สารวัตรหนุ่มขับรถเสียหลักชนเสาไฟ พลิกคว่ำดับกลางถนน ทหารหญิงนั่งข้างบาดเจ็บ

สารวัตรหนุ่มขับรถเสียหลักชนเสาไฟ พลิกคว่ำดับกลางถนน ทหารหญิงนั่งข้างบาดเจ็บ

สารวัตรหนุ่มขับรถเสียหลักชนเสาไฟ พลิกคว่ำดับกลางถนน ทหารหญิงนั่งข้างบาดเจ็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สารวัตรหนุ่ม สภ.กุมภวาปี ขับรถเสียหลักชนเสาไฟ พลิกคว่ำลงร่องกลางถนนดับคาที่ จ่าอากาศเอกหญิงนั่งมาด้วยบาดเจ็บ

(14 เม.ย.65) เมื่อเวลา 03.00 น. ณะที่ พ.ต.ต.สถิตย์  ภูบังแสง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนนมิตรภาพ (ขาออกตัวเมืองอุดรธานี) บริเวณหน้าวีทีแหนมเนือง ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี  มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 และมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงที่นั่งมาด้วยกัน 1 ราย อยู่ภายในตัวรถ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน และอาสากู้ภัยทางหลวงอุดรธานี 

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น C-HR ทะเบียน 8 กก 5066 กทม. สภาพพังยับ ที่เบาะนั่งคนขับพบศพ พ.ต.ต.สุขสันติ์  สืบสหการ หรือ สารวัตรท็อป อายุ 32 ปี สว.สืบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นรต.รุ่น 66 ชาว ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สภาพศพคอหัก มีเลือดไหลออกทางปากและจมูก ส่วนเพื่อสาวรุ่นน้องที่นั่งมาด้วยกันทราบชื่อภายหลังคือ จ่าอากาศเอกหญิงณัฐรดา อายุ 26 ปี

จากการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้าริมถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุ ในเบื้องต้นทราบว่า พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีจ่าอากาศเอกหญิงณัฐรดา นั่งอยู่เบาะนั่งด้านหน้าข้างคนขับ ได้เดินทางออกจากตัวเมืองอุดรธานี เพื่อไปยังอำเภอกุมภาวาปี และขับขี่มาด้วยความเร็ว เมื่อถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งชนเสาไฟส่องสว่างเกาะกลางถนน เป็นเหตุให้รถยนต์พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนที่รถจะข้ามมาจอดอยู่บนถนนอีกฝั่งด้วยความแรง ในสภาพรถพังยับเยิน เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.สุขสันติ์ สืบสหการ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศล และคาดว่าศพจะถึงภูมิลำเนาในวันพรุ่งนี้ ส่วนจ่าอากาศเอกหญิงณัฐรดา ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร

โดยกล้องวงจรปิดระบุเวลาเกิดเหตุ 02.54 น. วันที่ 14 เมษายน 2565 พ.ต.ต.สถิตย์ ภูบังแสง เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีรถคู่กรณี โชคดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นยามวิกาล ทำให้ไม่ค่อยมีรถ หรือแทบไม่มีรถสัญจรผ่านไปมาขณะเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook