ดาบสองคม

นโยบายรากหญ้าของรัฐบาล ที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ เพื่อหาเสียง หรือการต้องการช่วยประชาชนก็ตาม

ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ คือ การปลดหนี้เกษตรกรรายย่อย และการเปิดลงทะเบียนหนี้นอกระบบตั้งแต่ 15 ต.ค. นี้

โดยการใช้หน่วยงานรัฐ อย่างธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รวมทั้งธนาคารเอสเอ็มอี เป็นกลไกในการผลักดัน

สำหรับนโยบายปลดหนี้ให้เกษตรกร รายย่อย จากโครงการพักชำระหนี้เกษตรกร 3 แสนราย โดยเป็นลูกหนี้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท

นอกจากนี้ จะปรับโครงสร้าหนี้ให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และบางรายที่อายุ 70-80 ปี ไม่สามารถทำการเกษตรได้ให้ทายาทสืบทอดหนี้ใหม่ได้

ส่วนการเปิดลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ซึ่งลูกหนี้เจอทวงหนี้โหดรายวันนั้น เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่รัฐบาลพยายามทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงิน

ไม่รู้ว่าจะเป็นดินพอกหางหมูหรือไม่ เพราะการเอาหนี้นอกระบบเข้ามาในระบบ ธนาคารรัฐมีความเสี่ยงสูง

แต่หากเป็นนโยบายรัฐบาลยากที่จะปฏิเสธทางการเมืองได้ ยิ่งรัฐบาลพยายามหาเสียงกับรากหญ้ามากเท่าใด ความเสี่ยงยิ่งสูงจากนโยบายการให้สินเชื่อ

โอกาสที่ธนาคารรัฐเป็นเอ็นพีแอลมีสูง แม้จะมีการตั้งสำรองไว้ก็ตาม เงินส่วนนี้ก็มาจากภาษีของประชาชนนั่นเอง

นโยบายรากหญ้าจึงเป็นดาบสองคม หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ในที่สุดจะย้อนกลับมาให้ประเทศมีหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ต่อหัวของคนไทยที่เพิ่มขึ้นทุกปีจากนักการเมืองนั่นเอง.