรมและขยายผลการวิจัย เพื่อให้เกษตรกรเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ และทอดพระเนตรแปลงไม้ผล ที่ทรงปลูกเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อปี 2547 กับทรงทาบกิ่งน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องจากต้นที่ทรงปลูกไว้ พร้อมกันนี้ ได้พระราชทานกิ่งพันธุ์น้อยหน่าแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และนายอำเภอบ้านโฮ่ง เสร็จแล้ว ทรงติดตามการเจริญเติบโต ของมะม่วงพันธุ์เขียวมรกต โดยทรงเสียบยอดมะม่วง พระราชทานแก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโฮ่ง และกำนันตำบลบ้านโฮง สำหรับนำไปปลูก ต่อมาทอดพระเนตรและทรงตอนกิ่งลำไยจากต้นที่ทรงปลูก โดยเป็นลำไยพันธุ์ดอซึ่งเป็นที่นิยมของราษฎรในพื้นที่ ในการนี้ ทอดพระเนตรการตัดแต่งกิ่งลำไย ตามเทคโนโลยีการเกษตรแนวใหม่ ในช่วงบ่าย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงช้างต้น ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ทอดพระเนตร และพระราชทานอาหารแก่ช้างพลายทองสุก ช้างลูกบ้านขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ที่เกิดเมื่อปี 2517 หลังจากตรวจลักษณะพบว่า เป็นช้างสำคัญใจตระกูลพิษณุพงศ์ จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นทอดพระเนตร และพระราชทานอาหารแก่ช้างพลายบุญเลิศ ซึ่งเป็นช้างกำพร้าที่ว่ายน้ำหนีพรานป่าข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งลาว เมื่อปี 2497 และในปีต่อมา พันตำรวจโท สนั่น สะอาดพรรค และราษฎรอุบลราชธานี น้อยเกล้าน้อมกระหม่อมถวายช้างพลายบุญเลิศแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และทรงรับไว้เป็นช้างในพระองค์ พระราชทานให้สวนสัตว์ดุสิตเป็นผู้ดูแล ต่อมาได้นำมาอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2552 ในโอกาสนี้ ทรงปลูกต้นขะจาว ซึ่งราษฎรเชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เสร็จแล้ว ทอดพระเนตรและพระราชทานอาหารแก่ช้างพลายปฐมสมภพ ปัจจุบันอายุ 2 ปี เป็นลูกช้างที่เกิดจากการผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อช้างสดเชือกแรกของประเทศไทยและทวีปเอเชีย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า "พลายปฐมสมภพ อันมีความหมายว่า ช้างพลายเชือกแรก ที่เกิดจากการผสมเทียมน้ำเชื้อ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังเรือนรับรองที่ประทับสำนักชลประทานที่ 1 อำเภอเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ประทับแรม ในวันเดียวกันนั้น เวลา 16.32 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ นายรงค์ วงษ์สวรรค์ จ.ภ. ณ สุสานสันกู่เหล็ก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพ พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล) ณ เมรุชั่วคราววัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook