พบพิรุธบิ๊กสปส.ทุ่มซื้อหุ้นไทยธนาคาร68ล้านหุ้นกว่า520ล้านบาท

พบพิรุธบิ๊กสปส.ทุ่มซื้อหุ้นไทยธนาคาร68ล้านหุ้นกว่า520ล้านบาท

พบพิรุธบิ๊กสปส.ทุ่มซื้อหุ้นไทยธนาคาร68ล้านหุ้นกว่า520ล้านบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ป.ป.ท.พบพิรุธบิ๊กกองทุนประกันสังคมซื้อหุ้นไทยธนาคาร ที่ปรึกษาค้าน แต่เมินทุ่มกว่า520ล้านบาทไล่ซื้อเก็บเกือบทุกวันนาน 3เดือน รวม68ล้านหุ้น

แหล่งข่าวจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการลงทุนของสำนักงานกองทุนประกันสังคม (สปส.) ว่า ภายหลังจากน.ส.วิไลวรรณ แซ่เตียว ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เข้าร้องขอให้ป.ป.ท.ตรวจสอบการลงทุนของสปส. ในกิจการต่าง ๆ คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่มีพ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผอ.สำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 เป็นหัวหน้าคณะ ได้เก็บข้อมูลและตรวจสอบกรณีดังกล่าวมานานกว่า 4 เดือน

โดยป.ป.ท.ตรวจพบความผิดปกติในการลงทุนซื้อหุ้นไทยธนาคาร(BT) ของสปส. โดยฝ่ายที่ปรึกษาสปส.ทั้งที่เป็นข้าราชการประจำ และผู้เชี่ยวชาญ ต่างลงความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่า หุ้นไทยธนาคารที่ราคา 8 บาทแพงเกินไป หุ้นสภาพคล่องต่ำ ซื้อขายกันเพียง 8 ล้านบาทต่อวัน จึงไม่เหมาะกับสปส.ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่จะเข้าไปลงทุน

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า แม้จะมีความเห็นคัดค้าน แต่บอร์ดสปส.คนหนึ่งซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ในสปส.ยังตัดสินใจซื้อหุ้นไทยธนาคารในชื่อของตนเอง ซึ่งลักษณะการซื้อมีความผิดปกติเป็นการไล่ซื้อเก็บเกือบทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน คือตั้งแต่เดือนมกราคม-เดือนเมษายน 2549 เฉลี่ยการซื้อหุ้นมีตั้งแต่วันละ 2 ล้านบาท 5 ล้านบาท 8 ล้านบาท 10 ล้านบาท ไปจนถึงกว่า 20 ล้านบาท รวมเป็นหุ้นทั้งสิ้น 68 ล้านหุ้น เป็นเงินกว่า 520 ล้านบาท หลังจากสปส.หยุดซื้อหุ้นก็ไม่เคยเข้าไปซื้อหุ้นอีกเลยทั้งที่ซื้อติดต่อกันมานาน 3 เดือน หุ้นไทยธนาคารก็ตกทันที จากราคา 8 บาท ตกไปอยู่ที่ 2 บาท จนกระทั่งไทยธนาคารต้องขายกิจการให้เป็นธนาคารของประเทศมาเลเซีย

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ในวันที่ 12 พ.ย. นายภิญโญ ทองชัย เลขาธิการป.ป.ท.จะเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังการสรุปข้อมูลการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการลงทุนของสปส.และวางแนวทางว่าจำเป็นต้องขอหลักฐานเพิ่มเติมจากหน่วยงานใดอีก รวมทั้งจะต้องขอให้บุคคลใดเข้าให้ข้อมูลบ้าง อย่างไรก็ตาม ในชั้นการตรวจสอบของป.ป.ท.ได้รับความร่วมมือที่ดีจากผู้บริหารสปส.ชุดปัจจุบันในการจัดส่งเอกสารตามที่ป.ป.ท.ร้องขอ

รายงานข่าวระบุด้วยว่า กรณีการตรวจสอบการลงทุนในสปส.นี้ พบความผิดปกติชัดเจนยิ่งกว่าการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งส่งผลให้นายวิสิฐ ตันติสุนทร ตัดสินในลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการกบข. หลังพบว่าทำผิดหลักจรรยาบรรณและธรรมาภิบาล จากการซื้อหุ้นในบัญชีส่วนตัวในลักษณะดักหน้าดักหลังการลงทุนของ กบข. ขณะที่ระเบียบการลงทุนของสปส.กำหนดเงินหน้าตักให้เลขาสปส. รองเลขาสปส. และผู้เชี่ยวชาญ ลงทุนซื้อหุ้นได้

อย่างไรก็ตาม ในกรณีการลงทุนของสปส.นี้ ป.ป.ท.ตรวจสอบเพียงการลงทุนซื้อหุ้นไทยธนาคารตัวเดียว ขณะที่ฝ่ายผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการลงทุนในอีก 2 ตัว คือ หุ้นธนาคารพาณิชย์อีก 1 แห่ง และหุ้นทียูโดม ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทแห่งหนึ่งไปทำสัญญาเช่าที่ดินของม.ธรรมศาสตร์ เพื่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์และที่พักอาศัยบริเวณตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต แต่สัญญาเช่ามีอายุ 30 ปี เมื่อครบกำหนดจะต้องส่งคืนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนต่ำ เมื่อครบกำหนด 30 ปี จะไม่เหลือผลประโยชน์ใดๆ แตกต่างจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook