ฉลามชลเจ๊าจุฬาฯ2-2แฟนเดือดรุมชกนักข่าว

ฉลามชลเจ๊าจุฬาฯ2-2แฟนเดือดรุมชกนักข่าว

ฉลามชลเจ๊าจุฬาฯ2-2แฟนเดือดรุมชกนักข่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขยับใกล้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกเข้าไปอีกก้าว หลังบุกสยบ "สำเภามหาชัย" ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร 2-0 ทำแต้มหนี "ฉลามชล" ชลบุรี ที่ทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด 2-2 เหลือการเตะอีก 2 นัด ขอแค่ชนะนัดเดียวก็จะคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสรทันที ด้านแฟนบอลเมืองชลอารมณ์เสียทีมส่อชวดแชมป์ ชกนักข่าวและทุบรถนักข่าวเสียหาย ขณะที่ศึกหนีตกชั้นยังเข้มข้น "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา พลิกสถานการณ์ 5 นาทีท้ายบุกชนะ นครปฐม 3-1 ขยับพ้นบ๊วยสำเร็จ

การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ 28 ของฤดูกาล หวดแข้งกันกลางสัปดาห์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่สนาม สพล.สมุทรสาคร "สำเภามหาชัย" ทีทีเอ็ม สมุทรสาคร รับมือ "กิเลนผยอง" เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง เริ่มเกมขึ้นมาเป็นทีมเยือนที่ทำเกมได้ดีกว่า นาที 14 แฟนบอลทีมเยือนที่ขนกันมาเชียร์เกือบ 2,000 คน ได้เฮลั่นสนามจากจังหวะที่ วัชระ มหาวงษ์ ไปเสียบ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ล้มลงตรงกรอบเขตโทษ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ปั่นเสียบเสาสอง เมืองทองฯ ขึ้นนำ 1-0 เกมของเจ้าถิ่นเดินหน้าบุกอย่างหนักทำเอาจ่าฝูงออกอาการรวนไปเหมือนกันแต่ ยังทำเพิ่มไม่ได้

ครึ่งหลัง นาที 56 ทีมเยือนน่าจะได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา แทงบอลทะลุช่องให้ ซูมาโฮโร ยาย่า หลุดเดี่ยว แต่จังหวะยิงประตู แมนเทวา ล่ามสมบัติ พุ่งตัวออกมาบล็อกได้ทัน เกมเริ่มตกเป็นของทีมเยือนที่เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงนาที 65 มาบวกประตูที่สองได้สำเร็จจากจังหวะที่ นฤชา ยันตระศรี ไปเสียบ วิศรุต พันนาสี ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ประพจน์ ดิสสมศรี เป่าชี้ไปที่จุดโทษทันที ก่อนที่ แด็กโน เซียก้า สังหารตุงตาข่าย เป็นสกอร์ปิดท้าย 2-0 ให้ทีมเยือนเก็บ 3 แต้มสำเร็จ

ส่วนที่สนามสิรินธร เป็นเกมสำคัญต่อการลุ้นแชมป์และหนีตกชั้น "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูง พบ "เสือสามย่าน" จุฬา ยูไนเต็ด ทีมรองบ๊วย เกมนี้ต้องเล่นกันท่ามกลางสภาพสนามที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ นาที 11 โคเน โมฮัมเหม็ด ยิงไกลกว่า 35 หลาบอล พุ่งเฉียดคานตุงตาข่ายอย่างสุดสวยเป็นประตูให้ชลบุรีออกนำ 1-0 แต่นาที 21 อารอน ดาซิลวา กระโดดยิงแบบฮาล์ฟวอลเลย์ที่เสาสองตูมเดียวไม่เหลือซาก ตีเสมอให้จุฬาเป็น 1-1

ครึ่งหลังนาที 56 อาทิตย์ สุนทรพิธ ส่องไกลให้ชลบุรีขยับนำ 2-1 แต่จุฬา ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จอีกครั้งในนาที 65 จากลูกยิงของ กิตติภูมิ ปาภูงา สกอร์กลับมาเสมอกัน 2-2 แต่อีก 2 นาทีต่อมา กิตติภูมิ ไปเตะ วัชระ มหาวงค์ เลยโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ช่วงเวลาที่เหลือแม้ชลบุรีจะมีตัวผู้เล่นมากกว่าแต่ก็ยิงประตูเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาเสมอกันไป 2-2 ทำให้ชลบุรีตามหลังเมืองทอง 3 แต้มโอกาสลุ้นแชมป์เริ่มเลือนราง เนื่องจากการเตะอีก 2 นัดที่เหลือ เมืองทองขอแค่ชนะนัดเดียวก็จะคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ครั้งแรกของสโมสรไปครอง ทันที เนื่องจากมีสถิติเฮดทูเฮด ที่ดีกว่าชลบุรี ส่วนจุฬามี 25 แต้มยังพอมีลุ้นหนีตกชั้น

หลังจบเกมเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นเมื่อกองเชียร์ชลบุรี เอฟซี ที่ไม่พอใจผลการแข่งขันไปยืนรอตะโกนด่าผู้ตัดสิน นอกจากนี้แฟนบอลยังก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายชกต่อยเจ้าหน้าที่ทีมงาน ของ "สยามกีฬาทีวี" และทุบกระจกรถมองข้างของสยามกีฬาทีวีจนหัก แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาเคลียร์ไม่ให้เหตุการณ์บานปลายและสงบลงได้

ที่สนาม ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน "เจดีย์ใหญ่" นครปฐม อันดับ 3 จากท้ายตาราง เปิดเกมหนีตายกับ "บลูมาร์ลิน" ศรีราชา ทีมบ๊วยที่ต้องการ 3 แต้มเพื่อต่ออายุ แต่เกมในครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นที่แดนกลางเล่นสบายเหลือเกินมีพื้นที่ มีเวลาคิดปั้นเกม ได้ทักทายไปหลายหน จนนาทีที่ 24 ทำนบของทีมเยือนพังจนได้ นนทพันธ์ เจียรสถาวงศ์ เปิดลูกโทษจากกลางสนาม นันทพล ออกมาไม่ถึงบอลถูก ปริญญา อู่ตระเภา แซงขวิดชนเสา 1-0

ครึ่งหลังทีมเยือนบี้แดนกลางเร็วขึ้นได้โอกาสตีเสมอหลายหน นาทีที่ 60 เกมต้องหยุดไปร่วม 7 นาที หลังจาก วรุตม์ วงศ์ดี เปิดเตะมุมด้านซ้าย สตาฟฟ์โค้ชและนักเตะทีมเยือนเห็นว่า เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ไปสะบัดแขนปัดบอลน่าจะได้จุดโทษแต่กรรมการเมิน กลับไปเล่นต่อ ซารูตะ ฮิโรโนริ ได้ยิงแค่ 6 หลา ธนากร ทองอินทร์ นายทวารเจ้าบ้านซูเปอร์เซฟปัดออกข้างเสาเหลือเชื่อ

ก่อนหมดเวลา 5 นาที สถานการณ์พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ทีมเยือนตีเสมอสำเร็จ ดิเอโก้ โรเบิร์ต เปิดจากขวา วรุตม์ โหม่งย้อยชนคาน ธงไชย รัฐไชย ตัวสำรองพุ่งโขกซ้ำ 1-1 อีก 3 นาที วรุตม์ ปั่นฟรีคิกหน้าเขตไปชนแขน พานุวัฒ ยิ้มสง่า ของเจ้าบ้านในเขตโทษ ประธาน นาสว่าง เปานัดนี้ชี้ที่จุดโทษ กัสตัน กอนซาเลซ สังหารไม่พลาดแซงนำ 2-1 ก่อนที่ อรรถพงษ์ หนูพรหม ยิงจากซ้ายมุดเสาสอง ศรีราชา โกงความตายกลับมาชนะ 3-1 พร้อมขึ้นมาอยู่อันดับ 14 ถีบนครปฐมไปรั้งบ๊วย มี 24 คะแนนเท่ากันแต่ประตูได้เสียเป็นรอง

หลังจบเกมแฟนบอลนครปฐมไม่พอใจการตัดสินของประธาน นาสว่าง มายืนอออยู่บริเวณทางออกอัฒจันทร์ตรงห้องพักผู้ตัดสิน และขว้างปาสิ่งของเข้าใส่จนกระจกแตก แต่เจ้าที่หน้าที่ตำรวจเข้ามาเคลียร์เหตุการณ์ไม่ให้บานปลายได้ทัน

ที่สนามบีอีซี เทโรศาสน "มังกรไฟ" เจ้าบ้านต้องการแก้ตัวหลังจากเสียสถิติไม่แพ้ใคร 12 นัดติดต่อกัน ต้อนรับ "ฮัลโหล" ทีโอที เล่นไปแค่ 6 นาที นะเรศ กาพย์ไกรแก้ว กระชากไปยิงระยะ 18 หลาเสียบตาข่าย เจ้าบ้านนำเร็ว 1-0 และยังคุมจังหวะบอลได้เหนือกว่า นาทีที่ 36 ทีมเยือนต้องเหลือ 10 คน เมื่อ สุทัศน์ อินเจริญ เจตนาชักศอกใส่ วุฒิชัย ทาทอง แต่สกอร์ยังไม่ขยับ กระทั่งมาถึงครึ่งหลัง นาทีที่ 63 วุฒิชัย หลุดเดี่ยว ไพรัช ทับเกตุแก้ว พุ่งเสียบสกัดคว่ำ กรรมการชักใบแดงไล่ออกจากสนามเหลือ 9 คน แต่สตาฟฟ์โค้ชทีโอทีไม่พอใจเพราะเห็นว่าจะเกิดเหตุนอกกรอบจึงสั่งนักเตะ ประท้วงมายืนออกันขอบสนามต้องหยุดไปร่วม 5 นาที อานนท์ สังสระน้อย ซัดประตูที่ 16 ของฤดูกาลจากจุดโทษ 2-0 ก่อนที่จะบวกเพิ่มประตูที่ 17 และ 18 ในนาที 65 และ 89 ย้ำชัยให้บีอีซี เทโรศาสน ชนะ 4-0 ขึ้นไปเบียดลุ้นแย่งอันดับ 3 กับบางกอกกล๊าส เต็มตัว

ที่สนาม อบจ.สระบุรี "นายห้างขายยา" โอสถสภา พบ "กระต่ายบีจี" บางกอกกล๊าส ทั้งคู่เพิ่งหวดแข้งกันในศึกเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศมาแบบดุเดือดถึงฎีกา ก่อนโอสถสภาเป็นฝ่ายยิ้มออกจากสนาม และเกมนี้เล่นกันท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาเกือบตลอดเกม ในครึ่งแรกค่อนข้างสูสี แต่ยังเจาะไข่แดงกันไม่ได้ ช่วง 45 นาทีสุดท้าย โอสถสภา เน้นขึ้นริมเส้นได้ผลขึ้น ขณะที่บางกอกกล๊าส มีสวนงามๆ หลายหน กระทั่งนาทีที่ 63 ศรายุทธ ชัยคำดี ปั่นฟรีคิกนอกกรอบเสียบมุมงดงาม 1-0 ก่อนที่จะเป็น สุมัญญา ปุริสาย จะมายิงจากแถวสองให้โอสถสภา ย้ำแค้นผู้มาเยือน 2-0 เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเตะรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ กลางสัปดาห์หน้า

ที่สนามกีฬากลางพระนครศรีอยุธยา "มนุษย์ไฟฟ้า" การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เล่นในถ้ำคลายความกดดันไปเยอะหลังจากรอดตายแน่นอนแล้วรับมือ สมุทรสงคราม ที่ขอแต้มเดียวน่าจะรอด แต่เป็นเจ้าบ้านประตูขึ้นนำก่อนจากสุริยา ดอมไธสง นาทีที่ 24 แต่ครึ่งหลังทีมเยือนมายิง 2 ลูกแซงนำ จาก สันติภาพ ศิริ นาทีที่ 49 และแลปเป้ โรเจอร์ นาทีที่ 64 แต่ กฤษณ วงษ์บุตรดี ตีเสมอเป็น 2-2 แบ่งแต้มกันไป

ที่สนามหนองปรือ "โลมาฟ้าขาว" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 11 พบ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 6 เปิดเกมมา 45 นาที ทั้งสองทีมยังเจาะไม่เข้าสกอร์ 0-0 แก้เกมลงมาสู้กันใหม่ครึ่งหลังนาที 78 อมร ธรรมนาม เปิดให้ เปาโล โรเบอร์โต้ โขกให้เจ้าถิ่นออกนำ 1-0 แต่ทีมเยือนไม่ยอมแพ้มาตีเสมอได้นาที 92 จากลูกโขกของ เมาดรูโร มอยซี จบเกมเสมอกัน 1-1
 
ที่สนามศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น "เด็กเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 12 พบ "ตะหานน้ำ" ราชนาวี-ระยอง ทีมอันดับ 13 เกมครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 ครึ่งหลังเล่นมาถึงนาที 61 วุฒิชัย อาสุชีวะ ซัดให้ราชนาวีออกนำ 1-0 หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมราชนาวี-ระยองบุก มาชนะ 1-0 มีเพิ่มเป็น 30 แต้มขยับมาอยู่อันดับ 11 ส่อเค้ารอดตกชั้น ส่วนแบงค็อกตกไปอันดับ 13 ยังต้องลุ้นเพื่อหนีตกชั้นใน 2 เกมสุดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook