“พริษฐ์” ขอ ส.ว.โหวตเพื่ออนาคตลูกหลาน รับร่างประชาชน เปิดทางสภาเดี่ยว ปิดฉากระบอบประยุทธ์

“พริษฐ์” ขอ ส.ว.โหวตเพื่ออนาคตลูกหลาน รับร่างประชาชน เปิดทางสภาเดี่ยว ปิดฉากระบอบประยุทธ์

“พริษฐ์” ขอ ส.ว.โหวตเพื่ออนาคตลูกหลาน รับร่างประชาชน เปิดทางสภาเดี่ยว ปิดฉากระบอบประยุทธ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“พริษฐ์” ขอ ส.ว. โหวตเพื่ออนาคตลูกหลาน รับร่างประชาชน เปิดทางสภาเดี่ยว ปิดฉากระบอบประยุทธ์

13 พฤศจิกายน 2564นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่ม Re-Solution กล่าวถึงกรณีที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน จำนวน 150,921 รายชื่อ จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ว่า นับเป็นความพยายามครั้งที่ 2 ของภาคประชาชนที่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เข้าสู่รัฐสภา หลังจากก่อนหน้านี้ร่างของภาคประชาชนนำโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ถูกปัดตก เพราะติดเงื่อนไขสำคัญในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 256 (3) ที่กำหนดให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะผ่านวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ ต้องได้รับเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา หรือ 366 คนขึ้นไป และต้องได้เสียงจาก ส.ว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 คนด้วย
.
นายพริษฐ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ส.ว. อ้าง 2 เหตุผลหลักในการปฏิเสธร่างของภาคประชาชน หนึ่งเพราะกลัวว่าจะเป็นการตีเช็คเปล่าให้ สสร. ไปเขียนอะไรก็ได้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สอง เพราะไม่ต้องการเอื้อประโยชน์แก่นักการเมือง แต่ความกังวลที่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับร่างของกลุ่ม Re-Solution เพราะเป็นการแก้ไขรายมาตราที่มีข้อเสนอชัดเจน และทุกข้อเสนอเป็นไปเพื่อแก้ไขต้นตอวิกฤติการเมืองไทย คือกลไกที่ระบอบประยุทธ์ หรือ คสช. สอดแทรกไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อสืบทอดอำนาจและเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ไม่ว่าจะเป็น ล้มวุฒิสภาที่มีอำนาจล้นฟ้าแต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โละศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เลิกยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศที่ถูกวางไว้เป็นอาวุธลับทางการเมือง และล้างมรดกรัฐประหาร ดังนั้น น่าจะเปิดใจรับร่างฉบับนี้ ได้ง่ายกว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องระบบเลือกตั้งที่ถูกมองว่าพรรคการเมืองมีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่ง ส.ว. ให้ความเห็นชอบไปแล้วด้วยซ้ำ
.
นายพริษฐ์กล่าวด้วยว่า การที่ร่างของกลุ่ม Re-Solution เสนอยกเลิกวุฒิสภา ให้ประเทศไทยกลายเป็นสภาเดี่ยว ไม่ได้เกิดจากความเกลียดชังหรือทำเพื่อความสะใจ แต่เพราะเล็งเห็นแล้วว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการเป็นสภาเดี่ยว อาทิ ทำให้การออกกฎหมายคล่องตัว ทันใจ ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ไม่สูญเสียกลไกตรวจสอบถ่วงดุล ด้วยการขยายบทบาทฝ่ายค้านและภาคประชาชน การเป็นสภาเดี่ยวยังประหยัดงบประมาณได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งสามารถนำมาส่งเสริมสวัสดิการประชาชน เป็นโครงสร้างทางการเมืองที่สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่ เพราะประเทศทั่วโลกที่เป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐเดี่ยว และใช้ระบบรัฐสภา มีถึง 20 จาก 31 ประเทศ ที่ใช้ระบบสภาเดี่ยว ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการยุติการสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์
.
“ผมเชื่อว่า ส.ว. หลายคนเคยพูดคุยกับลูกหลานซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ รับรู้ว่าพวกเขารู้สึกสิ้นหวังกับประเทศไทยตอนนี้มากแค่ไหน เพราะมรดกของระบอบประยุทธ์อย่างรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นอุปสรรคในการพาบ้านเมืองออกจากวิกฤติ และไม่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกเป็นหุ้นส่วนของประเทศได้ การลงมติในวันที่ 16 พฤศจิกายน จึงสำคัญมากต่อการฟื้นความหวังของประชาชน ผมหวังว่า ส.ว. จะไม่ปฏิเสธโอกาสในการเป็นผู้ถอดสลักความขัดแย้ง จะโหวตเพื่ออนาคตของลูกหลาน เสียสละยุบตัวเองเพื่อเปิดทางการเปลี่ยนแปลง” นายพริษฐ์ทิ้งท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook