"บีม ศรัณยู" เคลียร์ดราม่า "พลังใบ" ตบหน้าตัวเองกลางไลฟ์ ขอโทษครับ จะไม่ทำแบบนี้อีก

ออกมาไลฟ์สดผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก BeamSaranyoo หลังจากที่เจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับนักแสดงหนุ่มชื่อดัง บีม-ศรัณยู ประชากริช วัย 38 ปี เจ้าของวลีฮิตสนั่นโลกโซเชียลฯ "พลังใบ"

ซึ่งประเด็นร้อนดังกล่าวเกิดจากกรณีที่มีสื่อดังหลายสำนักนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการขับรถบนท้องถนนของเจ้าตัว ไปจนถึงเรื่องที่ตนมักจะไลฟ์สดทำกิจกรรมทางน้ำ ซึ่งทำให้หลายๆ คนอดที่จะรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้

โดยทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่ บีม ศรัณยู จะอธิบายเจตนาของตนเองให้หลายๆ คนที่ติดตามข่าวเข้าใจเท่านั้น แต่เจ้าตัวยังได้ถือโอกาสกล่าวคำขอโทษที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกเป็นห่วง หรือได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของตนเองด้วย

"วันนี้ก็จะคุยประเด็นดราม่าให้ทุกคนได้รู้เจตนาของผม และก็อะไรอีกหลายๆ อย่าง คือขอบคุณกำลังใจมากๆ เพราะจริงๆ ตัวผมเองก็เครียดนะ ที่เห็นผมสุดทุกอย่างแบบนี้ เวลาผมเสียใจผมก็สุดเหมือนกัน แต่ว่าผมก็ต้องเข้มแข็ง เนื่องจากทุกๆ อย่างมันเกิดขึ้นจากการกระทำของผมเอง ผมมันเป็นคนนอกกรอบ ดังนั้นสิ่งที่ผมยอมรับก็คือผมต้องอยู่กับมันให้ได้ และสำหรับคนที่คิดต่างผมเองก็ต้องขอโทษด้วย

ผมต้องบอกว่า ‘บนถนนเส้นหนึ่ง' เข้าใจอ่ะ แต่บางทีผมปล่อยมือไม่ถึงแบบ 10 วินาที และที่มีคนบอกว่า ‘แค่’ ของมึง มันสามารถเกิดอุบัติเหตุกับคนอื่นได้ อันนี้ผมยอมรับจากใจเลย และผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นในชีวิตด้วย ดังนั้นผมยอมรับ น้อมรับ รวมถึงพร้อมที่จะนำมาปรับใช้นะครับ ผมอยากเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพในอนาคต ผมขอโทษจากใจ

ที่สำคัญผมเองก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่จากกรมเจ้าท่าด้วยนะครับ ที่โทรมาตักเตือนผมเรื่องการขับขี่บนแม่น้ำ ซึ่งจริงๆ ทุกคนก็รู้กันอยู่แล้วแหละว่าผมมีใบขับขี่เรือ ผมรู้กฎอยู่แล้ว ฉะนั้นในเมืองเราก็อย่าใช้สปีดที่สูงเพื่อสร้างคลื่นเกินไป ผมขอกราบขอบคุณนะครับสำหรับทุกคนที่เอ็นดูและเป็นห่วงผม

ส่วนเรื่องการเคี้ยวที่มีหลายคนเป็นห่วงสุขภาพ ผมต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เคี้ยวทุกวันนะครับ แต่บางทีเวลาที่ผมพกออกมาเนื่องจากมันถูกกฎหมาย ผมก็เลยเอามาถ่ายรูป เพราะไม่อยากให้มันเป็นแค่ใบ แต่ผมอยากให้มันเป็นคัลเจอร์ เป็นแฟชั่น ไม่ว่าจะเอาใบปิดตาหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ทุกคนก็ไม่ได้ว่าเรื่องนั้นนะครับ และส่วนเรื่องความเมา มันก็ไม่ได้มีความเมานะครับ เคี้ยวกระท่อมเคี้ยวยังไงให้เมานอกจากคุณจะแพ้ และก็ต้องบอกอีกว่าแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน อย่างตัวผมเองผมก็ออกกำลังกายมาเยอะ ถ้าหากผมไม่ไหวผมก็ต้องรู้ลิมิตตัวเอง

แต่ว่าทุกอย่างที่มันดูหวาดเสียว หรือว่าดูไม่สมควร ผมกราบขอโทษจากใจเลยนะครับถ้าทำให้หลายๆ คนเดือดร้อน ผมกราบขอโทษ และผมจะไม่ทำแบบนี้แล้ว ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะครับ

สำหรับเรื่องการที่เมาออกแดดขับรถเสยเกาะกลาง อันนี้ผมกราบบอกเลยนะครับว่า ‘มันไม่ใช่’ คือตอนนั้นผมติดไฟแดงอยู่ และผมเห็นว่าไหนๆ ขับโฟร์วีลทั้งทีก็อยากจะถ่ายรูปสวยๆ ผมก็เลยเอารถขึ้นไปปีน 2 ล้อ ซึ่งตรงนั้นมันมีโทษปรับนะครับ ตัวผมเองก็อยากจะเชิญชวนประชาชนด้วยกันเช่นว่า ‘มึงอย่าทำแบบกู’ เพราะกูโดนปรับแล้ว โดนตักเตือนจากผู้ใหญ่แล้ว ทำอะไรก็เคารพกฎจารจร อันนี้ผมเข้าใจและน้อมรับ วันนี้ผมอยากให้เป็นวันเริ่มต้นใหม่ และก็จะพยายามหาตรงกลางที่ดีที่สุดครับ"

ซึ่งหลังจากจบการไลฟ์สดดังกล่าว บีม ศรัณยู ก็ได้โพสต์ข้อความชี้แจงเพิ่มเติม และเน้นย้ำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นการขับรถที่มีหลายๆ สื่อพาดหัวข่าวค่อนข้างรุนแรงจนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดสำหรับผู้ที่ได้อ่านว่า...

"พาดหัวข่างแรงจัด บีมขอน้อมรับเรื่องการขับในทางร่วมนะครับ และการใช้มือเดียวในการขับขี่ หรือการถ่ายทำที่ดูอันตราย บีมจะปรับปรุงพัฒนา 'ความรับผิดชอบต่อสังคม' ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ

แต่ ผมไม่ได้ 'เมา' แล้วขับรถ 'เสย' ตามที่ สำนักข่าวหลายหัวแชร์ไปนะ เดี๋ยวเราคุย 'หลังบ้าน' กันนะครับพี่ๆ กราบขอบพระคุณและขอบคุณคำด่าทอ ที่ทำให้ผมพัฒนาเป็นคนที่ดีขึ้นไปในสังคมครับ

ปล. แต่ความบ้า มันเป็นจิตวิญญาณ ผมลดได้ปรับได้ แต่ผมเปลี่ยนตัวตนไม่ได้ครับ"

• "บีม ศรัณยู ประชากริช" ที่แท้เป็นทายาทธุรกิจวงการอะไหล่รถยนต์ชื่อดัง