ธุรกรรมผิดปกตินับหมื่นบัญชี ยอดเงิน 130 ล้าน ชี้เป็นการโจรกรรม ด้วยระบบสุ่มยิงเลขบัตร

ธุรกรรมผิดปกตินับหมื่นบัญชี ยอดเงิน 130 ล้าน ชี้เป็นการโจรกรรม ด้วยระบบสุ่มยิงเลขบัตร

ธุรกรรมผิดปกตินับหมื่นบัญชี ยอดเงิน 130 ล้าน ชี้เป็นการโจรกรรม ด้วยระบบสุ่มยิงเลขบัตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธปท. พบบัญชีผิดปกติกว่า 1 หมื่นบัญชี ยอดเงินแตะ 130 ล้านบาท ยันไม่ใช่ข้อมูลรั่ว แต่เป็นการโจรกรรมข้อมูล ด้วยการใช้ระบบในการสุ่มยิงเลขบนบัตร 

จากกรณีพบความผิดปกติการตัดเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าธนาคาร นางสาวสิริธิตา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ระบุว่า พบธุรกรรมที่มีความผิดปกติผ่านบัตรจำนวน 10,700 ใบ ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม แบ่งเป็นมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบัตรเครดิตประมาณ 100 ล้านบาท และบัตรเดบิตจำนวน 30 ล้านบาท โดยในส่วนของบัตรเดบิตนั้นเจ้าของบัตรสามารถแจ้งไปยังธนาคารผู้ออกบัตร ยืนยันไม่ใช่ธุรกรรมที่ใช้งานจริง ทางสถาบันการเงินจะคืนเงินให้ภายในไม่เกิน 5 วันทำการ และในส่วนของบัตรเครดิต จะไม่มีการตัดเงินชำระค่าสินค้ารายการดังกล่าว

โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นยืนยันได้ว่าไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูล แต่เป็นการโจรกรรมข้อมูล ด้วยการใช้ระบบในการสุ่มยิงเลข Number บนบัตร และมีการทดสอบการใช้งานด้วยจำนวนเงินที่ไม่สูง ซึ่งจะไม่มีการแจ้งเตือนหรือไม่ต้องใช้รหัส OTP ยืนยันตัวตน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากรายการซื้อสินค้าออนไลน์ในต่างประเทศ

จากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีการยกระดับการตั้งค่าธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติโดยจะมีการแจ้งเตือนไปยังลูกค้าทันทีในทุกช่องทาง เพื่อให้รับทราบถึงความเคลื่อนไหว ที่ผิดปกติตั้งแต่ธุรกรรมรายการแรก ผ่านทาง Mobile Banking SMS อีเมล และจะมีการประสานไปยังบริษัทผู้ออกบัตรเครดิตต่างๆให้เพิ่มความเข้มงวดในการ ระบุยืนยันตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเวลานี้ได้มีการทยอยหารือกับบริษัทผู้ออกบัตรแล้ว นอกจากนี้จะมีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องของการตรวจสอบป้องปรามและป้องกันการโจรกรรมข้อมูลในรูปแบบอื่นๆ ที่มีการพัฒนาไปตามเทคโนโลยี

ด้านสมาคมธนาคารไทย ยืนยันว่า ทางสถาบันการเงินมีการดูแลระบบความปลอดภัยของลูกค้าอยู่ในระดับสูงและการตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นในกรณีดังกล่าวเป็นหนึ่งในกรณีที่ทางธนาคารมีการตรวจสอบพบและเร่งดำเนินการอยู่แล้ว แต่รูปแบบของภัยไซเบอร์มีอยู่อย่างหลากหลาย อาจทำให้ในบางกรณีลูกค้าอาจตรวจสอบพบได้ด้วยตัวเอง แต่ทางสถาบันการเงินจะมีการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้บริการของสถาบันการเงิน และที่ผ่านมา สถาบันการเงินได้มีการยกเลิกบัตรของลูกค้าและเปิดบัตรใหม่ให้นับ 1 หมื่นใบ หลังจากพบความผิดปกติในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเป็นคนละกรณีกับที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ถือเป็นการทำงานเชิงรุกของสถาบันการเงินมาโดยตลอดอยู่แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook