ปัดสวมเสื้อเกราะมาร์คโชว์พระ

ปัดสวมเสื้อเกราะมาร์คโชว์พระ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แม้วด่าคนเลวมีอำนาจปณิธานชี้แดงแตกยับ

มาร์คโต้เรื่องโจ๊กยันไม่ได้สวมเสื้อเกราะพร้อมแหวะอกโชว์พระเครื่องเพียบ แต่ โทรโข่ง ผิดคิวรับสมอ้าง พร้อมสำทับข้อมูลเตือนภัยถี่ยิบอีกต่างหาก นายกฯ ย้ำไฟการเมือง ยังไม่ดับง่าย ๆ เทือก มั่นใจยกเลิก พ.ร.บ. มั่นคงฯ ได้ ปณิธาน ปูดแกนนำ เสื้อแดง ร้าวหนัก หวั่นจูนคลื่นลงตัวกลับมานัดชุมนุมอีกรอบแน่ ออกตัวป้อง ม็อบเหลือง ไม่มีมือที่สาม ส่วน ปชป. เรียงหน้าถล่ม แม้ว เลียนพระพุทธเจ้า ด้าน ทักกี้ สวด คนเลว-ขี้โกง-อ่อนเชิง กุมชะตาประเทศ ฝ่าย เพื่อไทย ได้ดีเย้ยรัฐนาวาจั่วลม จี้ยกเลิก พ.ร.บ.มั่นคงฯ กระทบชิ่งเม็ดเงินลงทุนหด นพดล ท้า บัวแก้ว แน่จริงมาตามจับ ทักกี้ ที่ดูไบ เผยรอช่วย วิศวกรไทย หลังคดีปิดฉากแล้ว จวก มาร์ค-กษิต คอยเอาใจพี่เบิ้ม เมินคบหาเพื่อนบ้านทำสัมพันธ์ระส่ำรอบทิศ ขณะที่ไทยเข้มแข็งถึงคิว ศธ. ฉาว ฝ่ายค้านแฉกลิ่นตุ ๆ ซื้อคอมพิวเตอร์ 300 ล้าน ฟาก เพื่อแม้ว ซดเกาเหลาส่งผู้แทน ฝ่าย ผจก.รัฐบาล ฟุ้งหลังปีใหม่นัด พรรคร่วม สางปัญหาคาใจ

* มาร์คหวังปี 53 สภาไม่ล่ม

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ว่า ขอขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่ได้ทำงาน และปฏิบัติหน้าที่ในสมัยประชุมตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ทั้งเรื่องกฎหมาย กระทู้ถาม การตรวจสอบรัฐบาล สัปดาห์สุดท้ายสามารถผ่านร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ... หรือกฎหมาย ศอ.บต. ไปได้เรียบร้อย ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาในเรื่องปัญหาองค์ประชุมนั้น ทราบดีว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำไปปรับปรุง และอยากขอความร่วมมือจากฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ในการทำงานด้านนิติบัญญัติให้เป็นที่พึงพอใจและเป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนเมื่อเปิดสมัยประชุมอีกครั้งในช่วงเดือน ม.ค. 2553

* ยาหอมทั่วไทยมีไฟฟ้าใช้ครบ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เดือน ธ.ค. นี้มีกำหนดเดินทางไปร่วมประชุมเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่กรุง โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ส่วนในปีหน้าเตรียมที่จะเดินทางไปเยือนออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และยุโรป เพื่อขยายตลาดและลู่ทางการค้าการลงทุนต่าง ๆ สัปดาห์หน้ารัฐบาลจะประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต้องสะสางจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แหลมฉบัง

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งได้ให้โจทย์กับกระทรวงพลังงานว่าต้องทำให้คนไทยทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ ซึ่งกรุงเทพฯ จะมีปัญหาเฉพาะที่ไม่มีเลขบ้านหรืออยู่ในที่บุกรุก แต่ครัวเรือนที่ไม่ได้อยู่ในข่ายนี้มีเพียงไม่มากและจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีหน้า ส่วนต่างจังหวัดยังมีประมาณ 9 หมื่นครัวเรือนที่ไม่มีไฟใช้ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทำแผนแล้วยืนยันว่าภายในปี 2554 ทั้งหมดจะมีไฟฟ้าใช้อย่างแน่นอน จะเหลือที่ตกค้างอยู่ 4 หมื่นครัวเรือนซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลมาก ๆ

* ไฟการเมืองยังไม่ดับสนิท

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงสถานการณ์ภายในประเทศว่า จากนี้บรรยากาศน่าจะคลี่คลายได้พอสมควร อย่างไรก็ตามยอมรับว่าความรุนแรงจากการเมืองยังไม่จบ และรัฐบาลจะยึดแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้สังคมก้าวพ้นตรงนี้ไปให้ได้ โดยพยายามเร่งรัดเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ได้ แต่ต้องเห็นใจที่มีข้อจำกัด ขณะเดียวกันกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ควรนำมวลชนไปกดดันล้อมสถานีตำรวจที่ จ.เชียงใหม่ เพราะบ้านเมือง จะมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย

วันนี้ยังแปลกใจว่าถ้าแก้รัฐธรรมนูญ จะเหมือนเป็นการยืดเวลา ความจริงถ้าฝ่ายค้านเดินมาตกลงกัน ป่านนี้ก็เดินไปได้แล้ว ถ้าไม่เดินก็จะมีปัญหาอีก เพราะว่าไปเลือกตั้งก็ยังมีการไปบอกว่าไม่ยอมรับกติกา ทั้งนี้ การเมืองต้องใช้เวลา ด้านหนึ่งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าฝ่ายความมั่นคงก็ต้องเข้มแข็ง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย แต่อีกด้านผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีการแสดงออกมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่าไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายทางการเมืองยืดเยื้อ นายกฯ ระบุ

* อ้างแม้วไม่ยอมให้แก้ รธน.

ต่อข้อถามว่า เป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ว่าถ้าไม่มีความปั่นป่วนในบ้านเมืองก็พร้อมที่จะยุบสภา นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า พร้อม ถ้าไม่มีความวุ่นวายแล้วมาแก้ไขรัฐธรรมนูญกัน ขณะนี้ค่อนข้างมั่นใจว่าปี 2553 เศรษฐกิจน่าจะแข็งแรงแล้ว แต่คำถามคือว่าเหตุใดไม่มาร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตีความได้อย่างเดียวว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของบางคน เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลยื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงกลัวจะถูกหลอก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผมไม่มีประวัติหลอกใคร

นายกฯ กล่าวอีกว่า ไม่ได้ฝากความหวังไว้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อข้อเรียกร้องเป็นจุดที่พูดกันมานานและหาข้อยุติไม่ได้ รวมถึงมีความกังวลว่าถ้ายังไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้วไปเลือกตั้ง จะกลับมามีปัญหาเหมือนกับที่เจออยู่ในขณะนี้ จึงควรสะสางปัญหาทั้งหมดให้เรียบร้อย ทั้งนี้นักการเมืองต้องคุยกัน ส่วนประชาชนที่สนับสนุนพรรคการเมืองต่าง ๆ ถ้าอยากให้มีกติกาที่ทุกฝ่ายตกลงกันได้ก็น่าจะเชิญทุกพรรคมาร่วมกัน

* โจ๊กใส่ไข่-ปัดสวมเสื้อเกราะ

นายอภิสิทธิ์ ยังปฏิเสธกระแสข่าวการสวมเกราะอ่อนระหว่างการปฏิบัติภารกิจเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ถ้ามาถามตั้งแต่เมื่อวาน (28 พ.ย.) จะเปิดให้ดูเลย แต่ออกทีวีไม่ได้ เกราะอ่อนก็ไม่ได้ใส่ ใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียว เมื่อถามว่าแล้ววันนี้ได้ใส่เสื้อเกราะหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ใส่ ข่าวที่ออกมาตลกมากเลย เมื่อวานนี้ ผมใส่เสื้อบางที่สุดแล้ว แสดงว่าผมคงอ้วนขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายอภิสิทธิ์ จะขึ้นรถยนต์ประจำตำแหน่งเพื่อเดินทาง ออกจากสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต. สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบการ์ด ส.ค.ส. เป็นรูปลิงถือหัวใจสีแดงให้กับนายอภิสิทธิ์ สำหรับ ส.ค.ส. ดังกล่าวเป็นของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ธนบุรีคนหนึ่งที่ส่งผ่านทางนายสาทิตย์ โดยมี ข้อความให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ว่า Just for you ขอให้ ท่านอภิสิทธิ์และครอบครัวมีความสุขมาก ๆ นะคะ ชอบคนรุ่นใหม่อย่างท่าน สู้ ๆ ๆ นะคะ

* แกะกระดุมเสื้อโชว์พระเครื่อง

ต่อมาในช่วงบ่าย นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางมาที่ สทท. อีกครั้ง เพื่อปาฐกถาพิเศษหัวข้อ ยุทธศาสตร์ภาครัฐกับการพัฒนาภาคใต้อย่างยั่งยืน ผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ไปยังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา และหลังจากกล่าวปาฐกถาเสร็จสิ้น ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ยังคงติดใจข่าวเรื่องสวมเสื้อเกราะในระหว่างปฏิบัติภารกิจเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา จึงได้มาสอบถามกับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่าใครเป็นคนลงข่าวนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวตอบว่ามีทุกฉบับ เพราะเห็นว่าในวันดังกล่าว ลำตัวของนายอภิสิทธิ์มีลักษณะนูนขึ้นมา นายกฯ จึงได้หัวเราะก่อนที่จะกล่าวว่า นั่นเป็นพระ พร้อมแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตและแหวกให้เห็นสร้อยคอทองคำที่มีองค์พระห้อยอยู่ 5-6 องค์ ให้ผู้สื่อข่าวดูครู่หนึ่ง ก่อนขึ้นรถยนต์เดินทางกลับออกไปทันที

* เทือกมั่นใจยกเลิก พ.ร.บ. ได้

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการประกาศยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ฝ่ายความมั่นคงจะประชุมวันที่ 30 พ.ย. เพื่อประเมินสถานการณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนทำรายงานเสนอต่อที่ประชุม ครม. วันที่ 1 ธ.ค. เพื่อให้พิจารณาว่าจะ ยกเลิกหรือไม่ แต่เท่าที่ได้ติดตามสถาน การณ์จนถึงขณะนี้คิดว่า สถานการณ์อยู่ในขั้นที่สามารถยกเลิกการประกาศพื้นที่ความมั่นคงได้

รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการนัดหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า มีข่าวทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้คิดเลย แต่คิดว่าในช่วงปิดสมัย ประชุมคงจะได้นัดหมายกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันอีกครั้ง เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ขณะนี้รัฐบาลก็ทำงานร่วมกันมาเกือบจะครบ 1 ปี แล้วก็คงจะได้หารือกัน คาดว่ากำหนดเวลาคงจะเป็นช่วงหลังปีใหม่

* ปูดแกนนำนปช.ปีนเกลียว

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิ การนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า การประชุมครม. วันที่ 1 ธ.ค. นี้คงจะพูดคุยกัน ต้องให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ประเมินสถานการณ์หลังจากวันที่ 5 ธ.ค. นี้ส่งมาให้ ครม. ประกอบการพิจารณาด้วย

ส่วนที่มีการประเมินว่าสาเหตุที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เลื่อนการชุมนุมใหญ่ เนื่องจากแกนนำแตกคอกันนั้น โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า คนจำนวนมากย่อมมีความเห็นแตกต่าง ทำให้ เสียเอกภาพและแนวร่วมไปมาก แนวโน้มขณะนี้ไม่ค่อยดีจึงพยายามดึงผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายมาช่วยประสาน ถ้าแกนนำ นปช. ตกลงกันได้เมื่อใด คงประกาศชุมนุมใหญ่อีกครั้ง และเป็นไปได้ว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี เพราะ นปช. ชุมนุมใหญ่มาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถเดินได้ ทำให้เสียมวลชนไปมาก ขณะนี้รัฐบาลกำลังดูอยู่ว่าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า นปช. มีความยืดหยุ่นสูงพอสมควร

* ป้องม็อบเหลืองไม่ก่อหวอด

เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ นายปณิธาน กล่าวว่า ทุกกลุ่มที่ต้องการแสดงออกทางการเมืองสามารถชุมนุมได้ แต่ต้องทำตามกฎหมาย และต้องยอมรับว่ามวลชนที่มาชุมนุมขณะนี้มีความตื่นตัวมาก จึงต้องหาทางจัดระบบและอำนวยความสะดวกให้ อย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มหัวรุนแรงที่จะฉวยโอกาสทำให้เกิดสถานการณ์บางอย่าง จึงต้องระมัดระวัง

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าในกลุ่มพันธ มิตรฯ มีพวกฉวยโอกาส โฆษกรัฐบาล กล่าวตอบอย่างตะกุกตะกักว่า อันนี้..ไม่ ไม่ แนวโน้มกลุ่มอื่น ๆ เท่าที่ผ่านมาตามข้อเท็จจริง ไม่น่ากังวลมากนัก หากมีแนวโน้มจะก่อความรุนแรงรัฐบาลก็จะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยไม่เลือกว่ากลุ่มไหน ถ้ากลุ่มเหล่านั้นเตรียมจะมาก่อกวน มีการติดอาวุธ ก็ต้องมีการจับกุม ดำเนินคดี ประกาศพื้นที่ควบคุม

* โบ้ยธานีแจงคดียึดสนามบิน

นายปณิธาน กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านทวงถามความคืบหน้าคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเวลาผ่านมา 1 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดูว่าคดีนี้ชักช้าเกินไปหรือไม่ ขณะนี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้ไปดูคดีสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะคดีความมั่นคง รวมถึงคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย จึงคิดว่า พล.ต.อ.ธานี จะเข้าไปดูว่าคดีนี้มีอะไรติดขัดหรือไม่ ถ้าต้องการทราบความคืบหน้าต้องไปสอบถาม พล.ต.อ. ธานี เมื่อถามว่า พล.ต.อ.ธานี ใกล้ชิดกับผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ คนจะมั่นใจได้อย่างไรว่า พล.ต.อ.ธานี จะมีความเป็นกลาง นายปณิธาน กล่าวว่า พล.ต.อ.ธานีก็คงต้องทำตามขั้นตอน และทำงานให้กับทุกฝ่าย

* ซัดแม้วทำไม่เหมาะ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังสร้างภาพทุกวิถีทาง นอกจากเรื่องทำบุญยังมีเรื่องที่ส่งสัญญาณเสื้อแดงยุติการชุมนุม และการให้นายทหาร ตท.10 และ จปร.รุ่น 9 เข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างภาพให้คนไทยเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง จึงอยากจะถามว่ามีคนไทยคนไหนบ้างที่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความจงรักภักดีจริง เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมามักพูดอย่างทำอย่าง แถมใจยังคิดอีกอย่าง และถ้าจงรักภักดีจริง ก็คงจะไม่เห็นพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันที่ออกมาให้เห็นเป็นประจำ

ส่วนที่มีการแจกรูป พ.ต.ท.ทักษิณ นั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์นั้น โฆษกส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปกติภาพลักษณะเช่นนี้จะเป็นรูปพระพุทธเจ้านั่งใต้ต้นโพธิ์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนนำไปกราบไหว้บูชา ส่วนภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ใครบูชากันแน่ ถ้าจะมีก็คงเป็นคนเสื้อแดง

* จี้หยุดจาบจ้วงสถาบันได้แล้ว

คนที่นั่งสมาธิน่าจะตัดกิเลสตัณหา ราคะ หรือปลงตกได้แล้ว แต่ พ.ต.ท. ทักษิณ ยังตัดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ตัดกิเลสไม่ขาด สู้ต่อ ไม่ท้อแท้ เป็นหนี้บุญคุณคนเสื้อแดง และจะกลับมาทดแทนบุญคุณให้นั้น แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดง คือ เครื่องมือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว ไม่ได้ทำเพื่อประชาธิปไตยตามที่กล่าวอ้าง นายเทพไท กล่าว

โฆษกส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การโฟนอินครั้งล่าสุดที่ระบุว่าเป็นหนี้บุญคุณพระเจ้าอยู่หัว ตนคิดว่าประชาชนคงไม่สบายใจ เพราะเป็นความพยายามพาดพิง แอบอ้างพระเจ้าอยู่หัวมาเกี่ยวข้องกับการเมืองปัจจุบัน ทั้งที่พระองค์ท่านอยู่เหนือการเมือง และขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และลิ่วล้อยุติพฤติกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงทั้งของไทยและต่างประเทศในด้านลบ ไม่ว่าเรื่องการล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟของประเทศรัสเซีย หรือประเทศเนปาล รวมถึงการให้สัมภาษณ์ในลักษณะเดียวกับไทม์สออนไลน์อีกต่อไป

* อัดยับจงรักภักดีแต่ปากเท่านั้น

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมาที่วัดสามพระยาว่า มีการวิเคราะห์ว่าบุคคลที่กระทำผิดแล้วสำนึกได้และหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ขอให้ทำสมาธิให้ได้จริง เพื่อจะได้มีความสงบส่วนตัวเพื่อนำผลไปสู่ความสงบส่วนรวม แต่ไม่ใช่ตัวเองไม่สงบก็จะไม่ให้บ้านเมืองสงบ และการที่กล่าวว่าคนที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองยังลอยนวลอยู่ คิดว่าคงไม่ได้หมายถึงตัวเอง และคงไม่ได้คิดว่าจะเป็นตัวเอง อย่างไรอยากให้ตระหนักถึงประเทศชาติและความจงรักภักดีต้องให้เห็นทางพฤติกรรม แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังใช้วิธีปลุกระดมมวลชนว่าที่ถูกรังแก และประชาชนจะได้รับความปลอดภัยได้อย่างไร แต่พรรคมองว่าคนที่ถูกรังแก คือ ศัตรูทางการเมือง โดยอ้างสงครามยาเสพติดในการทำลายฝ่ายตรงข้าม พรรคมองว่าหากจะทำบุญอโหสิกรรมก็ควรจะขออโหสิกรรมกับคนที่ตนเองใช้อำนาจสมัยที่มีอำนาจ

* โทรโข่งผิดคิวไม่รับมุกหัวหน้า

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ที่มีการค้นพบอาวุธที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงการยกเลิกชุมนุมที่กรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ ว่า เป็นเพราะมวลชนเริ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางการใช้ความวุ่นวายก่อเหตุ ทำให้แรงสนับสนุนจากฐานมวลชนปฏิเสธการร่วมชุมนุม ตอนนี้เกิดวิกฤติศรัทธา และความแตกแยกในกลุ่มเสื้อแดง แต่แกนนำส่วนน้อยจะพยายามกดดันรัฐบาลต่อไป

นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า พรรคจะต้องไม่ประมาท ถึงแม้ นปช. จะยกเลิกการชุมนุมไปแล้ว แต่ไม่ใช่จะหยุดความเคลื่อนไหว เพียงแต่จะเปลี่ยนวิธีการล้มรัฐบาล ดังนั้นตนจึงนำข้อมูลดังกล่าวส่งไปยัง ครม. เพื่อให้คง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ส่วนจะตัดสินใจจะยกเลิกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ครม. เป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนกระแสข่าวเรื่องนายกฯ ใส่เสื้อเกราะนั้น ตนว่าไม่ใช่นายกฯ คนเดียว แต่เป็นเรื่องปกติ เพราะใคร ๆ ก็ต้องป้องกันตัวเอง และกรณีของนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงมีการเตือนมาเป็นระยะ เพราะอยู่ในเหตุการณ์ไม่ปกติ

* ฉะแหลก เสธ.แดงจอมป่วน

ที่ผ่านมามีการวางระเบิดบ่อยครั้ง เช่น สำนักงาน ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ คตส. รวมถึงการปรากฏตัวเปิดเผยของ นปช. เช่น พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ที่มักให้สัมภาษณ์ที่ก่อให้เกิดความหวาดวิตกว่าจะมีการปะทะกันระหว่างกองทัพกับกองทัพประชาชน เป็นการสอดรับกับแกนนำ นปช. หรือแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าจะมีสงครามกลางเมือง สงครามประชาชน แต่ทางพรรคมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ เพราะนายทหารส่วนใหญ่ไม่คิดแบบนายทหารนอกแถว เช่น เสธ.แดง อย่างไรก็ตามตอนนี้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มีผลบังคับใช้อยู่ จึงฝากผู้มีอำนาจไปตรวจสอบพฤติกรรมของ เสธ.แดง ว่า ที่มีการทำนายว่าจะมีระเบิดตรงนั้นตรงนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร นพ.บุรณัชย์ ตั้งข้อสังเกต

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ไปปิดสนามบิน เกิดเพราะ เสธ.แดง บอกว่าจะมีการยิงเอ็ม 79 และมีการยิงเข้ามาจริงทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ไปปิดรัฐสภา และไปปิดสนามบินในที่สุด

* วอนฝ่ายค้านร่วมใจสมานฉันท์

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยมีสัญญาณในการปฏิเสธการเข้าร่วมในการทำประชามติเพื่อสร้างความสมานฉันท์ รวมถึงการเปิดตัวนายทหารที่ให้สัมภาษณ์พาดพิงประธานองคมนตรีด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีการปกป้องคุ้มครองกลุ่มนายทหารด้วย และการไปตรวจจับวัตถุระเบิดในเชียงใหม่ อยากถามว่าพรรคเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรถึงออกมาปกป้อง อย่างไรก็ตามอยากเห็นฝ่ายค้านให้โอกาสรัฐสภาในการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์

นายสาธิต ปิตุเดชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอฟันธงแบบหมอลักษณ์ว่าตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ สับสนและเพี้ยนไปแล้ว เพราะไปแอบอ้างว่ามีการทำเหรียญ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปนั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์ และอ้างว่าเป็นต้นโพธิ์เดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ ไปแอบอ้างสิ่งที่เคารพนับถือของคนส่วนมาก หากตรัสรู้ได้จริงก็น่าทำอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนร่วมจะได้ตรัสรู้ไปปรินิพพานได้จริง ๆ

* ทักษิณสวดคนเลวมีอำนาจ

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพตส์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ต่อกรณีวิกฤติการเงินของดูไบว่า 2-3 วันนี้มีคนตกใจเรื่องดูไบผลัดชำระหนี้ ผมเลยส่งรูปบรรยากาศเศรษฐกิจที่นี่ ตอนไปเดินศูนย์การค้ามาให้ดูครับ คึกคักเหมือนเดิม พอดีช่วงนี้วันหยุด Abu Dhabi ซึ่งเป็นรัฐที่เป็นเมืองหลวง มีเงินเยอะเขาไม่ปล่อยให้รัฐดูไบแย่หรอกครับ เพียงแต่เป็นเรื่องที่เขาต้องตกลงภายใน ไม่ต้องตกใจแทนเขา พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังตอบคำถามของสมาชิกที่เกี่ยวกับดูไบว่า ปัญหามีครับ แต่เขาเอาอยู่ ปัญหาหลัก คือ การก่อสร้างที่มากเกิ นไป หวังจะขายต่างชาติ เพราะฐาน ประชากรตัวเองเล็กแต่เศรษฐกิจโลกฟื้นช้า และ ของเรากำลังสร้างปัญหาให้ตัวเอง เกิดจากการไม่ปล่อยให้ระบบเดินอย่างเป็นธรรม 2 มาตรฐาน ขาดความเชื่อถือ ให้คนเลว ขี้โกง ขาดประสบการณ์ มีอำนาจสั่ง

* พท.ได้ทีเย้ยรีบฉีกกฎเหล็ก

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยกเลิกประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ ได้แล้ว เพราะการประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ เป็นการทำลายบรรยากาศวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซ้ำยังเป็นการผลาญงบประมาณ กระทบการลงทุน และเป็นการประกาศเพื่อผลประโยชน์ ทางการเมือง ที่สำคัญคือเป็นการกระทำที่เกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น แม้ผู้ชุมนุมประกาศจะมีการดาวกระจายแต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย

วันนี้นายอภิสิทธิ์ จะไปไหนก็ต้องใส่เกราะอ่อน นั่งรถหุ้มเกราะไปไหนก็ต้องมีหน่วยซุ่มอยู่บนตึกสูง แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อตัวเองโดยพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบพบว่ามีนักท่องเที่ยวหนีหนาวมาประเทศไทยจำนวนมากจึงควรรีบยกเลิกเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุน เพื่อถือโอกาสหาเงินเข้าประเทศ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุ

* เรียกร้องยุบสภาหลังปีใหม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า อยากให้ นายอภิสิทธิ์ทบทวนการทำงานหลังจากทำหน้าที่มา 1 ปีว่า ควรอยู่ต่อไปโดยขาดความสง่างาม หรือคืนอำนาจให้ประชาชน นาย อภิสิทธิ์มาด้วยวิธีพิเศษทำให้บางพื้นที่ในประเทศไทยไม่ต้อนรับ ลงพื้นที่บางแห่งไม่ได้ ดังนั้นหลังปีใหม่ก็ควรยุบสภาไปเสียดีกว่า เพราะยิ่งอยู่นานการต่อต้านยิ่งมากขึ้น วันนี้ไม่เฉพาะเพียงนายกฯ แม้แต่รัฐมนตรีก็โดนด้วย รัฐมนตรีบางคนบ้านอยู่อีสานยังกลับไม่ได้ ไปทอดผ้าป่าประชาชนก็ไม่ให้เป็นประธาน

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกัมพูชาทำหนังสือขอยกเลิกสัญญากู้เงินสร้างถนน 1.4 พันล้านบาทว่า แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ น่าจะเป็นอุปสรรคปัญหาสำคัญ ซึ่งพรรคขอฝากกระจกไปให้นายกษิต ส่องดูว่าได้ทำอะไรบ้างใน 11 เดือนที่ผ่านมา นอกจากความล้มเหลวรายวัน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ควรกำจัดจุดอ่อน ด้วยการปลดนายกษิตออกจากตำแหน่ง

* หวั่นไทย-เขมรยิ่งบาดลึก

ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงกรณีประเทศกัมพูชาประกาศยกเลิกกู้เงินจากประเทศไทยจำนวน 1.4 พันล้าน บาทว่า เป็นสัญญาณที่ไม่ดีอาจทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมทรามจมลึกกว่าเก่า มีปัจจัยน่าเป็นห่วง 3 ประการที่กัมพูชาอาจนำมาใช้ คือ 1.เกรงว่าจะมีการปิดน่านน้ำทำให้ชาวประมงเดือดร้อน 2.กังวลว่าจะเกิดการปิดพรมแดน ส่งผลให้เสียโอกาสการค้าขายที่ไทยได้ดุลเกือบ 20 เท่า ได้กำไรกว่า 6 หมื่นล้านบาท และ 3.ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน บริเวณปราสาทพระวิหารอาจถูกนำขึ้นสู่เวทีโลกและทำให้ไทยตกอยู่ในภาวะสุ่มเสียงเสียเปรียบ และที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีแนวทางแก้ไขเรื่องนี้

* จวกมาร์ค-กษิตเดินผิดทาง

นายนพดล กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมทรามลงเกิดจาก 1.การแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็น รมว.การต่างประเทศ 2.สมัยนายอภิสิทธิ์เป็นผู้นำฝ่ายค้านฯ บอกว่าจะทวงคืนปราสาทพระวิหารเป็นการสร้างความขุ่นเคืองใจ ซึ่งข้อเท็จจริงทำไม่ได้ และ 3.การขู่ยกเลิกเอ็มโอยู ซึ่งตนขอกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ว่ากำลังนำประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวประกัน นำกระแสชาตินิยมมาดำเนินนโยบายต่างประเทศ

ที่ปรึกษากฎหมายอดีตนายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าการที่กัมพูชาไม่กู้เงินจากไทยไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลอย่าคิดว่าเป็นประเทศใหญ่กว่า หากเกิดความเสียหายอะไรขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบไปเต็ม ๆ และที่ความสัมพันธ์มันแย่ลงไปอีก เมื่อรัฐบาลยื่นคำขาดว่าให้ปลด พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา อีกทั้งวันนี้พม่า ลาว ก็มีท่าทีไม่ต้อนรับประเทศไทย เพราะรัฐบาลชุดนี้ใช้นโยบาย ตีซี้ประเทศมหาอำนาจ แต่ละเลยประเทศ เพื่อนบ้าน

* ท้าแน่จริงไปจับแม้วที่ดูไบ

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ต่างประเทศเป็นฐานที่มั่นโจมตีประเทศไทยนั้น นายนพดล กล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีวันทำร้ายประเทศไทย และเทิดทูนสถาบันตลอดมา ดังนั้นประเด็นดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง ส่วนที่กระทรวง การต่างประเทศโดยนายพนิช วิกิตเศรษฐ ผู้ช่วย รมว.การต่างประเทศ ระบุว่า พ.ต.ท. ทักษิณ เปลี่ยนชื่อเป็น ทักกี้ ชินากร้า เพื่อใช้หลบเลี่ยงการเดินทางเข้าประเทศ ต่าง ๆ เป็นการพูดแบบตีหัวเข้าบ้าน ตามหลักกฎหมายแล้วผู้ใดกล่าวอ้างผู้นั้นต้องพิสูจน์ ถ้าคิดจะจับตัวไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อ แค่ระบุรูปพรรณ สัณฐาน ก็สามารถดำเนินการได้ แต่เรื่องนี้เป็นเพียงเจตนาดิสเครดิต พ.ต.ท. ทักษิณ ว่ากำลังหนีหัวซุกหัวซุนเท่านั้น ทั้งที่ความจริงตอนนี้ก็อยู่ที่ดูไบ แต่กระทรวงฯ ไม่มีน้ำยาไปจับ เพราะไปข่มขู่ประเทศนั้น ๆ ไม่ได้

* เล็งขอนิรโทษช่วยวิศวกรไทย

ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ CATS ที่ถูกทางการกัมพูชา จับตัวในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างไรบ้าง ที่ปรึกษากฎหมายรายนี้ เปิดเผยว่า กระบวนการ ก่อนและหลังการตัดสิน พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ แต่หากมีการตัดสินออกมาว่านายชุติพงษ์มีความผิด พ.ต.ท.ทักษิณ จะช่วยเหลืออย่าง เต็มที่แน่นอน ขอให้นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายชุติพงษ์มั่นใจได้เลย โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอความเมตตาธรรมจากรัฐบาลกัมพูชา แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีขั้นตอนอย่างไร จะนิรโทษกรรมได้หรือไม่ ทั้งนี้ส่วนตัวรู้แนวทางที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากเปิดเผย และหากรัฐบาลไทยสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ฝ่ายเราก็ไม่อยากไปยุ่ง

* เด็กกษิตแบะท่าไปลุ้นศาล

เมื่อถามถึงผลโพลที่ระบุว่าอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายอภิสิทธิ์ หันหน้ามาเจรจากัน นายนพดล กล่าวว่า การจะพูดจากันต้องมีความจริงใจ ปรองดอง และต้องมีคนกลางที่น่าเชื่อถือมาพูดคุย คนกลางดังกล่าวจะต้องมีความเป็นธรรมโดยพื้นฐาน รู้กระบวนการที่มาที่ไปทั้งหมด มองสังคมโดยองค์รวมต้องไม่เลือกว่าประชาธิปไตยหรืออำมาตย์จะชนะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ประเทศต้องชนะ

ขณะที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันที่ 7 ธ.ค. นี้ อาจเดินทางไปร่วมฟังการพิจารณาคดีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ที่ศาลประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่ทราบว่าหลังจากมีคำพิพากษาแล้ว ไทยจะมีท่าทีทบทวนความสัมพันธ์ทางการทูตหรือไม่อย่างไร เพราเป็นคนละเรื่องกัน

* น.1สั่งลุยหาหลักฐานจับแดง

วันเดียวกัน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ รรท.ผบช.น. ให้สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อแดง ที่เข้าไปก่อความไม่สงบ สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ส่งเสียงเอะอะโวยวาย ตะโกนโห่ร้อง ขับไล่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้ตีนตบชูขับไล่ด้วย ซึ่ง รรท.ผบช.น.เห็น ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ก่อความวุ่นวายในเขตพื้นที่พระราชพิธีนั้น

พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน บก.น.1 และ สน.ดุสิต รวมทั้งได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ รอง ผกก. สน.ดินแดง ที่นำกำลังชุด ปะ ฉะ ดะ ไปดูแลความเรียบร้อยในวันดังกล่าว ตรวจสอบเทปวิดีโอและภาพนิ่งว่ามีใครบ้างที่เข้าข่าย กระทำความผิด เพื่อนำไปสู่การออกหมายเรียกตัว รวมทั้งแกนนำ และผู้ยั่วยุสั่งการ ก่อความวุ่นวายในเขตพื้นที่พระราชพิธี มารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

* ตีนตบ 2 จว. ตามราวีบุญจง

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ประชุมโรงเรียนบึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.หนอง คาย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย เป็นประธานมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 1,000 ผืน ให้ผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ โดยก่อนหน้าที่นายบุญจงจะเดินทางมาถึง ได้มีพลพรรคกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน พร้อมเครื่องขยายเสียงมาเปิดเวทีปราศรัย โจมตีนายบุญจง และปิดล้อมทางเข้าออกโรง เรียนบึงกาฬ และในช่วงดังกล่าวได้มีเฮลิคอป เตอร์ลงจอดกลางสนามฟุตบอล กลุ่มเสื้อแดงจึงเคลื่อนตัวจากประตูทางเข้าออกไปประชิดกำแพงเพื่อโห่ไล่ รมช.มหาดไทย ทำให้ประตูทางเข้าออกไม่มีกลุ่มเสื้อแดงขัดขวาง นายบุญจงจึงนั่งรถยนต์เข้ามาแจกผ้าห่มได้ ก่อนที่อีก 30 นาทีจะมีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวเดินทางต่อไปยังที่ว่าการ อ.อากาศอำนวย จ.สกล นคร เพื่อมอบผ้าห่มให้ผู้สูงอายุและผู้ยากไร้เช่นเดียวกัน ท่ามกลางคนเสื้อแดงกว่า 200 คนที่มารอขับไล่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.และ อปพร. กว่า 500 คนได้เข้าสกัดไม่ให้คนเสื้อแดงเข้าถึงตัว รมช.มหาดไทยได้ โดยนายบุญจงอยู่ในจุดนี้ได้เพียง 10 นาที

* ไร้เงาเสื้อแดงตามป่วนมท.1

ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางมาตรวจราช การและแจกผ้าห่มให้กับชาวบ้าน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมข้าราชการ และประชาชนมาคอยให้การต้อนรับที่โรงเรียนกมลาไสย กว่า 5 พันคน แต่เป็นที่น่าสังเกต ว่าการลงพื้นที่ดังกล่าวของ รมว.มหาดไทย ไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมปราศรัยโจมตีขับไล่แต่อย่างใด

* การเมืองใหม่จี้ยุบสภา

ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ แถลงเรียกร้องให้นายกฯ ปรับ ครม. อย่างน้อย 5 ตำแหน่งเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook