ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 13 มกราคม 2553

ข่าวในพระราชสำนัก ประจำวันที่ 13 มกราคม 2553

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันนี้ เวลา 14.51 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา จากวังศุโขทัย ไปทรงวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลจังหวัดตลิ่งชัน ซึ่งตั้งอยู่ ณ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เวลา 07.20 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปยังท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา ระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2553 ในโอกาสนี้ ประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานเชียงราย จังหวัดเชียงราย แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด "ห้องสมุดพร้อมปัญญา เรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย ณ เรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เวลา 10.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2551 ณ อาคารหอประชุม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาท ความว่า บัณฑิตทั้งหลายต่างก็สำเร็จการศึกษาสมกับที่ได้ตั้งใจพากเพียรมาโดยตลอดแล้ว ต่อไปเบื้องหน้า แต่ละคนก็จะต้องออกไปประกอบอาชีพการงาน ในโอกาสนี้ ข้าพเจ้าจึงขอฝากข้อคิดแก่บัณฑิตว่า การทำงานนั้น ผู้ทำจะต้องมีคุณสมบัติสำคัญสองอย่าง คือความเก่งและความดี ความเก่งในที่นี้ หมายถึงการมีความรู้ทางวิชาการและความรู้ในงานที่ปฏิบัติ พร้อมทั้งมีความสามารถที่จะนำความรู้นั้นไปใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนความดี หมายถึงการมีคุณธรรมในการปฏิบัติงาน ที่สำคัญคือความรับผิดชอบ ความขยันหมั่นเพียร ความอดทนอดกลั้น ความซื่อสัตย์สุจริต และความมุ่งประโยชน์ส่วนรวม ผู้มีทั้งความเก่งและความดีเกื้อกูลสนับสนุนกัน ไม่ว่าจะทำงานสิ่งใดย่อมสำเร็จผลตามเป้าหมาย อีกทั้งงานที่ทำยังบังเกิดผลเป็นประโยชน์ยั่งยืนแก่ตนเองและส่วนรวมด้วยจึงขอให้บัณฑิตทุกคนตั้งใจพยายามปลูกฝังสร้างเสริมความเก่งและความดีให้มีพร้อมในตน จะได้สามารถประกอบกิจการงานให้บรรลุถึงความสำเร็จะความเจริญก้าวหน้าได้สืบไป เวลา 14.09 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงเปิดอาคารเรียน "สิรินธร โรงเรียนวัดหมื่นพุทธวิทยา อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงทำพิธีปกเสาเฮือนแบบล้านนา พื้นที่โครงการโรงงานน้ำชา และพืชน้ำมันอื่นๆ ของมูลนิธิชัยพัฒนา และทรงเปิดร้าน "จันกะผัก ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพันธ์เพ็ญศิริ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เวลา 16.10 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จออก ณ วังศุโขทัย ทรงประกอบพิธีสมรสพระราชทานแทนพระองค์ ประทานแก่คู่สมรส ตามลำดับดังนี้ พันตรี ธนวัฒน์ พัฒนทอง กับ นางสาวสาธิตา บรรดาศักดิ์ สิบโทสมคิด เจนนา กับ นางสาววรติรส แข็งแรง นายธีรพงษ์ กูลแก้ว กับ นางสาวสมพร สาแหรกทอง ในวันเดียวกันนี้ เวลา 16.35 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จออก ณ พระตำหนักวังสวนกุหลาบ พระราชวังดุสิต ประทานพระวโรกาสให้ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามอยาก สภากาชาดไทย นำ หลวงปู่จัน จันทโชโต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหัวกว๊าน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ พันตำรวจตรีดอกเตอร์ ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวัดพระธาตุหัวกว๊าน และผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบทุนการก่อสร้างองค์พระธาตุจอมทอง องค์พระธาตุจอมแก้ว และองค์พระธาตุจอมเงิน เฝ้าถวายก้อนอิฐทอง เงิน นาก เพื่อทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม สำหรับเชิญไปบรรจุในองค์พระธาตุดังกล่าว ในโอกาสนี้ ผู้แทนมูลนิธิวัดพระธาตุหัวกว๊าน เฝ้าถวานเงิน เพื่อสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัยด้วย อนึ่ง เมื่อวันอังคารที่ 12 มกราคม 2553 เวลา 07.57 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังท่าอากาศยานหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเปิดสอนชั้นเด็กเล็กถึงประถมศึกษาปีที่ 6 และในปีที่ผ่านมาได้นำร่องโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้ชาวบ้านมาสาธิตการปลูกข้าว เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำนา ในการนี้ พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งโรงสีขนาดเล็กภายในโรงเรียน เพราะจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการสีข้าวเพิ่มเติม จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงเปิดอาคารต้นกล้าอาวียองซ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งสร้างขึ้นตามโครงการเปิดฟ้าการศึกษา ปลูกต้นกล้าแห่งการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา และการดูแลสุขอนามัยให้แก่เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในโอกาสนี้ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานที่ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป และทันตกรรม แก่ราษฎรที่เจ็บป่วยและทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ในตอนบ่าย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสร้างเสริมความรู้ด้านวิชาการทั้งในและนอกชั้นเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน อีกทั้งได้จัดอบรมด้านวิชาชีพเพื่อให้นักเรียนและราษฎรในชุมชน เข้าศึกษาเรียนรู้เป็นพื้นฐาน ในการสร้างรายได้แก่ตนเอง เช่น การประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้จากวัสดุธรรมชาติ และการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ที่เน้นการใช้วัตถุดิบในโรงเรียน และในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า เช่น การทำขนมปังสับปะรดและกล้วยฉาบ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นำไปจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า เพื่อสร้างช่องทางการตลาดด้วย เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองน้อย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทอดพระเนตรโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน โครงการฝึกอาชีพ โดยการส่งเสริมด้านเกษตรยั่งยืน ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทำกลองยาว และการทำมะเขือแช่อิ่ม เป็นต้น ในโอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานและพระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัวไร้สัญชาติ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการเรื่องสัญชาติ เพื่อให้ครอบครัวเหล่านั้นสามารถดำเนินชีวิต ประกอบอาชีพ เข้ารับการศึกษา และเข้ารับการรักษาพยาบาลได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook