เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพิ่มมาตรการการดูแลสัตว์ทุกตัวให้ปลอดภัย หลังเกิดกรณีลูกฮิปโปโปเตมัสตายในท่อน้ำ

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เพิ่มมาตรการการดูแลสัตว์ทุกตัวให้ปลอดภัย หลังเกิดกรณีลูกฮิปโปโปเตมัสตายในท่อน้ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้บริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ระบุ กรณีลูกฮิปโปโปเตมัสเสียชีวิต เกิดจากความประมาทเลินเล่อโดยไม่เจตนาของเจ้าหน้าที่ ยืนยัน จะพิจารณาลงโทษผู้เกี่ยวข้องตามระเบียบ พร้อมเพิ่มมาตรการการดูแลสัตว์ทุกตัวให้ปลอดภัย วันนี้ (8 ธ.ค.52) เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นำคณะสื่อมวลชนออกตรวจสอบสถานที่เลี้ยงและวิธีการเลี้ยงสัตว์ หลังเกิดกรณีลูกฮิปโปโปเตมัสตายในท่อน้ำ บริเวณโรงพยาบาลสัตว์ โดย นายณรงค์ ตนานุวัฒน์ ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวถึงผลสรุปการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เกิดจากความประมาทเลินเล่อโดยไม่เจตนาของเจ้าหน้าที่เลี้ยงสัตว์และสัตวแพทย์ที่เข้าเวร ที่ได้ตัดสินใจใช้กรงเหล็กสูง 1 เมตร ล้อมรอบลูกฮิปโป ที่ต้องรักษาด้วยน้ำอุ่นในเรือไฟเบอร์ ซึ่งภาวะเช่นนี้เจ้าหน้าที่เลี้ยงสัตว์และสัตวแพทย์ควรจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่าที่ผ่านมา ทั้งนี้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะลงโทษตามกฎระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่อย่างเป็นธรรมและขออภัยชาวไทยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจากนี้ไปจะเพิ่มมาตรการการดูแลสัตว์ทุกตัวให้ปลอดภัย ด้าน นายสัตวแพทย์ฉัตรโชติ ทิตาราม จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ อนุรุธ อังศุสิงห์ นาย สัตวแพทย์ประจำโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กล่าวถึงการผ่าพิสูจน์ซากศพลูกฮิปโปโปเตมัส ว่า น่าจะเกิดจากการขาดอากาศหายใจและขาดอาหาร เสียชีวิตมานานกว่า 2 วัน ลักษณะของปอดเป็นรู ซึ่งเป็นความผิดปกติแต่กำเนิด อันเกิดจากการผสมเลือดชิพ ซึ่งหากยังมีชีวิตอยู่ฮิปโปน้อยก็จะมีปัญหาด้านสุขภาพอย่างแน่นอน ทั้งนี้จะประสานข้อมูลไปยังการกำเนิดของพ่อและแม่ฮิปโป เพื่อนำเสนอผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook