พท.เสี้ยมรถไฟหยุดวิ่งฝีมือคนในรบ.-พรรคใหม่หวังผลประโยชน์!!

พท.เสี้ยมรถไฟหยุดวิ่งฝีมือคนในรบ.-พรรคใหม่หวังผลประโยชน์!!

พท.เสี้ยมรถไฟหยุดวิ่งฝีมือคนในรบ.-พรรคใหม่หวังผลประโยชน์!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ม้าเหล็กภาคใต้หยุดเดินรถเป็นวันที่ 4 "นายกฯ" ประกาศไม่ปล่อยคนทำผิด เพื่อความถูกต้องไม่มีต่อรอง ลั่นถ้าปิดหัวลำโพงโดนหนัก พท.แฉฝีมือคนในรบ.-พรรคใหม่เล็งเด้งผู้ว่าฯร.ฟ.ท.หวังประโยชน์ที่ดิน-โครงการบิ๊กในอนาคต

"มาร์ค"ย้ำไม่ยอมปล่อยคนทำผิด

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.15 น.วันที่ 19 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรถไฟสายใต้ยังหยุดเดินรถอย่างต่อเนื่องว่า รัฐบาลจะดำเนินการ 2 อย่างควบคู่กันไปคือ 1.ระยะเฉพาะหน้ามอบหมายให้บอร์ด ร.ฟ.ท.ไปดูว่าทำเปิดให้บริการรถไฟอย่างรวดเร็วที่สุด โดยไม่ให้เสียหลักการ เพราะมีการมาต่อรองไม่ให้เอาผิดกับคนทำความผิดขณะนี้กำลังรอผลประชุมอยู่ กำลังดูความเป็นไปได้ในการปรับระเบียบบางอย่างเพื่อให้เกิดความคล่องตัวขึ้น 2.ระยะยาวจะต้องมีการปฏิรูป ร.ฟ.ท. ถ้าการให้บริการยังเป็นในลักษณะนี้ไปไม่ได้หรอก

เมื่อถามถึงกรณี สร.ร.ฟ.ท.ขู่ปิดหัวลำโพง หากไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ก็จะมีความผิดมากขึ้น ถ้าไม่เคารพกฎหมายกฎระเบียบ จะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ บอกไปแล้วว่าถ้ามีข้อเรียกร้องอะไรมาพูดคุยกัน ไม่ใช่ใช้วิธีที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนแบบนี้ ทั้งคำอธิบายที่ให้มาไม่เคยตรงกัน ตกลงเป็นปัญหาตัวระบบ ตัวรถจักร หรือพนักงานลา มาพูดจากันอย่างตรงไปตรงมา จะพยายามดูว่ามีวิธีการระดมคนมาช่วยอย่างไร แต่ถ้ามีการกระทำความผิด ต้องยอมรับผลการกระทำตรงนั้น มันมีระเบียบเหมือนกับทุกรัฐวิสาหกิจและทุกองค์กรภาครัฐ และรัฐบาลให้ความเป็นธรรมแน่นอน แต่จะบอกว่าถ้าใครผิด ขอว่าไม่ให้ผิด คงจะไปยอมอย่างนั้นไม่ได้"

สู้เพื่อความถูกต้องไม่ต่อรอง

เมื่อถามว่า สร.ร.ฟ.ท.ยื่นคำขาดให้รัฐบาลต้องปลดผู้บริหาร ร.ฟ.ท. นายกฯกล่าวว่า การใช้วิธีการแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้การพิจารณาว่าผู้บริหารควรถูกปลดหรือไม่ ถ้าคิดว่าเป็นปัญหาก็ส่งเรื่องมาให้พิจารณา แต่ถ้าจะบอกว่าจะให้รัฐบาลลงโทษฝ่ายบริหารเพราะพนักงาน หรือสหภาพหยุดตามใจชอบ อันนี้ไม่ได้เหมือนกัน

"ขณะนี้มายื่นต่อรองอีกว่าถ้าเอาผิด ก็จะปิดมากขึ้น ซึ่งผมขอบอกเลยว่า มาต่อรองในลักษณะนี้ไม่ได้ และจะพยายามหาบริการทดแทน ถ้าจำเป็นต้องสู้เพื่อความถูกต้อง ประชาชนก็ต้องช่วยกันอดทนเพราะเราต้องดำเนินการŽ นายกฯกล่าว และพูดถึงทางแก้ปัญหาว่า เวลานี้ติดขัดเรื่องระเบียบอยู่มอบหมายให้ไปแก้ไขแล้ว "ถ้าไม่มีความขัดแย้งที่ลุกลามบานปลายออกไป เชื่อว่าภายใน 2 วันนี้น่าจะได้ข้อยุติ แต่บอร์ด ร.ฟ.ท.จะไปดูเรื่องระเบียบ"

ส.ว.แฉเบื้องหลังร.ฟ.ท.ป่วนจี้รื้อ

วันเดียวกัน ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงเปิดให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระ นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง หารือกรณี สร.ร.ฟ.ท.หยุดเดินรถสายใต้ว่าที่มาอาจมาจากการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงทำให้ผู้ได้รับผลกระทบเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ จึงเป็นเรื่องที่ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ต้องลงมาตรวจสอบและเร่งแก้ไขปัญหาอย่างรีบด่วน

ขณะที่ นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี หารือว่า ถึงเวลาแล้วต้องรื้อและผ่าตัดโครงสร้างการรถไฟฯใหม่ทั้งระบบ หากยังปล่อยให้มีสหภาพเข้มแข็งอย่างนี้ รัฐบาลจะไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย เมื่อมีงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งอยู่ควรใช้โอกาสผ่าตัดองค์กรดังกล่าวเพื่อให้มีมาตรฐานเท่าเทียมกับต่างประเทศ

พท.เสี้ยมฝีมือคนในรบ.-พรรคใหม่

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การหยุดเดินรถไฟสายใต้น่าจะเป็นการร่วมมือกันระหว่าง สร.ร.ฟ.ท. นักการเมืองบางคนในรัฐบาล และพรรคการเมืองใหม่บางพรรค เพื่อหาทางปลดนายยุทธนา ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. เพื่อจ้องหาผลประโยชน์จากที่ดินของ ร.ฟ.ท. และโครงการใหญ่ๆ ในอนาคต จึงอยากเรียกร้องให้ สร.ร.ฟ.ท.หยุดเล่นเกมจับประชาชนเป็นตัวประกัน ที่สำคัญนายกฯจะต้องเร่งแสดงภาวะผู้นำแก้ปัญหาโดยไว เท่าที่ฟังเสียงพนักงาน ร.ฟ.ท.กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ต่างก็ไม่เห็นด้วย หากนายกฯแก้ปัญหาไม่ได้ควรจะปลดนายโสภณออกจากตำแหน่ง รมว.คมนาคม

รถไฟสายใต้หยุดวิ่งต่อเนื่องวันที่4

ขบวนรถไฟท้องถิ่นเส้นทางสายใต้ทุกขบวนที่มีสถานีต้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงหยุดเดินรถทุกขบวนเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นับเป็นการหยุดเดินรถต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยพนักงานบางส่วนยังคงยกเรื่องความปลอดภัยในการเดินรถเกี่ยวกับหัวรถจักรไม่พร้อมใช้งานอยู่ระหว่างการซ่อมแซมมาเป็นข้ออ้าง ส่งผลให้บรรยากาศที่สถานีรถไฟหาดใหญ่เงียบเหงา เนื่องจากผู้โดยสารเริ่มทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันส่งผลกระทบถึงพ่อค้าแม่ค้าขายสินค้าที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ และผู้ประกอบการรถรับจ้างได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถหารายได้ตามปกติ ต่างเรียกร้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

พนง.ลา"หยุด-ป่วย"เพิ่มกว่า80%

ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ในระยะนี้เส้นทางรถไฟสายยาวให้บริการถึงสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีเท่านั้น สำหรับประชาชนที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้าไว้ และต้องการยกเลิกเดินทาขอคืนตั๋วโดยสารได้เต็มจำนวน ในส่วนของความเสียหายจากการงดเดินรถยังไม่สามารถสรุปได้

นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธาน สร.ร.ฟ.ท. สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า ความชัดเจนการเปิดเดินรถไฟในภาคใต้น่าจะทราบผลไม่เกินวันที่ 21 ตุลาคมนี้ เนื่องจากในวันนี้ (19 ตุลาคม) จะมีการประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด ร.ฟ.ท.) กับ สร.ร.ฟ.ท.ในส่วนกลาง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะ จนถึงขณะนี้มีพนักงานรถจักรตามสถานีรถไฟต่างๆ ในภาคใต้ขอลาหยุดประจำสัปดาห์และลาป่วยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่สามารถให้บริการรถไฟได้

กลัวถูกยึดซ่อมไม่วิ่งไป"หาดใหญ่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ขบวนรถสายยาวสุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ และกรุงเทพ-สุไหงโก-ลก จะยังคงให้บริการได้ แต่ก็จะวิ่งสุดปลายทางถึงสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีเท่านั้น เนื่องจากเกรงว่าหากนำขบวนวิ่งมาจนถึงสถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์รวมการซ่อมหัวรถจักร ทางสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) สาขาหาดใหญ่ อาจจะนำหัวรถจักรที่ใช้นำขบวนรถเข้าตรวจสภาพความพร้อม จนไม่สามารถนำมาให้บริการได้

พนักงานฝ่ายบริการ ร.ฟ.ท.คนหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ผู้บริหารและฝ่ายการเดินรถสั่งให้จำหน่ายตั๋วโดยสารและปล่อยขบวนรถให้มาที่ จ.สุราษฎร์ธานี ไป-กลับ ได้วันละ 3 ขบวนเท่านั้น เนื่องจากมีขบวนรถเหลืออยู่น้อยแล้ว หากปล่อยให้ขบวนรถเดินทางไปถึงชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และชุมทางหาดใหญ่ อาจถูกกลุ่มสหภาพ ร.ฟ.ท.ยึดหัวรถจักรไว้อ้างตรวจซ่อมบำรุง เพื่อเพิ่มแรงกัดดันให้ฝ่ายบริหารลาออก เพราะหัวรถจักรส่วนใหญ่และขบวนรถท้องถิ่นถูกกักไว้ที่ อ.หาดใหญ่ จนเกือบหมดแล้ว


จอดทิ้ง"ชุมพร-สุราษฎร์ฯ"ร่วม500คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน มีขบวนรถไฟสายใต้ออกจากสถานีหัวลำโพง กรุงเทพฯ ทั้งหมดเพียง 3 ขบวน จากทั้งหมด 14 ขบวน โดยมาจอดเพียงสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีเท่านั้น เที่ยวแรก เป็นขบวน 85 รถด่วนกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช ถึง จ.สุราษฎร์ธานี เวลา 06.45 น. มีผู้โดยสารทั้งหมด 141 คน ไม่สามารถต่อไปยังสถานีปลายทางได้ เจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.ต้องจัดรถบัสจำนวน 3 คันขนถ่ายไปส่งแทน

ต่อมาขบวนที่ 2 เป็นขบวน 39 รถด่วนพิเศษ (สปริ้นเตอร์) กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี กำหนดถึงสถานีสุราษฎร์ธานี เวลา 08.11 น. แต่เมื่อขบวนรถมาถึงสถานีรถไฟสวี จ.ชุมพร เวลา 07.00 น. ขบวนรถกลับจอดแน่นิ่ง และประกาศแจ้งหยุดการเดินรถอย่างกะทันหัน ปล่อยทิ้งผู้โดยสารทั้งหมดประมาณ 100 คน ลงจากขบวนรถและให้ไปรอขึ้นขบวนที่ 3 คือขบวนรถ 83 รถด่วนกรุงเทพฯ-ตรัง มีผู้โดยสาร 129 คน ซึ่งตามหลังมาห่างกันประมาณ 15 นาที ทำให้ผู้โดยสารต้องโทรศัพท์แจ้งให้ญาติๆ ที่มารอรับที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีกันอย่างโกลาหล ขณะที่เจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.จัดรถบัส จำนวน 3 คันไปส่งที่ จ.ตรัง

"ไทย-ต่างชาติ"รุมสวดนายสถานี

นายโชติ สมมี อายุ 50 ปี ผู้โดยสารขบวนรถด่วนพิเศษกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในขบวนรถมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศหลายคนที่ขึ้นสมทบจากสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะมาเที่ยวที่ จ.สุราษฎร์ธานี พอถึง อ.สวี จ.ชุมพร มีการประกาศว่าหัวรถจักรเสียไม่มีกำหนดจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ ท่ามกลางความมึนงงของผู้โดยสารไปตามๆ กัน และต้องขนสัมภาระลงจากรถกันวุ่นวายไปหมดเพราะไม่ทราบว่าจะต้องถูกทิ้งกลางทางแบบนี้

"มีหลายคนที่ไม่พอใจโกรธแค้นไม่รอขึ้นรถฟรีขบวนหลัง ตัดสินใจเดินเท้าไปโบกรถโดยสารข้างถนนกลับ จ.สุราษฎร์ธานี เอง ที่รู้สึกแย่มากๆ คือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ กลุ่มที่มาจากหัวหินต่างส่งเสียงโวยวายและตกใจสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.ไปอธิบายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทราบเลย จึงรู้สึกแย่มากๆ กับ ร.ฟ.ท. เพราะชื่อเสียงประเทศไทยต้องตกต่ำและการท่องเที่ยวต้องพังเสียหายยับเยินแน่"

ต่อมาขบวนรถ 83 รถด่วนกรุงเทพฯ-ตรัง ที่ตามมาได้ถึงสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่า ช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 5 ชั่วโมง ทำให้โดยสารจากขบวนรถ 39 รถด่วนพิเศษ (สปริ้นเตอร์) กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ที่ถูกทิ้งให้รอมากับขบวนรถ 83 ด่วนตรัง ได้เข้าไปต่อว่ากับนายสุนทร วัฒนโน นายสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี กรณีร.ฟ.ท.ปล่อยทิ้งผู้โดยสารกลางทาง ซึ่งนายสุนทรพยายามชี้แจงเพียงให้ผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางไปต่อยื่นขอเงินค่าตั๋วได้เต็มจำนวน

สินค้าส่งหลายจว.ใต้ตกค้างอื้อ

นายสุนทรกล่าวว่า วันนี้มีขบวนรถขาล่องใต้จากกรุงเทพฯเข้ามาจอดที่สุราษฎร์ธานี 3 ขบวน และมีขบวนขาขึ้นกรุงเทพฯ ที่มีต้นทางออกจากสุราษฎร์ธานีเพียง 3 ขบวนเช่นกัน สถานการณ์การเดินรถต้องดูกันวันต่อวัน เพราะไม่ทราบนโยบายผู้บริหาร ร.ฟ.ท.จะดำเนินการอย่างไร

"ขณะนี้มีพัสดุสินค้าที่มากับขบวนรถไฟจะส่งไปยังหลายจังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ตกค้างอยู่ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีจำนวนมาก ร.ฟ.ท.ได้แก้ปัญหาโดยเร่งจัดส่งสินค้าที่เป็นของสดและมีโอกาสเน่าเสียง่ายจัดส่งไปให้ก่อน ส่วนอื่นๆ ได้ประสานแจ้งให้เจ้าของสินค้ามารับที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี"

ไม่เข้ากทม.จอดทิ้งอีกอ้างรถเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.40 น. ถึงช่วงเวลาที่ขบวน 40 รถด่วนพิเศษ (สปริ๊นเตอร์) สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพฯ จะต้องเดินทางจากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถานีรถไฟ ได้ประกาศว่าขบวนรถไม่สามารถไปได้ เนื่องจากหัวรถจักรเสีย ทำให้ประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารและนั่งรออยู่ไม่พอใจอย่างมาก ไม่เชื่อว่าหัวรถจักรเสียจริง เชื่อเป็นการเล่นเกมต่อรองของสหภาพ ร.ฟ.ท.กับฝ่ายบริหารอีก ทำให้ผู้โดยสารจำนวนหนึ่งยื่นคืนตั๋วและขอเงินคืน ขณะที่บางส่วนจะต้องรออีก 8 ชั่วโมง จึงจะมีขบวนรถออกในเที่ยวถัดไปเวลา 18.22 น.

น.ส.ฟาริยะ มุเลาะ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดตรัง กล่าวว่า ไม่มีรถพอที่จะกลับไป จ.ตรัง จะต้องออกเงินเองนั่งรถกลับบ้าน ซึ่งกว่าจะไปถึงไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่วโมง เสียเวลามาก และเสียความรู้สึกมากต่อการกระทำของสหภาพ ร.ฟ.ท.และพนักงานขับรถที่ทำกับประชาชนแบบนี้ สมควรขายกิจการให้เอกชนไปทำเสียดีกว่า

ธุรกิจท่องเที่ยวใต้จ่อเจ๊งจี้รบ.เร่งแก้

นายสมเชาว์ โกศล นายกสมาคมมัคคุเทศก์ จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง เพราะกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีกำหนดโปรแกรมมาพักผ่อนท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายจังหวัด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์หยุดเดินรถไฟทำให้มีการตีข่าวแพร่ออกไปทั่วโลก

"กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศไม่มั่นใจเดินทางมาภาคใต้ ได้หันไปจองแหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือและภาคอีสานแทน ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างเต็มๆ ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน อย่าปล่อยให้เกิดวิกฤตท่องเที่ยวซ้ำสอง หลังจากเกิดการปิดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตร เมื่อปี 2551 มาแล้ว"

รวมรถสายใต้หยุดวิ่งแล้ว30ขบวน

ที่ จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพฑูรย์ นาคสุข นายสถานีรถไฟชุมพร ส่งประกาศสถานีรถไฟชุมพรไปยังสื่อมวลชนในจังหวัดเนื้อหาสรุปว่า ตามที่ สร.ร.ฟ.ท.ประกาศแจ้งเรื่องการตรวจสอบสภาพรถจักร ทำให้ขบวนรถไฟหยุดเดินบางขบวน สถานีรถไฟชุมพรตรวจสอบกับผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถแล้ว ยังคงมีขบวนรถไฟที่ให้บริการวิ่งเข้ากรุงเทพฯ 5 ขบวน และขบวนรถไฟวิ่งออกจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีชุมพร 3 ขบวน ในประกาศยังระบุว่ากำหนดเวลาขบวนรถไฟถึงสถานีที่แน่นอน และขอให้ตรวจสอบกับนายสถานีรถไฟชุมพร โทรศัพท์ 0-7751-1103, สถานีรถไฟละแม 08-9875-5397, สถานีรถไฟหลังสวน 0-7754-1286 มือถือ 08-9501-1861 แต่เมื่อประชาชนหลายคนพยายามโทร.ไปสอบถามตามหมายเลขดังกล่าว กลับปรากฏว่าทุกหมายเลขดังกล่าวไม่ว่าง คล้ายกับมีการยกหูโทรศัพท์ออกจากตัวเครื่อง

ข่าวแจ้งว่า ขบวนรถไฟสายใต้มีการหยุดเดินรถไป-กลับ จำนวนทั้งสิ้น 22 ขบวน จากทั้งหมด 28 ขบวน ส่วนขบวนรถท้องถิ่นวิ่งระหว่างจังหวัดหยุดการเดินรถ จำนวนทั้งสิ้น 8 ขบวน

สหภาพยันต้องตรวจสภาพก่อน

ด้านนายสมศักดิ์ ตันสกุล ประธาน สร.ร.ฟ.ท.ชุมพร กล่าวว่า ขอยืนยันว่าหากรถอยู่ในสภาพสมบูรณ์สามารถเดินรถได้ตามปกติ แต่ที่ได้รับแจ้งคือขบวนรถที่จะเข้ากรุงเทพฯ หลายขบวนยังมีสภาพไม่ปลอดภัย เมื่อถึงชุมพรต้องตรวจสภาพก่อน เพราะรถไฟทุกขบวนต้องเปลี่ยนพนักงานขับรถที่ชุมพร ยกเว้นขบวนรถดีเซลรางสายสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ และหากตรวจพบว่ารถไฟมีสภาพไม่พร้อมใช้งาน คงไม่สามารถปล่อยให้ไปต่อได้ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา พนักงานต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนผู้บริหารกลับไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย

ด้านนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ไปยังสถานีรถไฟชุมพร เพื่อตรวจสอบว่า ยังมีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีบ้างหรือไม่ จากนั้นมีคำสั่งตั้งศูนย์เฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีรถไฟหยุดให้บริการ พร้อมเปิดโทรศัพท์สายด่วน 2 เลขหมาย คือ 0-7751-1103 และ 0-7751-1107 เพื่อให้นักท่องเที่ยว ประชาชน และผู้โดยสารสอบถามรายละเอียดได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อผู้ว่าฯชุมพรโดยตรงทันที ที่หมายเลข 08-9203-0403 และ 08-1738-7646

รายงานข่าวแจ้งว่า โทรศัพท์สายด่วนทั้ง 2 หมายเลขของศูนย์เฉพาะกิจฯ ที่ ผวจ.ชุมพรมีคำสั่งตั้งขึ้นมา มีประชาชนพยายามโทร.ไปติดต่อและสอบถามข้อข้องใจ แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ร.ฟ.ท.แจ้ง"ป."เอาผิดจนท.หยุดรถ

ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เวลา 11.30 น. นายวิรัตน์ จันทรัตน์ หัวหน้ากองสอบสวน สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าพบ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รถไฟที่หยุดเดินรถ ทำให้ผู้โดยสารเดือดร้อนอย่างหนัก พร้อมนำซีดีบันทึกภาพขณะที่พนักงานก่อเหตุประท้วงหยุดเดินรถจำนวน 2 แผ่นมอบให้เป็นหลักฐาน

นายวิรัตน์กล่าวว่า ขอให้เพื่อนๆ ที่หยุดเดินรถเข้าทำงานปกติ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักและภาพลักษณ์ ร.ฟ.ท.เสียหายไปด้วย ถูกตำหนิทั้งจากสื่อมวลชนและประชาชนว่าไม่ออกมาดำเนินการอะไรเลย ซึ่ง ร.ฟ.ท.มีกฎระเบียบวินัยอยู่หากใครทำผิดต้องรับผิดชอบ

ชี้ผลตรวจหัวรถจักรใช้การได้

นายวิรัตน์กล่าวว่า เส้นทางสายใต้ที่เสียหายจากหยุดงานมี สถานีรถไฟหาดใหญ่ ทุ่งสง และปากน้ำโพธิ์ ยอดค่าเสียหายประมาณ 15 ล้านบาทต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทจ้างให้ขนส่งสินค้าจะฟ้องร้องด้วยเนื่องจากสินค้าไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่แหลมฉบัง ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.กำลังตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งโทษจะถึงขั้นไล่ออกหรือไม่ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ที่อ้างว่าหัวรถจักรชำรุดนั้น ช่างเทคนิคของ ร.ฟ.ท.ยืนยันแล้วว่าอยู่ในสภาพใช้การได้ เพราะหัวรถจักรเส้นทางสายเหนือ สายอีสาน ยังวิ่งอยู่เลย เป็นข้ออ้างเท่านั้น

ด้าน พ.ต.อ.สุพิศาลกล่าวว่า ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายวิรัตน์ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานมาพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง และจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบว่าใครเป็นผู้สั่งการหรืออยู่เบื้องหลังการหยุดเดินรถ

"โสภณ"ระดมสมองแก้วิกฤต

ที่กระทรวงคมนาคม วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคมและกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด ร.ฟ.ท.) ประชุมผู้บริหารส่วนต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม รวมทั้งนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. หารือ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการที่ขบวนรถไฟหยุดวิ่ง ใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้น เวลา 11.00 น. นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. ได้เรียกประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.ด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาระยะสั้นของ ร.ฟ.ท. ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงเช่นกัน

นายโสภณเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เตรียมแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก ให้นโยบาย ร.ฟ.ท.ไปดูระเบียบที่จะเปิดรับพนักงานที่เกษียณอายุ และลูกจ้างชั่วคราวจำนวนกว่า 120 คน มาปฏิบัติหน้าที่แทน คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะได้ข้อสรุป

ไม่คุยสร.ร.ฟ.ท.-ปิดหัวลำโพงจับแน่

นายโสภณยังยืนยันจะไม่เจรจากับ สร.ร.ฟ.ท. จนกว่าพนักงานเหล่านี้จะกลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่และเปิดเดินรถได้ตามปกติ และจะไม่ยอมให้ สร.ร.ฟ.ท.เอาข้อเรียกร้องแบบนี้มากดดันอย่างเด็ดขาด และอย่าเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นตัวประกัน ทั้งยืนยันว่าจะไม่ปลดนายยุทธนา ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ออกจากตำแหน่ง เพราะยังไม่ได้ทำผิดและไม่มีเหตุผลเพียงพอ ทั้งให้ฝ่ายบริหารไปตรวจสอบถึงใบลาป่วย และใบลากิจของพนักงานขับรถ และพนักงานช่างเครื่อง รวมทั้งผู้ที่มีอำนาจอนุมัติทำถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่

"ให้ฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท. ไปรวบรวมรายละเอียดโครงสร้างของ ร.ฟ.ท.ใหม่ทั้งหมด ทั้งฐานะการเงิน หนี้สิน ทรัพย์สินที่ดิน และระบบโครงสร้างพื้นฐาน จำนวนพนักงานองค์กรที่ปฏิบัติงานจริง ค่าล่วงเวลา ทั้งหมดใหม่ แล้วให้เสนอกลับมายังกระทรวงคมนาคม ก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบฐานะทางการเงิน ความเป็นอยู่ทั้งหมดภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงโครงสร้าง ร.ฟ.ท.อย่างเป็นระบบ และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ ร.ฟ.ท.อยู่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ"

ส่วนกรณีสมาชิก สร.ร.ฟ.ท.กว่า 30 คน ประท้วงหน้าสำนักงานใหญ่ ร.ฟ.ท.เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารมาเจรจาหาข้อสรุป หากไม่ยอมจะปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง นายโสภณยืนยันจะไม่ยอมให้มีการปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง ทั้งประสานตำรวจและฝ่ายความมั่นคงแล้ว หาก สร.ร.ฟ.ท.ทำเกินกว่าเหตุจับกุมทันที ต่อมามีตำรวจกองปราบปราม และตำรวจปราบปรามจลาจล อย่างละ 2 กองร้อยไปตรึงกำลังที่บริเวณสถานีหัวลำโพงแล้ว

รับ"พขร."ชั่วคราวแก้เฉพาะหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท. ยังเตรียมแต่งตั้งคณะกรรมการภายนอก 3-4 คน ได้แก่ ตัวแทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อตรวจการยื่นใบลาของพนักงานป่วยจริงหรือลาการเมือง รวมทั้งที่อ้างหัวรถจักรต้องซ่อมเหตุสุดวิสัยจริงๆ หรือจงใจจะป่วน และจะสรุปรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมความเสียหายให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 ตุลาคม และขออนุมัติยกเว้นมติ ครม. เพื่อให้รับพนักงาน ร.ฟ.ท.เพิ่มได้เท่าที่จำเป็น ซึ่งมีพนักงานขับรถเกษียณที่ผ่านมา 28 คน อาสาทำหน้าที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งที่ประชุมบอร์ดเห็นว่าทำได้ แต่จะต้องแก้ไขระเบียบปฏิบัติของ ร.ฟ.ท. คาดว่าประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.จะลงนามคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวได้ภายในวันที่ 19 ตุลาคม เพื่อให้มีผลวันที่ 20 ตุลาคม

"โสภณ"ลงพื้นที่สุราษฎร์ฯแก้ปัญหา

เวลา 15.15 น. นายโสภณพร้อมด้วยนายยุทธนา ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และคณะ บินด่วนลงไปดูการเดินรถไฟที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี สอบถามถึงการจัดรถยนต์ขนถ่ายผู้โดยสารระหว่างสถานีรถไฟกับจังหวัดปลายทางที่จัดไว้แล้ว และดูสินค้าของต่างจังหวัดที่ตกค้างอยู่จำนวนมาก ซึ่งมีนายณรงค์ฤทธิ์ ศิวะสาโรจน์ วิศวกรใหญ่ด้านลากเลื่อน โรงจักรมักกะสัน เป็นตัวแทนฝ่ายพนักงานเข้าพบนายโสภณ พร้อมเสนอให้เร่งจัดซื้อหัวรถจักรใหม่โดยเร็ว ด้วยกระบวนการที่โปร่งใส และให้เพิ่มอัตรากำลังทดแทนเจ้าหน้าที่รุ่นต่อรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มหัวหน้าช่างอายุ 50 ปี ที่จะต้องมีผู้มารับช่วงต่อ

จากนั้นนายโสภณกล่าวขอบคุณพนักงาน ร.ฟ.ท.ที่ช่วยแก้ปัญหาให้เดินรถได้ เพราะไม่เช่นนั้น ร.ฟ.ท.จะบอบช้ำที่สุด หากประชาชนทนไม่ได้และพนักงาน ร.ฟ.ท.จะเดือดร้อนเอง

ขีดเส้นภายใน3วันรถต้องวิ่งปกติ

"ผมพยายามใช้วิธีประนีประนอมไม่ต้องการเอาชนะกัน ได้รับปากนายกรัฐมนตรีลงมาแก้ปัญหาในวันสองวันนี้ และขอเวลา ครม.3 สัปดาห์ จัดทำแผนพัฒนา ร.ฟ.ท.กลับไปเสนอ ตนอยู่ฝั่งประชาชน และจะให้ความเป็นธรรมทุกคน ฝากไปบอกเพื่อนพนักงานที่ยังไม่เข้าทำงาน อย่าปล่อยให้มันเน่าโดยไม่มีใครรักษาไม่เช่นนั้นมันจะตายจริงๆ เพราะ ร.ฟ.ท.ได้งบฯไทยเข้มแข็งสูงมาก หากมัวแต่ทะเลาะกันแล้วใครจะมาลงทุน จะเอาตราบาปหรือรางวัลให้คิดเอา"

นายโสภณกล่าวอีกว่า ส่วนรถที่ยังวิ่งไม่ได้ต้องมีการเจรจา ตนพร้อมรับข้อเสนอ เชื่อว่าจะทำความเข้าใจได้ใน 1-2 วันนี้ ส่วนเรื่องการลาการทำผิดต้องมีผู้รับผิดชอบ ขอให้กลับมาทำงานโดยเร็ว ถ้าไม่กลับมาก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ แต่ไม่ถึงกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ภายใน 3 วันนี้ขบวนรถจะต้องวิ่งได้ตามปกติ

ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.สรุป3วันสูญเสีย16.5ล.

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า มองเป็นปัญหาเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน ทั้งการเมืองที่เกิดขึ้นภายใน ร.ฟ.ท.และการเมืองภายนอก ร.ฟ.ท.

นายยุทธนา ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ตรวจสอบพบพนักงานยื่นใบลาผิดปกติเพียงที่สถานีหาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งการลาของพนักงานทั่วประเทศ มี 241 คน จากพนักงานขับรถ และช่างเครื่องที่มีกว่า 2,000 คน การลาหยุดดังกล่าวทำให้รถไฟภาคใต้ได้รับผลกระทบประมาณ 30 ขบวน ได้จัดพนักงานขับรถไปทดแทน ล่าสุดเดินรถได้ถึงสถานีสุราษฎร์ธานี สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น 3 วันที่ผ่านมาที่ไม่ให้บริการ รวมทั้งสิ้น 16.5 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าโดยสาร 10.5 ล้านบาท ค่าขนส่งสินค้า 6 ล้านบาท

โห่ไล่"โสภณ"ล้มโต๊ะคุยหาดใหญ่

ต่อมา นายโสภณพร้อมด้วยนายยุทธนาไปยังสถานีรถไฟหาดใหญ่ ตรวจสภาพการซ่อมแซมหัวรถจักร ที่จอดรวมกันอยู่ในโรงรถจักรหาดใหญ่ และประชุมแก้ปัญหาการเดินรถกับผู้บริหารรถไฟในระดับท้องถิ่น หลังหยุดให้บริการมา 4 วัน แต่ขณะที่นายโสภณพร้อมคณะเดินตรวจสภาพหัวรถจักรได้ไม่เกิน 20 นาที ท่ามกลางตำรวจดูแลกว่า 100 นาย ก็ถูกกลุ่ม สร.ร.ฟ.ท.กว่า 100 คน ออกมาปราศรัยโจมตีและขับไล่ จนต้องยกเลิกประชุมกับผู้บริหารการรถไฟ ทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นทันที เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายก่อนจะรีบขึ้นรถกลับทันที ท่ามกลางกลุ่ม สร.ร.ฟ.ท.ตามมาขับไล่ถึงหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่

ขณะที่วันเดียวกันมีผู้โดยสารจำนวน 7 คน เข้าแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อเอาผิดกับพนักงานรถไฟ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน

สร.ร.ฟ.ท.รับเหตุเด้ง2พนักงาน

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน สร.ร.ฟ.ท. กล่าวว่า สร.ร.ฟ.ท.ไม่ได้ประกาศให้หยุดเดินรถไฟ แต่หยุดรถเพื่อซ่อมแซมปรับปรุง และจะออกขบวนรถก็ต่อเมื่อมีการตรวจสอบว่าสภาพรถและอุปกรณ์อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยเท่านั้น และอยากขอหารือกับฝ่ายบริหารเพื่อให้มีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนจัดหาหัวรถจักรใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่มีสภาพเก่าและชำรุดมาก รวมทั้งจะต้องกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนจัดหาอะไหล่ที่จำเป็นรวม 12 รายการ เพราะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน

"กรณีที่มีพนักงานนัดหยุดงานพร้อมเพรียงจำนวนมากที่สถานีหาดใหญ่และสถานีปากน้ำโพนั้น ส่วนเหนึ่งเป็นผลจากความไม่พอใจที่มีการโยกย้ายระดับผู้ช่วยพนักงานประจำสถานีทั้ง 2 แห่งออกไปจากพื้นที่ โดยทั้ง 2 คนเป็นกรรมการและอนุกรรมการของสหภาพ ร.ฟ.ท.ด้วย แต่ปัญหาหลักนั้นไม่ต้องการให้พนักงานตกเป็นแพะรับบาปเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งที่ความจริงเกิดจากความไม่พร้อมของอุปกรณ์และขบวนรถต่างๆ"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook