ตร.ชี้''ราเกซ''ซัดทอดถึงใครพร้อมสอบ

ตร.ชี้''ราเกซ''ซัดทอดถึงใครพร้อมสอบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เป็นประเด็นใหม่

ดีเอสไอ เข้าประกบตัวราเกซเฝ้าระวังอาหาร-ยา-น้ำดื่ม ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ควง อธิบดีดีเอสไอ รุดตรวจดูแลความปลอดภัยให้ ราเกซ ในแดน พยาบาล เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ ห่วงเรื่องความปลอดภัย ร่วมจัดระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด เผยตำรวจทำสำนวนเสร็จแล้ว เว้นแต่ ราเกซ จะให้การซัดทอดถึงใคร จึงจะถือว่าเป็นประเด็นใหม่ ที่จะต้องสอบสวนตาม พ.ร.บ. การสอบสวนคดีพิเศษ ส่วน ศุภชัย เผยไม่มีใครรู้เรื่องคดียักยอกทรัพย์บีบีซีดีเท่าตน ยันกลุ่ม 16 ไม่มีเอี่ยวทุจริต ด้านอดีตทนาย ระบุแม่ ราเกซ เตรียมบินมาไทย สู้คดีให้ลูกชาย ขณะที่ ตู่ ย้อนเกล็ด เทพเทือก รักษาคำพูดต้องเอา บรรหาร เข้าคุกด้วย จากที่เคยอภิปรายคดีบีบีซีไว้

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าพบ นายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี โดยใช้เวลาพูดคุยกับ นายราเกซ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในแดนพยาบาลนานเกือบ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายชาติชาย เปิดเผยว่า ตนและนายธาริต ได้เข้าไปเยี่ยม นายราเกซ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย และได้ตรวจความเรียบร้อยในระบบรักษาความปลอดภัยภายในแดน พยาบาล ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายในเรือนจำ โดย นายราเกซ พอใจต่อระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนปัญหาด้านสุขภาพของนายราเกซนั้นไม่มีอาการน่าเป็นห่วง โรคอัมพฤกษ์มีแนวโน้มที่จะดีมากขึ้นกว่าวันแรกที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ แต่ นายราเกซยังรับประทานอาหารที่เรือนจำจัดให้ไม่ได้ โดย นายราเกซขอรับประทานอาหารอ่อนสำหรับผู้ป่วย หรือขนมปังแทนข้าวสวย

ด้าน นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ามาดูแลเพื่อเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับ นายราเกซระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ได้มีการซักซ้อมความเข้าใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่ดีเอสไอกับผู้คุมในเรือนจำ โดยเน้นถึงการดูแลความปลอดภัยในเรื่องอาหาร ยา และน้ำดื่ม รวมถึงบุคคลที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับนายราเกซทั้งในส่วนของผู้คุมและเพื่อนผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นระดับการดูแลความปลอดภัยสูงสุด สำหรับ นายราเกซ หลังถูกควบคุมตัวในเรือนจำนาน 3 วัน ได้พูดจาทักทายกับเจ้าหน้าที่ตามปกติ และไม่ร้องขออะไรเป็นพิเศษ โดยระบุว่าพอใจ ทั้งในเรื่องการดูแลความเป็นอยู่ และความปลอดภัยที่เรือนจำจัดให้

อธิบด่อว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องรับคดีของ นายราเกซ เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากสำนวนในคดีหลักและคดีประกอบเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์ใน บีบีซีนั้น ตำรวจได้ทำสำนวนไว้เรียบร้อยแล้ว เว้นแต่ นายราเกซจะให้การซัดทอดถึงบุคคลใดเป็นพิเศษ คดีจึงถือว่ามีประเด็นใหม่ที่ต้องสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ ดังนั้นในช่วงที่ นายราเกซยังไม่ได้ให้การ ใด ๆ จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ แต่ไม่สามารถให้การคุ้มครองดูแลในฐานะพยานได้ เพราะ นายราเกซ ตกเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในคดี

ส่วน พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีนายราเกซ สักเสนา กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้นำผลสอบปากคำ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นล่ามสอบปากคำ นายราเกซ ว่า ได้รับมอบหมายได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ส่งให้อัยการพิจารณา เพิ่มเติมตามที่อัยการร้องขอแล้ว

ด้าน นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ อดีตทนายความของ นายราเกซ คดีการขอ ตัว เป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศแคนาดา กล่าวว่า นางอัมฤต สารุป มารดาของนายราเกซ ซึ่งเป็นนักกฎหมาย จะเดินทางจากประเทศแคนาดามาไทย เพื่อให้คำแนะนำในการสู้คดียักยอกทรัพย์บีบีซี ของนายราเกซ โดยตนมั่นใจว่าข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนไม่ต่างจากอดีต และสามารถเทียบเคียง ได้จากคำพิพากษาในคดียักยอกทรัพย์ของ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารบีบีซี ส่วนคดีจะเชื่อมโยงถึงนักการเมืองไทยหรือไม่นั้น ตลอดการต่อสู้คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายราเกซ ไม่เคยอ้างอิงถึงตัวบุคคลที่ชัดเจน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย ใจ สมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการพาดพิงถึงกลุ่ม 16 โดยเฉพาะ นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรค เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยว่า ตนขอยืนยันในฐานะที่เป็นอดีตผู้ได้รับมอบอำนาจ ดำเนินคดีธนาคาร บีบีซี ที่ตั้งขึ้นโดยกระทรวงการคลัง เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจสอบในสมัยนั้น มี ผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบหลายคน ยืนยันว่ากลุ่ม 16 โดยเฉพาะนายเนวิน นายสุชาติ ตันเจริญ และนายสนธยา คุณปลื้ม ไม่ได้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์ของธนาคารบีบีซี ซึ่งจากการตรวจสอบพบ ผู้กระทำความผิด 3 กลุ่ม คือ พนักงานของบีบีซี โดยเน้นไปที่ นายราเกซ กลุ่มลูกค้า และผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ธนาคาร และตลาดหลักทรัพย์ โดยไม่พบความเชื่อมโยงกลุ่ม 16 แต่อย่างใด

ส่วนกรณีของ นายเนวินนั้น ยอมรับว่าเป็นลูกค้าของธนาคารบีบีซี แต่เป็นลูกค้ามาก่อนที่จะเกิดการยักยอกไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการทุจริต ไม่มีใครในประเทศไทยรู้ดีเท่ากับผม เพราะผมรวบรวมและสรุปมากับมือ เอกสารทุกชิ้นผมเป็นคนทำเอง จึงสรุปได้ว่าไม่มีนักการเมืองคนใดเข้ามาเกี่ยวข้องการทำผิดทางอาญา แต่ถือเป็นลูกหนี้ตามปกติ ดังนั้นผลสรุปเมื่อ 13 ปีก่อนเป็นอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม และเชื่อว่าไม่มีข้อมูลโยงใยเกี่ยวข้องไปถึงนักการเมือง

ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2539 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เคยอภิปรายรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีธนาคาร บีบีซี โดยร่วมอภิปรายกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นายพินิจ จารุสมบัติ แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ปชป. และมีการระบุว่า คนในรัฐบาลนายบรรหาร มีการรับเช็คสินบนมูลค่า 20 ล้านบาท ให้นายราเกซ หลบหนีออกนอกประเทศได้ โดยมีการระบุชัดเจนว่า เป็นเช็คธนาคารแหลมทอง สำนักงานใหญ่ สั่งจ่ายมูลค่า 20 ล้านบาท วันที่ 10 พ.ค. 2539 หมายเลขเช็ค 00-500-3760 และอาจมีการรับเงินเพื่อช่วยเลือกตั้งที่ จ.ชลบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ เพชรบุรี ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2538 ที่พรรคชาติไทยเป็นรัฐบาล เป็นเงินของนายราเกซด้วยใช่หรือไม่ อีกทั้ง นายสุเทพยังท้าว่า หากได้เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แค่ 2 เดือน จะจับนายบรรหาร เข้าคุก

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปี 39 จนถึงวันนี้ นายสุเทพ เป็นรองนายกฯ ไปแล้ว พรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจเต็ม ทำไม นายสุเทพถึงไม่ดำเนินการกับนายบรรหาร นอกจากนักการเมืองกลุ่ม 16 ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คนที่ต้องแสดงตัวอีกคนคือ นายบรรหาร แต่ขณะนี้ นายบรรหาร อยู่กับนายสุเทพ นายกอร์ปศักดิ์ นายจุติ ไปแล้ว จึงอยากถามว่า ที่นายสุเทพเคยพูดไว้ จะว่าอย่างไร ซึ่งทางพรรคเพื่อไทย อาจตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ คนที่ได้ประโยชน์จากนายราเกซ ต้องเปิดเผยตัวทั้งหมด นายสุเทพ เองก็อย่าทำสำออย พอประชุมป่วย แต่ไปงานแต่งงานแล้วร่าเริง ราคาคุยต้องมีน้ำยา.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook