แม้ว วอนคนไทยร่วมสามัคคีปรองดองเป็นโอสถที่ดีที่สุดถวาย ในหลวง

แม้ว วอนคนไทยร่วมสามัคคีปรองดองเป็นโอสถที่ดีที่สุดถวาย ในหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงก์เข้ามายังการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(นปช.) ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ว่า ขณะนี้อยู่ใกล้ประเทศไทย เสียงเลยชัด อย่างไรก็ตาม ขอไว้อาลัยลุงนวมทอง ไพรวัลย์ อดีตคนขับรถแท็กซี่ที่ผูกคอตายประท้วงการปฏิวัติรัฐประหาร ต้องยกย่องความเป็นวีรบุรุษที่ยอมสละแม้ชีวิตตัวเอง เพื่อสังเวยให้เห็นอำพนาจเผด็จการ ฝากถึงครอบครัวให้ภูมิใจที่มีผู้นำเสียสละชีวิตตัวเอง ไม่มีใครเสียสละเท่าการเสียสละชีวิต จึงขอยืนไว้อาลัยให้ลุงนวมทอง ทั้งนี้ได้ฝากเงินให้ภรรยาลุงนวมทองผ่านนายนิสิต สินธุไพรอดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ขณะที่นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ได้มอบซองที่มีแบงก์พันเป็นบึ้กจำนวน 5 หมื่นบาทให้ภรรยา ซึ่งเป็นลมไปแล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ครบ 3 ปีของการปฏิวัติรัฐประหารในศตวรรษที่ 21 ที่คนทั้งโลกมองไทยเกือบพัฒนาแล้วแต่กลับถอยหลังเข้าคลอง ตนรู้สึกเสียดาย รวมทั้งเห็นถึงการจะจำกัดกันนอกระบอบประชาธิปไตย ทั้งการใช้อาวุธต่างๆ เหมือนการจับหนูเผาบ้านทั้งหลัง ทั้งที่เป็นการต่อสู้ที่สามารถพูดจากันก็จบ แต่กลับใช้อาวุธมากมาย

"ตอนนี้ ศักดิ์ศรีของตำรวจทหารหมดไปแล้ว เพราะทำสองมาตรฐาน ไล่จับประชาชนแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ได้ อยากเชิญคนเกลียดผมและคนรักผมหลับตาและนั่งคิดอย่างเป็นกลาง ว่าตลอดสามปีที่ผ่านมา มีอะไรดีไหม เศรษฐกิจดีไหม ความเป็นธรรมในสังคมดีไหม สิทธิเสีรภาพของประชาชนเหลือเท่าไร การปกครองข้าราชการให้ความเป็นธรรมเขาไหม ยกตัวอย่าง อยากจัดการพัชรวาท (พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) คนเดียว แต่ทำลายกรมตำรวจทั้งกรม"

มองย้อนว่าเงินในกระเป๋ามีเท่าไร มีงานทำไหม ของขายเท่าเดิมหรือไม่ โบนัสมีไหม แท็กซี่มีรายได้ลดลงหรือเปล่า ทั้งที่น้ำมันถูก การลงทุนท่องเที่ยวหายไปหรือไม่ สยามเมืองยิ้มก็ไม่ยิ้มแล้ว ข่าวสารที่เป็นกลางก็หายหมด ยาเสพติดก็เยอะ โจรผู้ร้ายเยอะขึ้น องค์กรอิสระก็ไม่อิสระ องค์กรยุติธรรมก็เริ่มยุติความเป็นธรรม

แล้ววันนี้เป็นอย่างไร กล่าวหาตนคอร์รัปชั่น แล้ววันนี้คอร์รัปชั่นมากกว่าไหม กล่าวผมไม่จงรักภักดี แล้ววันนี้การเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างไร กล่าวหาสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้แย่ แล้ววันนี้เป็นอย่างไรหนักกว่าเดิม กล่าวหาผมแทรกแซงอิสระ วันนี้กลับเป็นเจ้าของซะเอง กล่าวหาผมแทรกแซงสื่อ แล้ววันนี้สื่อเป็นไงบ้าง มีความสุขดีไหม

ขอพูดถึงเรื่องส่วนตัว สามปีที่แล้ว ในวันที่ 19 กันยา 2549 ตอนนั้นได้ประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ผ่านวิดีโอลิงก์จากนิวยอร์ก ในช่วงก่อนขึ้นเวทีสมัชชาแห่งสหประชาชาติเหมือนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กำลังเดินทางไปตอนนี้ แต่ตอนนั้น ตนเป็นนายกฯ 4-5 ปีถึงไป ไม่ได้เป็นนายกฯ ปีแรกแล้วรีบไป เพราะไม่สำคัญมาก ทั้งนี้ ก่อนปฏิวัติตนโทรหาเมืองไทย เพื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศอยู่ ทั้งที่เซ็นไว้เแล้วและฝากพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีใครกล้าประกาศ ตนจึงต้องประกาศเอง แต่ไม่ทันก็ถูกทหารปิดทีวี และรู้สึกเป็นห่วงภรรยาและครอบครัว ต้องวิ่งหัวซุกหัวซุน ทุเรศสุดๆ พร้อมได้ข่าวทหารจะเข้าค้นบ้าน

ผมโทรหาหนึ่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) เฮ้ยอะไรกัน ว่ากันตามกติกา เป็นลูกผู้ชายหน่อย จบก็จบกัน พยายามจะกลับ ไม่รู้จะกลับไปไหน ต้องรอเครื่องบินการเบินไทยต้องขอเปิดเส้นทางบินใหม่ ขณะเดียวกันมีเจ้านายของประเทศหนึ่ง เสนอเอาเครื่องบินของพระองค์ท่านไปไหม จะไปไหนจะไปส่ง แต่สุดท้ายผมก็ขึ้นเครื่องบินการบินไทยไปส่งที่อังกฤษ ก่อนกลับเมืองไทย 

คุยกับคณะปฏิวัติและรัฐบาลที่แต่งตั้งโดยคณะปฏิวัติมาแล้วหลายครั้ง บอกว่า ผมจบเป็นจบ พอเป็นพอ อย่ากลั่นแกล้งทางการเมือง ถ้าพูดกันรู้เรื่องก็รู้เรื่อง ถ้ากลั่นแกล้งไม่มียอม ทั้งครอบครัว และเสื้อแดงทั้งหมดก็ถูกกลั่นแกล้ง พรรคการเมืองที่อยู่ข้างผมก็ถูกยุบแล้วยุบอีก เพื่อให้เห็นอย่ามาอยู่ข้างผม

เชื่อว่าวันนี้ผมยิ้มได้มากกว่านายอภิสิทธิ์ ที่กำลังไปเปิดงานโน่นนี่ที่นิวยอร์ก พูดถึงให้นักลงทุนต่างประเทศฟังถึงประชาธิปไตยแนวใหม่ ซึ่งมองไม่ออก จะเอาอะไรในเมื่อเป็นนายกฯ ที่มาจากค่ายทหาร ควรกวาดบ้านเราให้เรียบร้อยก่อน ค่อยโฆษณา เพราะประเทศเราพร้อมโฆษณาอยู่แล้ว ถ้าเอาประชาธิปไตยคืนมา ให้ผมนั่งนายกฯ แค่6เดือน ประเทศจะไม่มีปัญหา

ต้องปล่อยประเทศความเป็นจริง และไม่ต้องปล่อยข่าวทุกวัน เช่น ปล่อยข่าวผมเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ต้องเอาหมอจากโรงพยาบาลพระราม9ไปฉายครีโมที่เกาะกง มองคนไทยโง่หรืออย่างไร เพราะเกาะกงมีโรงพยาบาลที่ไหนกัน ทั้งที่ดูไบมีโรงพยาบาลเยอะ ทำไมไม่ทำที่นี่

อยากถามผู้กระทำต่อบ้านเมืองว่าช้ำพอหรือยัง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และกระบวนการยุติธรรม ซึ่งป็นสิ่งที่ถักทอสังคมอยู่ร่วมเป็นสุขกลับถูกทำลาย ดังนั้น การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขจึงอยู่ยาก ถึงเวลาจะเลิกหรือยังกับระบบสองมาตรฐาน ซัดพวกเราเต็มที่ ตั้งข้อหาฝ่ายโน้นกระท่อนกระแท่น ฝ่ายหนึ่งโอ๋ ฝ่ายหนึ่งซัดเต็มที่

ผมอยากวิงวอนขอทุกฝ่ายเลิกทิฐิ เห็นแก่ส่วนรวม หันหน้าเข้าหากัน ถ้าเราไม่ปรองดอง ประเทศเรามีแต่จะเสื่อมโทรมทุกวัน"ถ้าอยากเห็นพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง หายประชวรโดยเร็ว ต้องถวายโอสถที่ดีที่สุด คือความสามัคคีปรองดองของคนไทยทั้งชาติร่วมถวาย" อดีตนายกฯ กล่าว
อดีตนายกฯ กล่าวว่า "แล้วเจอกันที่ประเทศไทย เมื่อไรไม่รู้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook