อภิสิทธิ์ปรับแผนเดินเกมดันปทีป

อภิสิทธิ์ปรับแผนเดินเกมดันปทีป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คนใกล้ชิด นายกฯอภิสิทธิ์ ปูดเตรียมตั้งปทีป ทำหน้าที่รักษาการผบ.ตร. หลังเดินเกมเลื่อนประชุมก.ต.ช.รอบ 2 ออกไปไม่มีกำหนด เพื่อรักษาน้ำใจทุกฝ่ายไว้ ขณะที่ ธานี สายตรงถึงนายกฯคุยประเด็นจำใจต้องเปลี่ยวขั้ว แต่แค่ปรึกษาทุกอย่างยึดตามนายกฯ สุเทพ มั่นใจ อภิสิทธิ์ คิดทุกอย่างดีแล้วตัดสินใจเลื่อนโหวตผบ.ตร.คนใหม่ วอนสังคมเข้าใจภาวะผู้นำนายกฯคิดทุกอย่างรอบคอบ ชี้เลื่อนประชุมก.ต.ช.ไม่ขวางจัดโผนายตำรวจประจำปี อดีตนายกฯทักษิณ อัดการเมืองแทรกแซงวงการตำรวจห่วงคนทำงานเสียขวัญ เพื่อไทยอัด มาร์ค ขาดภาวะผู้นำ เทพไท โต้ทันควัน

หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือก.ต.ช. นัดประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเลือกผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าจะมีการเสนอชื่อพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ และมีคู่ชิงตำแหน่ง คือ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. แต่ทางนายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการประชุมพร้อมออกมาแถลงว่าเลื่อนการเลือก ผบ.ตร.ออกไปไม่มีกำหนดเนื่องจากต้องการให้เวลา ก.ต.ช.ในการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม และอาจจะต้องตั้งรักษาการ ผบ.ตร.ดูแลงานหลังจากสิ้นสุดเดือนก.ย.นี้ไปแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการเลื่อนประชุม ก.ต.ช.แล้วมีหลายฝ่ายมองว่านายกรัฐมนตรีขาดภาวะความเป็นผู้นำว่า ตนกลับมองว่านายกรัฐมนตรีตัดสินใจได้ดี เมื่อเห็นว่าเรื่องดังกล่าวจะทำให้มีคนวิพากษ์วิจารณ์แปลสถานการณ์ไปในทางที่เป็นลบหรือผิด แล้วตัดสินใจเลื่อนออกไป ตนเห็นว่าการกระทำเช่นนี้คือการเป็นผู้นำที่ดี เพราะผู้นำที่ดีเมื่อรู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรจะต้องปรับปรุงแก้ไขยุทธวิธีในการปฏิบัติ ทั้งนี้ ผบ.ตร.เป็น ตำแหน่งที่ต้องดูแลตำรวจเป็นแสนคนจึงต้องพิถีพิถันกันหน่อย และการตั้ง ผบ.ตร.ก็ไม่ได้ต้องการให้มาสนองนโยบายของรัฐบาลแต่ตั้งเพื่อให้มาทำงานให้กับประชาชนและประเทศ ตนคิดว่านายกรัฐมนตรีตัดสินใจดีแล้ว

เมื่อถามว่าหลักการของรัฐบาลต้องการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า อยากได้คนที่เหมาะสมที่สุดโดยต้องพิจารณาและใช้เวลา เดี๋ยวก็จะชัดเจนไปเอง ต่อข้อถามว่าเหตุที่ต้องตัดสินใจเลื่อนออกไปก่อนเพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น ที่นายกรัฐมนตรีคุยกับตนก็ไม่ได้พูดอะไรอย่างนั้นเลย ตนคิดว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีเห็นว่าคนจะแปลเจตนาผิด แปลความหมายกระบวนการในการคัดเลือก ผบ.ตร. ผิดไปก็เห็นว่าจะทำให้เกิดความเสียหายจึงตัดสินใจเลื่อนออกไปก็ถูกต้องแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ชี้แจงอย่างชัดเจน และตนคิดว่าการเลื่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ออกไปนั้นไม่กระทบกับการแต่งตั้งโยกย้าย เพราะได้หารือกับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รรท.ผบ.ตร. เพื่อเตรียมเดินหน้าต่อไปและยืนยันว่าเรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร.นี้จะไม่เป็นปัญหากับรัฐบาล

ที่รัฐสภา เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวสอบถามนายอภิสิทธิ์ ถึงกระแสข่าว พล.ต.อ.ธานี เปลี่ยนใจไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรี ในการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร. จนทำให้การประชุม ก.ต.ช.ไม่ได้ข้อยุติ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีครับ จากนั้นได้เดินทางเข้าประชุมสภา

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ สั่งเลื่อนการประชุม ก.ต.ช.ว่า ขอแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ลาออกจาก นายกรัฐมนตรีทันทีินใจยุบสภา เพราะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้รับ ความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นแสน ส.ส.สัดส่วน พรรค เพื่อไทยในฐานะอดีตรอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการ เลื่อนแต่งตั้ง ผบ.ตร.ว่า ปัญหานี้หากมองผลกระทบทางการเมืองก็ต้องถือว่าความเป็นผู้นำของนายอภิสิทธิ์ ขาดความน่าเชื่อถือ แต่ยังเชื่อว่าจะกระทบต่อการทำงานของตำรวจ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับคุณสมบัติของ พล.ต.อ.ปทีป และ พล.ต.อ.จุมพล แต่ปัญหาเกิดจากความไม่ลงตัวทางการเมืองมากกว่า

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากมองตามนัยทางการเมืองถือว่าภาวะผู้นำหมดลงแล้ว ทางออกของเรื่องนี้มีด้วยกัน 2 ทางคือ 1.พรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และ 2.ให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ส่วนเรื่องสัญญาณพิเศษนั้นเป็นเรื่องภายนอกเพราะปัญหาการแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้นเป็นเรื่องการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีเอง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ. วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุนายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำว่าไม่เป็นความจริง เป็นการวิจารณ์อย่างมีอคติส่วน ตัวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายการเมือง ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีการจะตัดสินใจบางเรื่องต้องใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบ เพราะหากตัดสินใจผิดพลาด ฐานะของนายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบการแต่งตั้งผู้เป็น ผบ.ตร. นายกรัฐมนตรีได้ใช้ความพยายามที่สุดแล้วในลักษณะบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ถ้าเรื่องนี้เป็นหนังก็ต้องเป็นหนัง ยาว เมื่อหนังจบทุกคนจะเข้าใจว่าใครคือพระเอก ตัวจริง

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนที่โฆษก พรรคเพื่อไทยวิเคราะห์สาเหตุการเลื่อนประชุม ก.ต.ช. โดยระบุนายกรัฐมนตรีไม่มั่นใจในข้อกฎหมายหรือการต่อรองกับพรรคภูมิใจไทยและกลัวจะตกจากตำแหน่งนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะการประชุม ก.ต.ช.ครั้งที่ผ่านมาไม่มีประเด็นข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนประเด็นการต่อรองกับพรรคภูมิใจไทยก็ขอยืน ยันได้ว่าไม่เคยบริหารงานแผ่นดินด้วยการต่อ รองกับพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนการกลัวจะหลุด จากเก้าอี้นั้นขอยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ไม่ยึดกับตำแหน่งเพียงแต่ตระหนักต่อภาระหน้าที่

แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมก.ต.ช. นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์สายตรงถึงแกนนำพรรคภูมิใจไทยขอให้ช่วยให้ข่าวการประชุม ก.ต.ช. เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็เห็นด้วยว่าเป็น ทางออกที่ดี การเลื่อนประชุมจึงเป็นการคลายล็อกทำให้นายนิพนธ์ไม่ต้องลาออกจาก ตำแหน่ง ขณะนี้รัฐบาลพยายามประคับประคอง สถานการณ์ในพรรคร่วมรัฐบาลไว้ ไม่ให้เกิดความ เห็นไม่ลงรอยกันถึงขั้นต้องแตกหักหรือยุบสภา หลังจากมีเหตุถึง 4-5 ครั้งก่อนหน้านี้ที่สถานการณ์เหมือนจะถึงขั้นยุบสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ twitter.com ถึงกรณีที่ประชุม ก.ต.ช. เลื่อนว่า เป็นยุคที่ตำรวจเราถูกแทรกแซงอย่างสุด ๆ ถ้าคนไม่เข้าใจกฎหมายระเบียบภายในตำรวจไปยุ่งกับการบริหารลึกเกินไปก็จะเสียขวัญอย่างนี้ครับ

แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พล.ต.อ.ธานี เปลี่ยนใจว่า ก่อนประชุม ก.ต.ช. พล.ต.อ.ธานีได้โทรศัพท์มาหานายกฯเพื่อเล่าข้อขัดข้องบางประการที่ทำให้สนับสนุน พล.ต.อ.ปทีป ไม่ได้ แต่่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญ พล.ต.อ.ธานี ไม่ได้บอกว่าจะยกมือให้กับ พล.ต.อ.จุมพล แต่บอกว่า การตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายกฯ หากทำตามแล้ว นายกฯต้องช่วยรับผิดชอบด้วย ทั้งนี้ในที่ประชุมนายกฯเป็นคนเสนอเองว่าให้เลื่อนการประชุมออกไป เพราะกรรมการ ก.ต.ช. อาจกังวลเรื่องข้อกฎหมายบางอย่าง

ที่สำคัญนายกฯยังเป็นคนขอให้ที่ประชุมให้อำนาจในการแต่งตั้งรักษาราชการ ผบ.ตร. หาก พ้นวันที่ 30 ก.ย.นี้ ซึ่งที่ประชุมก็มีมติเป็นเอกฉันท์ ทำให้นายกฯเตรียมแก้เกมเอาไว้ โดยการตั้งรักษาราชการ ผบ.ตร.ยาว เช่นเดียวกับที่เคยตั้ง พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รรท.ผบ.ตร. เป็นเวลา 7 เดือน โดยคนที่คาดว่านายกฯจะแต่งตั้งเป็นรรท.ผบ.ตร.นอกจาก พล.ต.อ.ปทีป แล้วยังมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ10) ด้วย โดยก่อนการประชุม ก.ต.ช. นายกฯได้เข้าหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายชวนก็ยืนยันว่าพร้อมสนับสนุนการตัดสินใจของนายกฯ

ดังนั้นไม่ว่าจะนัดประชุม ก.ต.ช.อีกกี่ครั้งนายกฯก็จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ เพราะนายกฯไม่ต้องการเลือกคนที่เป็นเพื่อนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่มั่นใจว่าจะช่วยเหลือเรื่องคดี อีกทั้งนายกฯเห็นว่าแม้การประชุม ก.ต.ช.ครั้งล่าสุดจะมีเสียงในมือเพียงพอ ในการผลักดันให้ พล.ต.อ.ปทีป เป็น ผบ.ตร. แต่คิดว่า เลือกไปทุกอย่างก็จะไม่จบ การตั้ง รักษาราชการ ผบ.ตร.ยาวจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะนายกฯ ไม่ได้เลือกใคร ที่สำคัญนายนิพนธ์ ก็ไม่ต้องลำบากใจด้วย จึงตัดสินใจเลื่อนการประชุม ก.ต.ช.ออกไปไม่มีกำหนด โดยเหตุผลส่วนหนึ่งคือต้องการให้กระแสสังคมหันมาสนับสนุนการตัดสินใจของตัวเองด้วย

นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่มีการรับรองการลงมติ การชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐในกรณีการสั่งการ สลายการชุมนุม วันที่ 7 ต.ค. 51 เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมอีกรอบมายัง ป.ป.ช.กรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่ง ป.ป.ช.ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปดูข้อมูลที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ยื่นมาล่าสุดว่า มีข้อมูลน้ำหนักรับฟังได้หรือไม่ แล้วนำกลับมารายงานให้ที่ประชุมอีกครั้งในวันที่ 22 ก.ย. หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ ก็จะลงมติรับรองการชี้มูลความผิดคดีนี้ทันที จากนั้นคาดว่าในวันที่ 23 หรือ 24 ก.ย. จะส่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาคือ นายกรัฐมนตรี และสำนักงานอัยการสูงสุด รับทราบเพื่อดำเนินคดีทางวินัยและอาญาต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะต้องดำเนินการลงโทษภายใน 30 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือจากป.ป.ช.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook