ราเกซถึงไทยแล้ว เครียด-สั่งห้ามสื่อถ่ายภาพ

ราเกซเดินทางถึงไทยแล้ว บอกเจ้าหน้าที่ห้ามสื่อถ่ายภาพ ผู้สื่อข่าวเนชั่นที่เดินทางมาด้วยระบุไม่พูดกับใคร สีหน้าวิตกกังวล ขณะทนายตามมาภายหลัง

เมื่อเวลา 22 .45 น.วันที่ 30 ตุลาคม เครื่องบิน ของสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 615 ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการ ของไทยคุมตัวนายราเกซ สักเสนา กลับมายังประเทศไทย ได้ลงจดยังสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความเรียบร้อย หลังจากเครื่องบินเข้าจอดเรียบร้อย ปรากฏว่าบรรดาผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินนี้ได้ทยอยลงจากเครื่องจนหมด แต่นายราเกซซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งเลขที่ 69 บริเวณด้านท้ายของตัวเครื่องยังคงนั่งอยู่บนตัวเครื่องยังไม่ยอมลงมาพร้อมกับผู้โดยสารอื่นๆ

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจัดเตรียมรถเข้าไปรับตัวนายราเกซถึงตัวเครื่องบิน ซึ่งการที่นายราเกซ ยังคงนั่งอยู่บนตัวเครื่อง คาดว่าคงจะรอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนในการเดินทางเข้าประเทศไทย ตามพิธีการของ ตม.ซึ่งหากเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าว คาดว่าเจ้าหน้าที่จะนำตัวของนายราเกซ เดินทางไปยังกองปราบปราม ในช่องทางพิเศษที่มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าทันที

นายรัฐพล ศิริบุญ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่น ที่เดินทางไปรอรับนายราเกซ ที่สนามบินในกรุงปักกิ่ง และร่วมเดินทางกลับประเทศไทย ในเที่ยวบินเดียวกับนายราเกซ เล่าว่า ระหว่างที่นายราเกซ นั่งมาในเครื่องบิน นายราเกซ อยู่ในอาการที่สงบนิ่ง ใบหน้าเหม่อลอย มีสีหน้าวิตกกังวลเล็กน้อย ไม่พูดจากับบุคคลอื่น โดยจะมีเจ้าหน้าที่และแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิด

นายรัฐพล กล่าวอีกว่า ระหว่างการเดินทางนายราเกซ ได้รับประทานอาหารตามปกติ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าจะไม่ยอมให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ หรือถ่ายภาพแต่อย่างใด นอกจากนี้ระหว่างที่เดินทางมาบนเครื่องบิน ผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมาในเที่ยวบินนี้ ทราบว่ามีการคุมตัวนายราเกซ มาในเที่ยวบินเดีวกัน ต่างก็ให้ความสนใจกันพอสมควร ขณะเดียวกันเ จ้าหน้าที่ที่ร่วมเดินทางไปควบคุมตัวนายราเกซ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย แจ้งว่าขณะนี้ทนายความของนายราเกซ ได้เดินทางตามมาในภายหลัง

นายรัฐพล ยังกล่าวต่อว่า ระหว่างที่นายราเกซเปลี่ยนเครื่องที่กรุงปักกิ่ง จะนั่งอยู่บนรถเข็นตลอดเวลา โดยใช้เวลาในการเปลี่ยนถ่ายเครื่องประมาณ 20 นาที โดยก่อนที่นายราเกซ จะขึ้นเครื่องบินได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของกรุงปักกิ่ง ขึ้นไปตรวจสอบความเรียบร้อยต่างๆบนเครื่องบินก่อนที่จะให้นายราเกซขึ้นไปบนเครื่อง และตามกำหนดเดิมเที่ยวบินจะออกจากกรุงปักกิ่งในเวลา 16.20 น. แต่สภาพอากาศเลวร้าย มีฝนตกหนัก ทำให้เครื่องต้องออกจากสนามบินกรุงปักกิ่งล้าช้าออกไป โดยออกจากสนามบินกรุงปักกิ่ง ได้ในเวลา 18.00 น.และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย