แม่ "น้องน้ำค้าง" ทำใจยอมรับผลตรวจ ว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่วอนช่วยเหลือครอบครัวด้วย

แม่ "น้องน้ำค้าง" ทำใจยอมรับผลตรวจ ว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่วอนช่วยเหลือครอบครัวด้วย

แม่ "น้องน้ำค้าง" ทำใจยอมรับผลตรวจ ว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่วอนช่วยเหลือครอบครัวด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นครราชสีมา - จากกรณี น.ส.ทิศกร พันธ์สำโรง หรือ น้องน้ำค้าง อายุ 29 ปี ชาวอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่เข้ารับการฉีด วัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช แต่หลังจากฉีดวัคซีนโควิด ไป 2 วัน เกิดเป็นลมล้มลงหมดสติขณะเดินซื้อของภายในตลาดสดอำเภอปักธงชัย โดยผลเอกซเรย์ของแพทย์ รพ.มหาราช นครราชสีมาพบว่ามีเลือดออกในโพรงสมอง และมีความผิดปกติในเส้นเลือดสมอง บริเวณรอยต่อระหว่างเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำ และผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.มหาราชนครราชสีมาถึงวันนี้  โดยทางญาติเชื่อว่าเป็นผลมาจากการฉีดวัคซีน เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.ทิศกร ไม่เคยมีโรคประจำตัว พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ ให้นางสาวทิศกรกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้งนั้น

นายแพทย์ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงข่าวระบุว่า สาเหตุของการเกิดอาการดังกล่าวเป็นจากรอยโรคเดิมที่เป็นอยู่ทำให้มีเลือดออกในสมอง ไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนในการป้องกันโควิด-19 แต่เป็นเหตุการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญภายหลังการได้รับวัคซีน

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของน้องน้ำค้าง ได้พบกับนางเมือง พันธ์สำโรง อายุ 57 ปี แม่น้องน้ำค้าง ซึ่งกำลังเลี้ยงหลานชาย "น้องไดมอนด์" อายุ 1 ปี 5 เดือน ลูกชายคนเดียวของน้ำค้าง โดยนางเมือง แม่ของน้องน้ำค้างกล่าวว่า วันนี้ได้โทรไปถามคุณหมอแล้ว ถึงอาการของน้อง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เกิดโรคระบาด ทางโรงพยาบาลจึงงดให้ญาติเข้าเยี่ยมทุกกรณี คุณแม่จึงได้โทรถามไปทางคุณหมอ คุณหมอบอกว่าน้องมีอาการตอบสนอง มีการกระดิกนิ้ว พยายามที่จะลืมตา ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี พอให้แม่มีความหวังขึ้นมาบ้าง

ส่วนในกรณีที่แพทย์ได้ออกมาได้แถลงถึงอาการป่วยของน้องน้ำค้าง โดยระบุว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากผลข้างเคียงหลังจากการได้รับวัคซีนนั้น ตนก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งไม่มีความรู้ ก็ได้แต่ยอมรับและเข้าใจ และก็เชื่อในการวินิจฉัยของคุณหมอว่าผลตรวจออกมาเป็นแบบนั้นจริง ส่วนหลังจากนี้คุณแม่ก็คงต้องรอความหวัง ที่ลูกจะฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตปกติ มาดูแลครอบครัวและ น้องไดมอนด์ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของน้องน้ำค้าง ที่พึ่งมีอายุได้เพียง 1 ปี 5 เดือน

“ฉันเป็นแม่ก็ได้แต่นั่งภาวนาทั้งวัน ขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปู่ย่าตายาย ขอให้น้องน้ำค้างฟื้นคืนกลับมา ใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง เพราะน้ำค้างคือเสาหลักของครอบครัว ถ้าลูกเป็นอะไรไป ทุกคนก็ลำบาก ที่สำคัญน้องไดมอนด์ต่อไปในระยะยาวใครจะเลี้ยงดู ฉันก็อายุมากคงอยู่ได้อีกไม่นาน ก็ขอความเห็นใจจากทางการช่วยเหลือครอบครัวฉันด้วย การไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ก็ทำหน้าที่ประชาชนคนไทยคนหนึ่งตามที่รัฐบาลอยากจะให้ทำ ถ้าลูกฉันไม่ไปฉีดก็จะถูกมองว่าไม่ให้ความร่วมมือกับบ้านเมือง แต่เมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ ก็คงต้องยอมรับชะตากรรม” นางเมืองกล่าว

สำหรับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาล่าสุดนายอำเภอปักธงชัย, ฝ่ายปกครองอำเภอปักธงชัย ,สาธารณสุขของอำเภอปักธงชัย ,สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาและภาคเอกชน ได้นำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้กับทางครอบครัวน้องน้ำค้างและมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง และมีผู้ใหญ่บ้าน อสม. และเพื่อนบ้าน แวะเวียนมาให้กำลังใจกันอย่างต่อเนื่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook