เหตุวิวาทในงานแต่ง "ซัดดำ" โอดแค่เข้าไปเต้น อ้างเจ้าภาพรุมตื้บจนสลบ เสื้อมีแต่รอยบาทา

เหตุวิวาทในงานแต่ง "ซัดดำ" โอดแค่เข้าไปเต้น อ้างเจ้าภาพรุมตื้บจนสลบ เสื้อมีแต่รอยบาทา

เหตุวิวาทในงานแต่ง "ซัดดำ" โอดแค่เข้าไปเต้น อ้างเจ้าภาพรุมตื้บจนสลบ เสื้อมีแต่รอยบาทา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหตุวิวาทในงานแต่งจนเจ้าสาวจับไมค์ด่า หนุ่มตัวต้นเหตุโอดแค่เข้าไปเต้น แต่เจ้าภาพรุมตื้บจนสลบ น้องชายแค่มาช่วย เสื้อยังมีแต่รอยบาทา 

ผู้ใช้ TikTok โพสต์คลิปในงานแต่งงานงานหนึ่ง ใน จ.ขอนแก่น ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นมาก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในงาน โดยเจ้าภาพจ้างวงดนตรีมาเล่น ทำเอางานล่ม จนเจ้าสาวทนไม่ไหว คว้าไมค์ขึ้นเวที ตำหนิกลุ่มวัยรุ่นที่ยกพวกตีกันด้วยอารมณ์สุดเดือดว่า

"มาตีกันในงาน ทำให้ดนตรีต้องเลิก พวกคุณมีปัญญาจ้างค่าจัดงานไหม ดูด้วยงานนี้คืองานอะไร ทำคนอื่นหมดสนุกไปด้วย งานนี้คืองานแต่ง แต่งเพื่ออะไร แต่งเพื่อปู่ แล้วจ้างวงดนตรีมาเท่าไหร่ รู้ไหม จ้างมาแพงมาก อยากให้วงดนตรีเล่นจนจบ อีกแค่ 30 นาทีเอง แต่ก็มาตีกันเพื่ออะไร"

โดยทางเจ้าสาวได้ระบุว่า หนุ่มตัวต้นเหตุที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทคือ นายซัดดำ หนุ่มในหมู่บ้านที่มาร่วมงานโดยไม่ได้รับเชิญ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายพงษ์สิทธิ์ อายุ 24 ปี ชื่อเล่นคือ มอส ฉายาซัดดำ ซึ่งชาวบ้านเรียกมาตั้งแต่เด็กเพราะเป็นคนตัวใหญ่ผิวดำ พร้อมด้วย นายทองฤทธิ์ อายุ 57 ปี นางอำพร อายุ 53 ปี พ่อและแม่ของน้องมอส พร้อมทั้งพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย นายมอส เปิดเสื้อให้ผู้สื่อข่าวดูร่องรอยบาดแผลฟกช้ำตามแขน ต้นคอ และใบหน้า ที่บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเกิดจากทางเจ้าภาพรุมทำร้ายจนสลบแล้วยังทำร้ายต่อเนื่องจนต้องวิ่งหนีกลับบ้านเพื่อเอาตัวรอด ซึ่งเป็นข้อมูลที่ขัดแย้งกับทางเจ้าภาพที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายมอส หรือนายซัดดำ เป็นคนชกพ่อเจ้าสาวก่อนจะมั่วในงานจนเกิดความชุลมุนกันขึ้นจนต้องยุติงานกลางคัน

พร้อมทั้งนำเสื้อของน้องชายนายมอส ที่มาร่วมงานด้วยซึ่งมีญาติพี่น้องนายมอสอีกหลายคนที่อยู่ในงาน แต่ในช่วงเกิดเหตุนั้นจะมีน้องชายอยู่เพราะญาติกลับบ้านก่อนที่จะมีเรื่องเกิดขึ้น ซึ่งเสื้อดังกล่าวนายมอสและพ่อแม่บอกว่า น้องชายเข้าไปขอร้องทางเจ้าภาพและเข้าไปกันไม่ให้นายมอสถูกทำร้าย ทั้งกราบทั้งไหว้ทางเจ้าภาพจนเสื้อขาดสภาพเสื้อมีรอยรองเท้าเต็มไปหมด

พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุนั้น ตนเองดื่มสุรากับน้องๆ ในหมู่บ้าน ยอมรับว่ามีอาการเมา ก่อนจะเข้าไปในงานประมาณทุ่มเศษๆ ก็ไปเต้นกับพี่น้องที่มาร่วมงานเช่นกัน แต่ถูกเจ้าภาพรุมทำร้ายจนสลบ จำอะไรไม่ค่อยได้ รู้ตัวอีกทีเหมือนถูกลากพอได้สติก็ถูกทำร้ายซ้ำอีก แล้วสลบรู้ตัวอีกทีมาฟื้นที่บ้านแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้สร้างความวุ่นวายในงาน หรือทำร้ายใครเลย อยากจะขอความเป็นธรรมให้กับตนเองด้วย ส่วนเงินที่เรียกมาบอกว่าเป็นค่าวงดนตรี 85,000 บาท นั้นคงไม่มีเงินให้ขอยอมติดคุกหากตัวเองทำผิด ขณะที่พ่อและแม่ของนายมอส ต่างขอความเป็นธรรมกรณีที่เกิดขึ้น โดยแม่บอกถึงสาเหตุว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นพ่อแม่อยู่ที่บ้าน กระทั่งได้ยินเสียงประกาศว่ามีคนตีกัน แต่ก็ไม่ได้มีใครออกไปดู ก่อนที่เพื่อนๆ จะพาลูกชายกลับบ้านและนอนหลับ

ซึ่งหลังเกิดเหตุได้สอบถามเพื่อนๆรวมทั้งลูกชายทราบว่า มอสเมาในงานแต่งอาจจะไปโดนข้าวของในงานทำให้เจ้าภาพไม่สบายใจ จนเกิดการทะเลาะกัน อาจจะเกิดจากการที่เจ้าภาพมาเตือนแต่เตือนอย่างเดียวตนเองก็ไม่ได้ติดใจ แต่กลับทำร้ายลูกชายตนเองจนได้รับบาดเจ็บ ไอเป็นเลือดด้วย หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกันเมื่อคืนที่ผ่านมาที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ทางฝ่ายเจ้าภาพต้องการให้ชดใช้ค่าจัดงานจำนวน 85,000 บาท ซึ่งเป็นค่าจ้างวงดนตรี ในส่วนนี้ก็คงต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ให้กฎหมายตัดสิน หากลูกผิดจริงตำรวจก็สามารถจับลูกชายดำเนินคดีได้ อยากจะขอความเป็นธรรม เพราะตนเองไม่มีเงินพาลูกชายไปหาหมอ จึงไม่มีหลักฐานพาเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางเจ้าภาพได้ หากเจ้าภาพมีหลักฐานมีกล้องวงจรปิดก็เอามาเปิดให้ดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นยังไง ลูกชายหากดื่มสุราจะเสียสติ แต่ก็ไม่ได้กินทุกวัน ไม่ได้ไปไหน อยู่แต่บ้าน หาปลาช่วยพ่อแม่ แต่ช่วงนี้หาปลาไม่ได้จึงอยู่แต่ที่บ้าน

สาเหตุนั้นตนเองได้ทราบจากแม่ค้าในงานที่รู้จักกัน ที่ลูกชายไปชนข้าวของล้ม ท้าตีลูกชายแม่ค้า แต่แม่ค้าไม่ติดใจเอาความเพราะรู้ว่าลูกชายเมาจึงห้ามเอาไว้ ก่อนที่ลูกชายจะเดินไปเต้นที่หน้าเวที ตามประสาวัยรุ่นพร้อมกับพี่น้องในที่ไปร่วมงานเช่นกัน ซึ่งแม่ค้าเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้น ลูกชายชูไม้ชูมือ ยกมือเข้าจังหวะเพลงซึ่งเป็นเพลงคาราบาว และจะมีการทำมือในลักษณะเขาความ แต่เจ้าภาพคิดว่าลูกชายชูนิ้วกลางด่า พ่อของเจ้าสาวจึงเข้าไปผลักลูกชายจนมีปากเสียงกันเกิดขึ้น ก่อนที่ลูกชายจะออกจากงานไป สักพักลูกชายอีกคนซึ่งเป็นน้องของมอสได้ยินเสียงโวยวายอยู่สนามตะกร้อ จึงวิ่งไปดู และเห็นเป็นพี่ตัวเองจึงเข้าไปปกป้อง ทั้งกราบทั้งไหว้ขอร้องไม่ให้ทำร้ายพี่ ซึ่งลูกๆ บอกว่าเป็นทางเจ้าภาพมารุมทำร้าย ก่อนที่ลูกชายคนโตจะถูกทำร้ายจนสลบ ส่วนน้องคนเล็กที่เข้าไปปกป้องพี่และกราบไหว้ขอร้องให้หยุดตีก็ถูกทำร้ายไปด้วย เสื้อขาดมีแต่รอยรองเท้าติดเต็มเสื้อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook