สรยุทธ เปิดใจครั้งแรก ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน-ดีใจได้เริ่มต้นใหม่-ขอปรับตัวเพื่อกลับมาทำสื่อ

สรยุทธ เปิดใจครั้งแรก ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน-ดีใจได้เริ่มต้นใหม่-ขอปรับตัวเพื่อกลับมาทำสื่อ

สรยุทธ เปิดใจครั้งแรก ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน-ดีใจได้เริ่มต้นใหม่-ขอปรับตัวเพื่อกลับมาทำสื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สรยุทธ" เปิดใจหลังได้รับอิสรภาพ ขอบคุณที่ยังไม่ลืมกัน ดีใจที่ได้กลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ขอเวลาคิดและปรับตัวในการกลับมาทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน

วันนี้ (14 มี.ค.) หลังจากนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นอิสรภาพอีกครั้ง เนื่องจากได้รับการพักโทษและปล่อยตัวออกจากเรือนจำ แต่มีเงื่อนไขต้องใส่กำไล EM หรือ กำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ซึ่งหลังจากติดกำไล EM แล้ว นายสรยุทธออกมาเปิดใจกับกองทัพสื่อ ซึ่งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มอบพระพุทธรูปให้นายสรยุทธ พร้อมกับถามว่า “อิสรภาพหอมหวลไหม?” โดยนายสรยุทธตอบกลับว่า “หอมมาก”

ทั้งนี้ นายสรยุทธ เปิดใจกับกองทัพสื่อหลังติด กำไล EM ว่า วันนี้ดีใจที่ได้อิสรภาพอีกครั้ง แม้ว่าไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตอนนี้ก็ยังต้องถูกคุมประพฤติ แต่อย่างน้อยก็ได้ออกจากเรือนจำ ซึ่งเท่าที่ฟังจากน้องๆ และดูจากความสนใจของพวกเรา ก็ดีใจที่ยังไม่ลืมกัน ตนรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ การอยู่ในเรือนจำมันเป็นทุกข์ หลังได้ใช้ชีวิตในคุกจนได้กลับมาเริ่มต้นใหม่ รู้สึกดีใจที่ได้มีวันนี้ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

“ดีใจที่ยังไม่ลืมกัน คงไม่มีอะไรจะบอกมากไปกว่าคำขอบคุณ การอยู่ในเรือนจำมันก็ทุกข์ ผมเคยคิดก่อนที่จะเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วว่า อย่างน้อยเรื่องมันก็ได้จบสักทีคดีความที่ต่อสู้มา 4 -5 ปี พอถึงวันนี้หลังจากผมเข้าไปติดคุก

ผมเคยใช้คำว่ามันติดลบตั้งแต่ -10 - 9 - 8 จนถึงวันนี้ก็ 0 แล้ว ก็ได้โอกาสที่จะกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง ก็ดีใจที่ได้มีวันนี้ ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แล้วก็ดีใจที่ยังไม่ลืมกัน ยังคิดถึงกันอยู่ ขอบคุณมากจริงๆ ครับ”

ในช่วงของการเปิดใจ นายสรยุทธ ได้หยิบรองเท้ามาโชว์กองทัพสื่อ โดยเป็นรองเท้าเตะที่แกะลายด้วยมือ เป็นรูปลายสโมสรลิเวอร์พูลจากเพื่อนนักโทษในเรือนจำที่ส่งมาให้ นายสรยุทธจึงขอนำรองเท้ากลับออกมาเป็นที่ระลึกด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายสรยุทธ จะกลับคืนสู่หน้าจอทีวีเมื่อไหร่นั้น พิธีกรข่าวชื่อดังเปิดเผยว่า ขอกลับไปคิดและปรับตัวก่อนว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เพราะตนไม่ได้ทำงานมานานถึง 5 ปี ตั้งแต่มีคดี โลกในสมัยที่ตนเคยทำ ตนทำในช่วงที่คนไม่ดูข่าว สมัยนั้นถึงเวลาข่าวคนเปลี่ยนช่อง ตนทำให้คนหันมาดูข่าว แต่วันนี้ตนยังไม่รู้เลยว่าข้างนอกเป็นอย่างไร ข่าวเต็มไปหมดเลย ซึ่งเราจะทำยังไงให้เขาดูข่าวแบบที่เราคิด ก็ขอกลับไปคิดนิดหนึ่ง ปรับตัวนิดหนึ่ง แต่ยืนยันว่าอยู่กับช่อง 3

และตนจะยังให้ข้อมูลข่าวสารช่วยเรือนจำต่อไป เพราะตอนที่ตนอยู่ในเรือนจำตอนแรกก็รู้สึกเคว้งคว้าง แต่ก็สามารถปรับตัวได้ ต่อมาก็ได้รับโอกาสจัดรายการให้ข้อมูลข่าวสารในเรือนจำ ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้น มีความสุขพอประมาณ ก็ถือว่าเป็นการใช้ชีวิตในเรือนจำที่คุ้มค่า ไม่ทำให้เวลาสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook