สรุปสำนวนแล้ว ตร. ฟัน 4 ข้อหา "ปารีณา" ครอบครองที่ดิน จ.ราชบุรี "พ่อทวี" โดนด้วย

สรุปสำนวนแล้ว ตร. ฟัน 4 ข้อหา "ปารีณา" ครอบครองที่ดิน จ.ราชบุรี "พ่อทวี" โดนด้วย

สรุปสำนวนแล้ว ตร. ฟัน 4 ข้อหา "ปารีณา" ครอบครองที่ดิน จ.ราชบุรี "พ่อทวี" โดนด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ประชุมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผบก.ปทส. พ.ต.อ.ธีระพงษ์ วงศ์มุนีวร ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปทส. พ.ต.ท.คำนวณ จันทร์อนันต์ รองผกก.(สอบสวน)กก.5 บก.ปทส. และคณะทำงาน เพื่อตรวจสำนวนคดีพร้อมสรุปสำนวนคดี ปารีณา ไกรคุปต์ กรณีครอบครองที่ดินใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ได้ทำการตรวจทานรายละเอียดสำนวนคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้นทางบก.ปทส. มีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเตรียมส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้พนักงานอัยการ จ.ราชบุรี สั่งฟ้องคดี โดยปารีณาได้แจ้งนัดหมายกับทางพนักงานสอบสวน ในวันที่ 5 พ.ย. ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น.

อย่างไรก็ตาม สำนวนที่ทางบก.ปทส.ได้สรุปเพื่อสั่งฟ้องให้อัยการจังหวัดราชบุรี มีทั้งหมด 6 แฟ้มจำนวนกว่า 2408 หน้า และได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่ปารีณา ร้องขอ 3 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่ดินข้างเคียง อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิด ใน 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย

ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และ ม.31 "ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเบ็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่โดยไม่ได้รับอนุญาต"
ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 "ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"

ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน "ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า กระทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่าห้าสิบไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต"
ความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ.2520 "ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000บาท ซึ่งในส่วนของ ปารีณา จะถูกดำเนินคดีในฐานะบุคคลและนิติบุคคลด้วย

สำหรับคดีนี้มีผู้กล่าวหา 5 ราย ประกอบไปด้วย วีระ สมความคิด, พัฒนะ ศิริมัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการสำนักป่าไม้จังหวัดราชบุรี, สุรเชษฐ์ ศรีแดงรักษา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้อำนวยการป่าไม้จังหวัดราชบุรี, วัชระ ละอออ่อน นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 และสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด โดยมี ปารีณา ไกรคุปต์ ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว หลังพบว่าบุกรุกที่ เขาสนฟาร์ม หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา

อย่างไรก็ตาม นอกจากการเอาผิดปารีณาแล้ว ทางบก.ปทส.ได้เรียกทวี ไกรคุปต์ บิดาของ ปารีณา มารับทราบข้อกล่าวหาซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับทางปารีณา ในวันที่ 23 พ.ย. หลังถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐ กว่า 1 พันไร่ บริเวณหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook