ใต้ฟ้าตะวันเดียว งบบาน เอ บ่นอุบเข็ดเป็นผู้จัด

เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร บ่นอุบเจองบประมาณเรื่อง ใต้ฟ้าตะวันเดียว บานปลายชนิดกู่ไม่กลับ แม้ขายโฆษณาหมดก็ยังขาดทุน ถือเป็นประสบการณ์คนรุ่นใหม่

เพิ่งมาเป็นผู้จัดหน้าใหม่ให้ กึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ กับละครเชื่อมสัมพันธ์ไทย-เกาหลี เรื่อง ใต้ฟ้าตะวันเดียว ทำเอา เอ ศุภชัยถึงกับบ่นอุบ เพราะงบบานปลายไปมาก จนบอกกับใครต่อใคร ว่าขายโฆษณาหมดยังขาดทุน แต่ยังยิ้มได้ เพราะได้งานตามที่ตั้งใจไว้ เมื่อมาเจอเอในงานแถลงข่าว แจ้งละครลงจอ เลยขอจับตัวมาซักถึงงบที่บานไปเยอะเหลือเกิน

"อู๊ย...ย ละครเรื่องนี้ลงทุนสูงมาก ตอนนี้ 30 กว่าล้านแล้ว งบบานชนิดที่เรียกว่าขายโฆษณาหมดก็ยังขาดทุน แต่ไม่เป็นไร แม้เราจะขาดทุน แต่เราก็ได้ผลงานตามที่เราอยากทำ ก็อยากให้กำไรคนดู แต่ไม่รู้ว่าคนดูจะได้กำไรหรือเปล่า ถือว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ ที่อยากทำอะไรใหม่ๆ ส่วนงบที่บานปลายนั้น ก็มีเงินส่วนตัวของเอเองด้วย ส่วนโปรเจกท์หลังจากนี้ คงต้องหยุดไว้ก่อน เพราะตอนนี้ยังเข็ดอยู่ ตอนที่เริ่มงานนี้ก็คิดว่ามันน่าจะเป็นรายได้ เพื่อจะเลี้ยงครอบครัว แต่ครั้งนี้กลายเป็นรายจ่ายเพื่อจะผลาญครอบครัวมากกว่า (หัวเราะ) แต่ถ้าใครเห็นผลงานครั้งนี้ แล้วอยากจ้างมาให้เป็นโปรดิวเซอร์ เป็นคนดูแลกองถ่ายก็ยินดี ไม่อยากเป็นผู้จัดละคร เพราะไม่อยากเป็นคู่แข่งกับใคร เพราะตอนนี้ตัวเราเองก็เป็นผู้จัดการดารา ซึ่งเป็นอาชีพที่ดีอยู่แล้ว" ผู้จัดการคนดังกล่าว

ส่วนละครใต้ฟ้าตะวันเดียวที่ใกล้ออนแอร์ผู้จัดคนเดิมบอกว่าไม่กังวล ที่เวลาฉายละครตรงกับเวลาฉายข่าวของช่องอื่น ซึ่งละครเรื่องนี้ เป็นแนววัยรุ่นใสๆ สนุกสนาน มีสอนใจบ้าง สอนการทำอาหารไทยแทรกไปด้วย ซึ่งคนดูมีแต่คุ้ม

"เราไม่ได้ก๊อบปี้เกาหลี แต่คุณภาพละครดีเท่าเกาหลี ทำไมไม่คิดว่าตอนนี้คนไทยทำงานคุณภาพเท่ากับคนเกาหลีแล้ว เราใช้บทละครของคนไทย เราใช้ผู้กำกับที่เป็นคนไทย ละครเรื่องนี้ยังมีกลิ่นอายไทยๆ ทั้งเรื่อง เพราะฉะนั้นคนดูมีแต่กำไรกับกำไร ทำไมคนต้องหาว่าเราไปก๊อบเกาหลี เราไม่ได้ก๊อบเกาหลีเลย และเรื่องนี้ก็เป็นละครเรื่องแรกของมาริโอ(มาริโอ เมาเร่อ) เอว่าเขาก็เกร็งแหละ แต่เราได้พี่ผิน (ผิน เกรียงไกรสกุล) ที่ทำแรมพิศวาสมาช่วย

ผู้จัดคนเก่งยังบอกอีกว่าสำหรับละครเรื่องนี้ขายต่างประเทศแน่นอน ซึ่งขณะนี้มีประเทศญี่ปุ่นมาซื้อแล้ว ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา

"บอกราคาเขาไป 500,000 บาท เขากำลังต่ออยู่ เอบอกไปว่าขายเท่าไหร่ก็เอาไปเถอะ อย่างน้อยเป็นประเทศไทยเมืองแรกที่ได้ขายเมืองนอก ให้ฟรีก็ได้ ขอให้ไปได้ฉายช่อง 3 ช่อง 7 เหมือนในประเทศไทยละกัน ส่วนเรื่องการรวมเป็นวีซีดี ดีวีดี มีการรวมแน่นอน เพราะตอนนี้ขาดทุนอยู่ ต้องหาวิธีที่จะมีรายได้เพิ่ม" เอกล่าวปิดท้าย