เปิดตำนาน "หลวงปู่วรพรตวิธาน" ผ่านไปกว่า 20 ปี สรีระสังขารยังไม่เน่าเปื่อย

เปิดตำนาน "หลวงปู่วรพรตวิธาน" ผ่านไปกว่า 20 ปี สรีระสังขารยังไม่เน่าเปื่อย

เปิดตำนาน "หลวงปู่วรพรตวิธาน" ผ่านไปกว่า 20 ปี สรีระสังขารยังไม่เน่าเปื่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"หลวงปู่วรพรตวิธาน" พระอริยสงฆ์แดนอีสาน ผ่านไปกว่า 20 ปีแล้ว แต่สรีระสังขารยังไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังกลายเป็นสีเขียวมรกต

วานนี้ (20 มี.ค.) ภายในโบสถ์ที่วัดจุมพล บ้านก้านเหลือง ต.ก้านเหลือง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งตั้งโลงแก้วบรรจุสรีระสังขาร "หลวงปู่วรพรตวิธาน" อดีตเจ้าอาวาสวัดเอาไว้ โดยลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงปู่วรพรตวิธาน จะทราบดีว่าท่านถูกยกให้เป็นพระอริยสงฆ์แดนอีสาน

มีเรื่องเล่าขานกันมาตั้งแต่ปี 2503 ที่หลวงปู่เหยียบรถกระดก (ลอยขึ้น) โดยวันนั้นหลวงปู่จะออกเดินทางจาก อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ด้วยรถโดยสาร เพื่อจะไปจังหวัดร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ตามธรรมดา

โดยทั่วไปแล้ว พระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้า­แล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตาม

แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่­า “โยม รถจะไม่เดี่ยงหรือ” (เดี่ยง เป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “กระดก”) คนขับก็บอกว่า “หลวงพ่อนิมนต์ก้าวเหยียบขึ้นได้เลย รถมันไม่เดี่ยงหรอกเพราะรถรับน้ำหนักได้หล­ายตัน”

พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป

ด้าน พระครูสิริ ภัทรสาร เจ้าอาวาสวัดจุมพล เปิดเผยเรื่องเล่าจนเป็นตำนานของหลวงปู่วรพรตวิธาน กับผู้สื่อข่าวว่า ทุกวันอาตมาทำวัดเสร็จก็จะขึ้นมาหาหลวงปู่ทุกวัน และในวันที่ 18 มกราคม 2544 ท่านก็พูดแปลกๆ ว่าปีนี้จะไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว อาตมาก็ถามว่าหลวงปู่จะไปไหน หลวงปู่ก็บอกว่าปีนี้เราจะตายแล้ว ตายแล้วก็สังขารเผาไม่ไหม้ พูดท่านเป็นวาจาสิทธิ์ พูดคำไหนก็คำนั้น

เมื่อท่านเสีย ก็ได้ฉีดยาหมอเเจ้งว่าร่างท่านจะอยู่ได้แค่ 6 เดือน สังขารก็จะเน่าเปือย ทางวัดก็ได้เก็บสังขารท่านไว้ในหีบธรรมดา โลงแก้วธรรมดาที่ไม่ได้ติดตั้งอะไร และไม่ได้เป็นโลงเย็นมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2544

ในโลงจะใส่ใบชา ยากันชื้น การบูน ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ เมื่อก่อนสังขารของท่านจะเป็นสีน้ำตาล จากนั้นพบว่าในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2553 ผิวหนังของท่านเริ่มเกิดเป็นสีเขียว ที่สังขารของท่าน ก่อนที่จะเป็นอย่างที่เห็น ได้ฝันก่อนว่ามีพญานาคมาเลื้อยวนอยู่ที่ศาลาของหลวงปู่

ตอนเช้าเป็นวันพระได้มาพูดคุยกับโยมคนหนึ่งที่มีความฝันเหมือนกัน เลยได้พากันไปดูหีบสังขารของหลวงปู่ ก็เจอสีเขียวเท่าขนาดของไข่ ที่บริเวณศีรษะของท่าน ตามปกติก็เปลี่ยนผ้าท่านทุกปี คิดว่าเป็นเชื้อรา ก็เลยนำแผ่นทองมาปิด

กลัวชาวบ้าน ญาติโยม คิดว่าเราเอาสีไปทาท่าน แต่ก็แผ่นทองก็หลุดออกเหมือนเดิม ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ปรากฎทั้งสังขาร แต่ผ่านไปได้ประมาณ 1 เดือน ก็พบว่าเป็นสีเขียวเต็มสังขาร กลายเป็นสีเขียวมรกตจนถึงขณะนี้

ในตอนนั้นโซเชียลกำลังมา ลูกศิษย์ลูกหาเค้าก็ได้มาถ่ายรูป และส่งต่อๆ กันไป หลังจากสังขารเป็นสีเขียวแล้วก็ยังคงปิดทองเป็นประจำทุกปี และเปลียนจีวรทุกปี

ในกรณีที่ท่านบอกว่าสังขารเผาไม่ไหม้ คาดว่าท่านจะบริจาคสังขารให้เป็นสิ่งที่เราไม่ยึดติด เพราะว่าเราแค่มาอาศัยร่าง ให้พวกเราพิจารณาทางธรรมว่าเป็นแค่ท่อนไม้ ลาภยศ สรรเสริญเอาไปไม่ได้ สังขารของท่านจะเก็บไว้ให้ลูกหลานดูต่อไป หลายๆรุ่น จะจัดปฏิบัติธรรมให้สังขารของหลวงปู่เป็นครูบาอาจารย์เหมือนที่อื่นทำ

ในแต่ละปีทำบุญเปลี่ยนจีวรให้ท่าน ในตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ อาตมา ก็จะเปลี่ยนจีวรให้ท่านทุกวันที่16 เมษายน จึงยึดถือมาตลอด ส่วนทำบุญครบรอบวันละสังขาร จะทำวันที่ 20 พฤษภาคม ของทุกปีแล้วจะเป็นบุญเดือน 6 ของอีสาน คือบุญบั้งไฟ

หลวงปู่วรพรตวิธาน ละสังขารมาแล้ว 22 ปี หลังจากที่มีโควิดระบาดก็ไม่ได้จัดเลย ปีนี้ก็จะจัดตามปกติ กิจกรรมจะมีบุญบั้งไฟ มีนางรำมารำบวงสรวงหลวงปู่ นิมนพระมาสวดพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ เปิดตำนาน "หลวงปู่วรพรตวิธาน" ผ่านไปกว่า 20 ปี สรีระสังขารยังไม่เน่าเปื่อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook