ชัดๆ จากปาก พยาบาลชาวเขา หวิดโดดตึกลาโลก เจอมาเยอะ บางอย่างพูดไม่ได้

ชัดๆ จากปาก พยาบาลชาวเขา หวิดโดดตึกลาโลก เจอมาเยอะ บางอย่างพูดไม่ได้

ชัดๆ จากปาก พยาบาลชาวเขา หวิดโดดตึกลาโลก เจอมาเยอะ บางอย่างพูดไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้องแป้ง พยาบาลชาวเขา เปิดใจ หลังเขียนจดหมายลาโลก-หวิดโดดตึก บอกจะไม่เอาชีวิตมาเสี่ยงแล้ว ลั่นคนตายพูดไมได้

จากกรณีที่ "น้องแป้ง" พยาบาลชาวเขา ได้เขียนจดหมายลาตายโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ตัดพ้อถูกกลั่นแกล้งในที่ทำงาน รวมทั้งเครียดเรื่องถูกขโมยรถจักรยานยนต์ จนนำไปสู่การถูกสามีหัวหน้าแผนกใน รพ.ตามคุกคาม ก่อนจะพยายามกระโดดตึกในที่ทำงานหวังจบชีวิต แต่เคราะห์ดีที่ยังมีคนมาดึงตัวไว้ได้ทัน

ล่าสุด วานนี้ (24 ก.พ.) ร.ต.อ.เกษมสิษฐ์ ต่อกัน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้เรียกตัว น้องแป้ง เข้าพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีถูกขโมยรถจักรยานยนต์ การเดินทางมาครั้งนี้ทางน้องแป้ง ได้พาทนายความมาร่วมรับฟังคดีและดำเนินการจัดการด้านคดีด้วย

จากนั้นได้ขอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลคดี ซึ่งทางน้องแป้งได้นำเอกสารเป็นข้อความแชท ที่ได้สนทนากับคู่กรณีในเรื่องรถส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาในการสอบสอบสวนกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า คดีขโมยรถร้อยเวรเจ้าของคดีได้ขอให้น้องแป้งมาให้ข้อมูลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในส่วนสำนวนคดีได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการต่อไป ในฐานความผิดก็จะเป็นคดีลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ

แต่ว่าในส่วนของการเชื่อมโยงของผู้ต้องหาทั้งสองคน ว่าได้ร่วมกันกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ต้องดูพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายได้นำมายื่นเพิ่มเติม คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะส่งเรื่องให้กับพนักงานอัยการได้ ในขณะที่ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการ ทางพนักงานสอบสวนก็จะได้ส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับทางต้นสังกัดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

ด้าน น้องแป้ง พยาบาลชาวเขา เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องของการทำงานที่โดนกดดันก่อน จากนั้นก็มีเรื่องคดีเกี่ยวกับรถมาซ้ำเติม พอขอย้ายแผนกก็ไม่ให้ย้าย ก็ให้กลับไปอยู่ที่เดิมซึ่งกดดันมาก ทำให้รู้สึกว่าปัญหาเยอะหลายอย่างที่เข้ามาในเวลาเดียวกัน และขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ก็เหมือนไม่ได้ยิน

ก็คิดว่าเหตุการณ์ไหนๆ ก็เกิดขึ้นแล้ว และก็รักในวิชาชีพนี้ ไม่พร้อมที่จะลาออก ก็เลยเขียนจดหมายขอโทษลาคุณพ่อคุณแม่ ที่น้องแป้งทำไม่ได้คิดสั้นแต่คิดไตร่ตรองมาแล้ว หาทางทุกวิถีทางแล้ว

ที่จริงจะนำไปยื่นให้กับทางผู้อำนวยการ แต่วันนั้นทางผู้อำนวยการไม่อยู่ ก็เลยฝากไว้กับเลขาที่หน้าห้อง จากนั้นก็หันหลังเดินไปจะไปที่ระเบียงชั้น 3 ทางเลขาคนดังกล่าวเห็นก็รีบวิ่งมาและจับมือน้องแป้งไว้ ก่อนจะเรียกคนอื่นมาช่วยดึงไว้

หลังเกิดเหตุการณ์ทางโรงพยาบาลได้ให้ไปรักษาตัวด้านสุขภาพจิตตามที่ได้ให้ข้อมูลกับสื่อ ตอนแรกทางโรงพยาบาลบอกว่าจะไม่เปิดเผย แต่ภายหลังก็พบว่ามีการแถลงระบุชื่อโรงพยาบาลที่ไปรักษาตัว ทำให้คิดว่าทางผู้ใหญ่ต้องการอะไรจึงให้ข้อมูลไปแบบนั้น ทั้งที่น้องแป้งไม่ได้เป็นจิตเวช น้องแป้งเครียดไม่มีทางออกแต่ทุกคนมองว่าน้องแป้งเป็นแบบนั้น ทำให้ไม่สบายใจ

ส่วนเรื่องกลับไปเริ่มงานนั้น ยังไม่ทราบว่าจะกลับไปเมื่อไหร่ เพราะขณะนี้สภาพจิตใจยังไม่พร้อม และยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางผู้ใหญ่ จึงทำให้ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้อยู่ในช่วงพักดูแลสภาพจิตใจ

ตอนนี้สภาพจิตใจแย่ เพราะเจอเรื่องมาเยอะ บางอย่างพูดไม่ได้ แม้แต่วันนี้ก็ยังพูดไม่ได้ การลาออกงานนั้นยืนยันว่าไม่ลาออก ที่ตัดสินใจเอาชีวิตตัวเองมาแลกเพราะไม่คิดลาออกอยู่แล้ว เจอเหตุการณ์หนักแค่ไหนก็ไม่ลาออก ส่วนการกลับไปทำงานที่เดิมขอแค่ย้ายแผนกก็พอ ไม่ต้องย้ายไปโรงพยาบาลอื่น เพราะในที่ทำงานก็ยังมีพี่บางส่วนยังเป็นที่พึ่งให้ได้อยู่

พอได้เห็นเหตุการณ์หลายๆ อย่างหลังจากนั้น มีการแถลงการณ์ขัดต่อข้อเท็จจริง ทำให้น้องแป้งคิดว่าไม่อยากเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงแล้ว เพราะถ้าน้องแป้งเสียชีวิตไปวันนั้นคนตายพูดอะไรไม่ได้ ก็ทำให้รู้ว่าควรจะมีชีวิตอยู่ต่อ ก็จะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด

ด้านคดีตอนนี้ก็หนักใจมาก เราใช้หลักฐานความจริงทั้งหมดแต่เรื่องช้าเหลือเกิน ก็เลยรู้สึกเครียด ในขณะที่ทางครอบครัวเป็นห่วงเรื่องการทำงานหากกลับไปทำงานจะเป็นอย่างไร ห่วงสภาพจิตใจ ห่วงเรื่องคดีความที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็โดนคู่กรณีคุกคาม ทางพ่อแม่ก็เป็นห่วงในเรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook