พท.เลื่อนยื่นหนังสือขออภัยโทษ

จิ๋วลงนามถึงฮุนเซนแตง4ข้อขออิสรภาพ

เพื่อแม้ว เลื่อนยื่นหนังสือขออภัยโทษอย่างไม่มีกำหนด เผย บิ๊กจิ๋ว ลงนามถึง ฮุนเซน แจง 4 เบี้ยขออิสรภาพ ศิวรักษ์ แลกฟื้นสัมพันธ์เพื่อนบ้านไทย-กัมพูชา ตั้งแท่นตามบี้ คำรบ-กษิต สั่งจารกรรมตารางบิน พร้อมวอน อู๊ดด้า เห็นใจอย่าอ้างระเบียบฟัน อ.สิมารักษ์ ย้อนหลัง ด้าน มาร์ค หนุน หัวอกแม่ เลือกข้างช่วยลูก กอดหลักการ เลขาฯ ทูต-รัฐบาลไทย ไม่ได้สั่ง วิศวกรไทย ทำผิด ก.ม. ขณะที่ มังกรเติ้ง ปล่อย ชาละวัน ลงน้ำตามคำขอ แบะท่าไม่แลกเก้าอี้ รองนายกฯ-รมช. พร้อมเผยบรรยากาศไม่เอื้อแก้กติกาเลือกตั้ง ฝ่าย เพื่อไทย เปิดบัญชีดำซักฟอก รมต. วันพุธหน้า เฟ้นว่าที่ นายกฯ-ผู้นำฝ่ายค้าน

* บิ๊กจิ๋วลงนามถึงฮุนเซน

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือแคทส์ ที่ถูกศาลแขวงกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ตัดสินลงโทษจำคุก 7 ปี และ ปรับเป็นเงิน 10 ล้านเรียล หรือ 83,500 บาท ในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงกรณีจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

พล.ต.ศรชัย เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต ได้ลงนามในหนังสือถึงสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการนำความกราบบังคมทูลเพื่อยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายศิวรักษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงวันที่ 14 ธ.ค. นี้ ตนพร้อม ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งจะเดินทางไปยังกัมพูชาเพื่อยื่นหนังสือถึง สมเด็จฮุนเซนที่ทำเนียบรัฐบาลกัมพูชา

* ยื่นผ่านสถานทูตเขมร11ธ.ค.

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 11 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ตนและ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่ลงนามโดย พล.อ. ชวลิต ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เนื่องจากนางสิมารักษ์ มารดาของนายศิวรักษ์โทรศัพท์มาขอร้องให้เร่งรัดดำเนินการช่วยเหลือ ทำให้ต้องยกเลิกกำหนดการเดิมที่ตนและคณะ ส.ส.พรรค เพื่อไทยจะเดินทางไปยื่นที่ทำเนียบรัฐบาลกัมพูชาในวันที่ 14 ธ.ค.

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่นางสิมารักษ์ได้ทำหนังสือร้องขอความช่วยเหลือมาด้วยนั้น ทราบจากนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ลงนามในเอกสารเพื่อยื่นอย่างเป็นทางการ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์ไปประสานกับสมเด็จฮุนเซนเป็นการส่วนตัวแล้ว พร้อมยืนยันว่าตัวท่านไม่ติดใจที่นายศิวรักษ์ให้ข้อมูลตารางการบิน จนทำให้ท่านตกอยู่ในอันตราย และถือว่านายศิวรักษ์เป็นแพะคนหนึ่งในวังวนของ การไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ

* ร่าย4เหตุผลช่วยฟื้นสัมพันธ์

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังยื่นหนังสือผ่านทางสถานทูตกัมพูชาแล้ว คิดว่าไม่เกิน 1 วันหนังสือคงส่งไปยังทางการกัมพูชาได้ จากนั้นนางสิมารักษ์พร้อมด้วยทนายความส่วนตัวจะแนบเอกสารเพื่อเข้าสู่กระบวนการทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป

โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงเนื้อหาในหนังสือที่ พล.อ.ชวลิต ลงนามถึง สมเด็จฮุนเซน ได้อ้างถึงเหตุผล 4 ประการ คือ 1.คดีความ 2.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาที่มีมาอย่างยาวนาน 3.ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง พล.อ.ชวลิต และสมเด็จฮุนเซน และ 4.อ้างถึงความจำเป็นของนางสิมารักษ์ผู้เป็นแม่ที่อายุมากและมีนายศิวรักษ์ เป็นกำลังหลักของครอบครัว ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงขอความอนุเคราะห์และความเมตตาให้แก่นายศิวรักษ์ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชาดีขึ้น

* ปิดคดีตามบี้คำรบ-กษิตต่อ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อรัฐบาลโดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว. การต่างประเทศ กลายเป็นคู่ขัดแย้งกับสมเด็จฮุนเซน ฝ่ายค้านก็พร้อมให้ความช่วยเหลือในฐานะที่มีสัมพันธ์ที่ดี และอยากจะน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และเพื่อประโยชน์ประชาชน ทั้งนี้หลังคดีของนายศิวรักษ์ลุล่วงแล้วจะได้มีการตรวจสอบการดำเนินการของนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อไปด้วย

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า ขณะนี้นางสิมารักษ์ รู้สึกกังวลในเรื่องการลาราชการ เพราะเป็นอาจารย์สอนหนังสือ ดังนั้นวันที่ 11 ธ.ค. ตนจะนำหนังสือลาราชการของนางสิมารักษ์ ไปยื่นขอความเมตตาต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นระยะเวลาหนึ่งจนกว่าคดีของนายศิวรักษ์จะสิ้นสุด

* เลื่อนส่งหนังสือช่วยวิศวกรไทย

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายพร้อมพงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พรรคเพื่อไทยขอยกเลิกกำหนดการเข้ายื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ ต่อสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ให้ช่วยขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกร ชาวไทย ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าผู้ใหญ่ของพรรคจะประสานงานกับทางการกัมพูชาเรียบร้อยก่อน แต่คาดว่าคงไม่เกินวันที่ 14 ธ.ค. อย่างแน่นอน

* มาร์คหนุนคุณแม่สะดวกใจ

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนไปยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ วไทย ว่า ทั้งหมดต้องเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการภายในของกัมพูชา และโดยหลักคือ ครอบครัวและเจ้าตัว ซึ่งวันนี้ทางครอบครัว โดยเฉพาะคุณแม่จะต้องพยายามหาหนทางที่ดีที่สุดเพื่อให้นายศิวรักษ์ได้อิสรภาพกลับคืนมา ทางครอบครัวสบายใจหรือมั่นใจที่จะเดินไปอย่างไรก็ให้เดินไปตามนั้น

เมื่อถามว่า มองเจตนาของ พล.อ. ชวลิต ที่ลงชื่อขอยื่นพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องพอสมควร หน้าที่ของรัฐบาลคือ พร้อมสนับสนุน อำนวยความสะดวกตามความประสงค์ของนายศิวรักษ์และครอบครัว ขณะเดียวกันจะรักษาจุดยืนและปกป้องความถูกต้องในแง่บทบาทของเจ้าหน้าที่ รัฐบาลไทย และคนไทย

* การันตีจนท.-รัฐบาลไม่ผิด

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจว่าเมื่อยื่นอภัยโทษทางการกัมพูชาจะปล่อยตัวนายศิวรักษ์ทันทีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เพราะเรื่องนี้คาดการณ์กันมาตั้งนานแล้ว แต่อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราอยากให้นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพกลับคืนมา แต่จะไม่ให้กระทบ กับความถูกต้อง และข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยพยายามขยายผลโดยโจมตีรัฐบาลว่าหากรัฐบาลชุดปัจจุบันยังอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาจะไม่มีทางฟื้นฟูได้ นายกฯ กล่าวว่า ต้องย้อนกลับไปดูเงื่อนไขที่เป็นปัญหาขึ้นมานั้นเกิดขึ้นจากใคร ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ก่อนหน้า พล.อ.ชวลิต เดินทางไปกัมพูชา ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี นอกจากนี้นายกฯ ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า สมเด็จฮุนเซน โทรศัพท์ติดต่อมาหา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ด้วยตัวเองด้วย

* แย้มเงื่อนไขมาร์คปรับครม.

ส่วนความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับ ครม. นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และประธาน ที่ปรึกษาพรรค ประกาศวางมือและให้นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย มารับตำแหน่งแทนว่า พรรคทราบเจตนารมณ์ ของ พล.ต.สนั่น มานานแล้ว แต่การปรับ ครม. อย่างเป็นทางการต้องรอให้นายกฯ ส่งสัญญาณมาก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ส่งสัญญาณมา แต่เงื่อนไขที่แน่ชัด คือ พรรคประชาธิปัตย์มีมติให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นรองนายกฯ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นเลขาธิการนายกฯ ส่วนนายกฯ มีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว คือ เมื่อพ้น 1 ปีซึ่งจะครบวันที่ 20 ธ.ค. นี้ค่อยปรับ ครม. แต่จะปรับหลังวันที่ 20 ธ.ค. หรือหลังปีใหม่ก็เป็นดุลพินิจของนายกฯ

* เติ้งไฟเขียวคำขอชาละวัน

ต่อข้อถามว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ส่งสัญญาณ พรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับเพียงตำแหน่ง พล.ต.สนั่น ใช่หรือไม่ หัวหน้า พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า คงต้องทำตามที่ พล.ต.สนั่น เสนอ พรรคเห็นชอบ ด้วย เรื่องนี้ไม่มีปัญหาสำหรับพรรคชาติ ไทยพัฒนา เมื่อถามต่อว่า จะต้องแลก กระทรวงหรือจะให้นายศิริวัฒน์เป็นรองนายกฯ นายชุมพล กล่าวว่า ตำแหน่ง รองนายกฯ ไม่ใช่ประเด็น แต่รัฐมนตรี ของพรรคยังคงโควตา ไว้ที่ 4 คน ตำแหน่งรองนายกฯ หากใครอยากจะได้ก็ตั้งขึ้นมาใหม่ได้ ไม่ต้องแลก เพราะนายกฯ จะตั้งรองนายกฯ 10 คนก็ย่อมได้ เพราะไม่ได้เป็นตัวเนื้อของตำแหน่ง เป็นเพียงตำแหน่งที่ไปปะไว้

นายชุมพล อธิบายว่า พรรคร่วมรัฐบาลอื่นไม่ได้มีตำแหน่งรองนายกฯ ทุกพรรคจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่โดยครรลองที่เป็นมาในรัฐบาลชุดก่อน ๆ พรรคชาติไทยพัฒนามีรองนายกฯ ด้วย แต่รัฐมนตรีมีแค่ 4 คน ส่วนตำแหน่งจะมี 5-7 ตำแหน่งก็ได้ เพราะเป็นคนละประเด็นกัน ไม่ได้ติดใจ แต่ก็ควรคงอยู่ตามตำแหน่งนั้น

* ชี้บรรยากาศไม่เหมาะแก้รธน.

นายชุมพล กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคยังมีจุดยืนต้องการแก้ไข รัฐธรรมนูญโดย 1.แก้ไขเพื่อให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตยที่แท้จริง 2.ต้องคืนความเป็นธรรมให้คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม 3.ประเด็นแก้ไขมีทั้งสิ้น 7 ประเด็น และ 4.ยกร่างแก้ไขประเด็นละฉบับ เนื้อหาสาระในการแก้ไขค่อนข้างลงตัว เพราะเห็นด้วยกันหมด แต่บรรยากาศและกระบวนการที่จะแก้ไขยังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่ เรื่องนี้จะต้องร่วมมือทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน วุฒิสภา และสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องเห็นชอบด้วย

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าเสียง รัฐบาลเพียงพอที่จะแก้ไขได้แล้ว หัวหน้า พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การนำเสนอถือว่ามีเสียงเพียงพอ แต่การลงมติไม่แน่ว่าจะเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นฝ่ายใดที่เห็นชอบด้วยก็ควรลงมาร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาวิกฤติของประเทศขณะนี้ที่แก้ไขไม่ได้ เพราะทุกคนยืนอยู่บนจุดที่ตัวเองได้เปรียบและไม่พยายามที่จะลงมาดูแล

* เพื่อแม้วท้ารัฐกล้าคิดกล้าทำ

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลเรียกร้องให้ฝ่ายค้านเข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลต้องกล้าเป็นผู้นำและต้องกล้าทำ อย่าโยนความผิดให้คนอื่น รัฐสภามีสมาชิกอยู่ไม่น้อยที่พร้อมจะพิจารณา ฝ่ายค้านก็เป็นส่วนหนึ่งด้วยและยืนยันที่จะปฏิบัติหน้าที่ในกรอบของกฎหมาย ดังนั้นความห่วงใยในเรื่องอื่นไม่ต้องมาบอก รัฐบาลทำให้ถูกต้องดีกว่า

ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า องค์ประกอบเพียงพออยู่แล้ว แต่ฝ่ายค้านขอใช้อำนาจตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นจะให้รัฐบาลเร่งทำวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ได้ยิ่งดี อย่ามาโยนว่าฝ่ายค้านไม่พร้อม หรือวิงวอนฝ่ายค้าน เพราะคิดว่าเป็นการเล่นเกมไปวัน ๆ ซึ่งมีหลายเรื่องที่จะต้องเร่งรัดทำไม่ใช่แค่การแก้ไขรัฐธรรมนูประชุมมาแล้วกล้ายื่นเรื่องพวกนี้ ทำให้ชัดเจน ฝ่ายค้านก็พร้อม ไม่ต้องกลัว

* 23ธ.ค.กางบัญชีซักฟอกรมต.

ส่วนที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ให้ฝ่ายค้านหาผู้นำฝ่ายค้านก่อนที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายวิทยา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะทำตามระเบียบข้อบังคับทุกอย่าง ทั้งนี้วันที่ 23 ธ.ค.นี้ พรรคจะประชุมเพื่อหารือถึงเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่า คุณสมบัติของผู้นำฝ่ายค้านว่าเป็นคนนอกหรือคนใน นายวิทยา กล่าวว่า ต้องดี และคงต้องดูการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่ จ.ปราจีนบุรี และ จ.มหาสารคาม ด้วย ยืนยันว่าพรรคจะดำเนินการไปตามระเบียบว่าหากยื่นถอดถอน หรือยื่นอภิปรายนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อว่าที่นายกฯ ตามรัฐธรรมนูญได้อย่างแน่นอน

ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงรายชื่อรัฐมนตรีที่เข้าข่ายถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ลงมา โดยเฉพาะประเด็นการไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ ซึ่งนายกฯ และรัฐมนตรีหลายกระทรวงไม่ได้ดำเนินการทำให้มีปัญหา

* ต้องตั้งผู้นำฝ่ายค้านนำทัพ

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 23 ธ.ค. คิดว่าไม่น่าจะได้ข้อสรุปเรื่องผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะต้องมีกระบวนการและขั้นตอนพอสมควร และที่ผ่านมานายวิทยาไม่ได้แจ้งต่อที่ประชุม ส.ส. นัดหมายเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อถามว่า นายวิทยาให้จับตาการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ปราจีนบุรี และ ส.ส.มหาสารคาม อาจได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ นายชวลิต กล่าวว่า ประเด็น พล.อ. ชวลิต ตัดออกไปได้ เพราะไม่เข้าคุณสมบัติทั้งไม่มีทั้งภูมิลำเนาและไม่เคยรับราชการใน 2 จังหวัด

ส.ส.รายนี้ ยอมรับว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมี ส.ส.ของพรรคเข้ามาทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรคในการทำงานการเมือง อีกทั้งเหลือเวลาไม่นานสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะเชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้ วางใจครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทาง การเมือง เช่น เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่เข้าข่ายการทุจริต หรือหย่อนประสิทธิภาพ

* มาร์คซัดเพื่อแม้วกลับลำ

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนยังอยู่ในจุดเดิมที่เห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรนำไปสู่ความสมานฉันท์ ทั้งในส่วนของนักการเมืองและประชาชน ซึ่งเดิมได้ตกลงกันเป็นขั้นตอนเรียบร้อย แต่วันนี้ฝ่ายค้านได้ถอนตัวไป ทำให้ต้องมาพิจารณาว่าจะเดินต่อไปหรือไม่อย่างไร

ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่ารัฐบาลกล้าที่จะเดินหน้าหรือไม่ เพราะเสียงมีเพียงพออยู่แล้วนั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวอะไรกับกล้าหรือไม่กล้าตัดสินใจ เพราะเดินหน้าแล้วฝ่ายค้านบอกว่าไม่อยากแก้ก็คงไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่จะนำไปสู่ความสมาน ฉันท์ และไม่ควรเสียงบประมาณทำประชา มติสอบถามประชาชนแล้วไม่เกิดผล

* ชูส.ส.พันธมิตรเจ๋งกว่าตุ๊ดตู่

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตั้งข้อสังเกตว่านายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน 2 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เข้าประชุมสภาว่า นายชวนร่วมลงมติ 79 ครั้ง นายบัญญัติ 85 ครั้ง ขนาดนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังลงมติกฎหมายสำคัญถึง 90 ครั้ง สาเหตุที่นายจตุพรไม่เห็นนายชวนกับนายบัญญัติเข้าประชุม เพราะนาย จตุพรไม่เคยเข้าประชุมมากกว่า

ส.ส.รายนี้ เปิดเผยด้วยว่า มีอาจารย์ จุฬาฯ คนหนึ่งส่งคลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ยูทูบที่มีชื่อว่า น้ำท่วมกรุงเทพ 2485 http:// www.youtube.com/watch?v= PU8fkEKPzZs มาให้ ตนจึงอยากให้เผยแพร่คลิปดังกล่าวเพื่อกระตุ้นเตือน ส.ส. ปัจจุบันว่า ส.ส. ในอดีตยังพายเรือมาร่วมประชุมสภาที่พระที่นั่งอนันตสมาคม.