''มาร์ค''ผวาข่าวปฏิวัติสั่งรายงานทุกระยะ

''มาร์ค''ผวาข่าวปฏิวัติสั่งรายงานทุกระยะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เชื่อ 19 ก.ย.ไม่รุนแรงทักษิณจวกกลับโหรโยก ผวจ.25 ตำแหน่ง

มาร์คสยองข่าวปฏิวัติเตรียมต่อสายสอบถามข่าวเป็นระยะระหว่างประชุมยูเอ็น ทำใจดีสู้ม็อบเชื่อ 19 ก.ย.ไม่มีปัญหา ลั่นพร้อมรับผิดชอบหากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง จวก ชัยสิทธิ์ ปลุกปฏิวัติเท่ากับหนุนแนวคิดเปลี่ยนการปกครอง ด้าน ประวิตร มั่นใจรับมือไหว อ๋อย ให้จับตามือที่ 3 เสื้อน้ำเงินและทหารแทรกแซงการชุมนุมสร้างสถานการณ์ ขณะที่วิปรัฐบาลพร้อมถกร่วมรัฐสภา แย้มตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างหากความเห็นไม่ตรงกัน ด้านเพื่อไทยโวยแผนเตะถ่วงรอบใหม่ พร้อมฝากเตือนอย่าให้พวกแก๊งเติมเงินคอยประท้วงพร่ำเพรื่อ ด้าน สภาสูง ยัวะ ครม.ไม่ให้เกียรติฟังพิจารณางบฯ 53 ต้องขู่คว่ำ พ.ร.บ.ถึงจะเสนอหน้าเข้ามาให้เห็น ส่วน แม้ว จ้อใน ทวิตเตอร์ จวกยับโหรทำนายไร้จรรยาบรรณโผผู้ว่าฯ ใหม่ 25 ตำแหน่ง

* มาร์คผวาต่อสายฟังข่าว

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ระหว่างวันที่ 20-27 ก.ย. ที่สหรัฐ ว่า เท่าที่พูดคุยกับนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิ การนายกรัฐมนตรี หากมีความจำเป็นต้องสื่อสารอะไรก็จะพยายามติดต่อกลับเข้ามา แต่ไม่ได้กำหนด ตายตัวว่าต้องเป็นทุกวันหรือเป็นเวลาใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่ต้องโฟนอินเข้ามาเพราะเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนคิดว่าไม่มีอะไร การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง คนที่อยากแสดงออกก็ขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ถ้าเกินเลยไปเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามหน้าที่ ส่วนข่าวปฏิวัติตนยังมองไม่เห็นเหตุผลในเรื่องนี้ และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและทหารก็ไม่มีปัญหา

* ไม่ต้องการกระทบกระทั่ง

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 15 ก.ย. จะมีการเสนอให้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยจะมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็น ผอ.ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เหมือนเดิม ส่วนจะประกาศใช้ในพื้นที่ไหนระยะเวลาเท่าไหร่กำลังดูรายละเอียดอยู่ จากนั้นจะประชุมกับ กอ.รมน. เพื่อออกแผนปฏิบัติป้องกันไม่ให้มีเหตุแทรกซ้อนขึ้น

การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะไม่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ เป็นการใช้มาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมที่เข้มขึ้นเท่านั้น รัฐบาลไม่ต้องการให้มีปัญหาการกระทบกระทั่ง ถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติในกรอบของกฎหมายก็จะได้รับความคุ้มครอง ตราบเท่าที่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล หากเกิดอะไรขึ้นรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบ นายกฯ กล่าว เมื่อถามว่า การไม่มี ผบ.ตร. จะเป็นสุญญา กาศในการทำหน้าที่ของตำรวจหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่เป็นอุปสรรค

* พร้อมรับผิดชอบหากรุนแรง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึง นปช. นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย. ว่า รัฐบาลจะหาวิธีรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด อยากให้ภาพของประเทศไทยออกไปสู่สายตาชาวโลกเป็นภาพที่ดี จึงหวังว่าประชาชนที่จะมาชุมนุมจะปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ทำอะไรให้ฝ่าฝืนจนเกิดความเสียหายกับประเทศ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากข้าราชการไม่กล้าปฏิบัติงานเพราะกลัว ป.ป.ช.จะชี้มูลความผิด เหมือนกรณีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา นายสุเทพกล่าวว่า การดำเนินการของ รัฐบาลชุดนี้เราจะสั่งการโดยมีกฎหมายรองรับ หากมีความผิดพลาดก็เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่ ตนจะสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรทุกอย่างเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ต้องมารับผิดในการปฏิบัติงาน

* การข่าวไม่พบสิ่งผิดปกติ

รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงกล่าวต่อว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯมีความจำเป็น แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ครม.พิจารณา เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง จึงอยากวิงวอนผู้ที่มาชุมนุม อย่าทำอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ การไปล้อมที่ไหนไม่ควรทำทั้งสิ้น

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม กล่าวเรื่องเดียวกันว่า การประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายและให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้ ยอมรับว่ายังไม่ทราบจำนวนที่แท้จริงของผู้ชุมนุมเป็นเพียงการประเมินสถานการณ์เท่านั้น แต่คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะการข่าวยังไม่มีสิ่งใดผิดปกติหรือบ่งบอกว่าจะก่อให้เกิดความรุนแรง

* ลุงจิ้นอยากดูแผนคุมม็อบ

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.ว่า น่าเป็นห่วง เพราะทราบว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมชุมนุมประมาณ 3 หมื่นคน ส่วนที่แกนนำคนเสื้อแดงระบุว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น ตนอยากให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพื่อให้ประเทศมีความสงบสุข อย่างไรก็ตามถ้าการชุมนุมอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยก็ไม่มี ปัญหา แต่ทางที่ดีที่สุดไม่ควรมีการชุมนุม

เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทยจะขอดูแผนรักษาความปลอดภัยจากตำรวจหรือไม่ เพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้องนายชวรัตน์กล่าวว่า เป็นความคิดที่ดี แต่เรื่องนี้เขาไม่ได้ขอกระทรวงมหาดไทยไปร่วมประชุม หากมีโอกาสก็ยินดีเข้าร่วมประชุมด้วย จะได้ลดความเข้าใจผิดกันระหว่างหน่วยงานราชการด้วยกัน

* เตรียมจัดโครงการกดดันเสื้อแดง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนัก นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.ว่า ในวันที่ 15 ก.ย. ตนจะเสนอโครงการ ไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง เพื่อขอความเห็นชอบในการเป็นเจ้าภาพ รัฐบาลต้องการให้คนไทยแสดงออกซึ่งความรักชาติร่วมกัน โดยให้แต่ละจังหวัดรวมพลังมวลชนเพื่อแสดง ออกในบางสิ่งบางอย่าง และจะเปิดตัวในวันที่ 17-18 ก.ย. ไปสิ้นสุดในวันที่ 4 ธ.ค. เมื่อถามว่า กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการสกัดกั้นการเคลื่อน ไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามจะจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังสร้างเงื่อนไขการชุมนุมอยู่ตลอด นายกฯลงพื้นที่ก็ถูกต่อต้าน

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ระบุว่าอาจเกิดการปฏิวัติในช่วงที่นายกฯ เดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาตินั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า การที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ พูดเช่นนี้เป็นการยืนยันแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง สอดรับกับแนวคิดสถาปนารัฐไทยใหม่ และจะเกี่ยวเนื่องถึงการเคลื่อนไหวในครั้งต่อไปด้วย อย่างไรก็ตามหากมีใครที่คิดจะปฏิวัติในขณะนี้ เชื่อว่าคงต้องเผชิญหน้ากับแรงต่อต้านของประชาชนอย่างแน่นอน

* ให้ตำรวจทำตามคำสั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการ ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมนายตำรวจเพื่อวางแนวทางดูแลความสงบในการชุมชุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย. โดยจะใช้กำลังจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นหลัก มีกำลังทหารเข้าร่วม 33 กองร้อยและจะใช้แผนกรกฎ 52 ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งเป็นแผนเดียวกับที่ใช้ในการปฏิบัติวันที่ 7 ต.ค.

พล.ต.อ.ธานีกล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้ซักซ้อมการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนเกิดการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสถาน การณ์คงไม่รุนแรง เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่าจะเกิดความวุ่นวาย ส่วนความมั่นใจของผู้ปฏิบัติก็ไม่มีปัญหา ถ้าทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาจะรับผิดชอบเอง

* เตือนใช้กำลังทหารผิดงาน

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน แถลงถึงการใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ยังไม่มีความจำเป็นเพียงพอในการประกาศใช้ เพราะมาตรา 15 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯต้องปรากฏเหตุการณ์เป็นที่ประจักษ์ว่าจะมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถยับยั้งควบคุมได้ ค่อยนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาบังคับใช้

มาตรการปกติที่เข้าไปดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม จนถึงขั้นเด็ดขาดสามารถประกาศใช้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง รัฐบาลจึงควรให้สถานการณ์เป็นตัวกำหนดในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ทางกรรมการสิทธิฯจะทำหนังสือถึงนายกฯภายในสัปดาห์นี้ ว่าการที่รัฐบาลจะนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มาประศใช้จะต้องมีเหตุการณ์ที่จะมีแนวโน้มว่าจะรุนแรง หากไม่มีเหตุการณ์ก็ไม่ควรที่จะนำมาประกาศใช้ นพ. นิรันดร์กล่าวและว่า การใช้กำลังทหารเข้ามาปฏิบัติงานเป็นการใช้คนไม่ถูกกับงาน เป็นเรื่องที่น่าห่วงว่ารัฐบาลจะถูกดิสเครดิตว่าไม่มีส่วนร่วมในการสร้างประชาธิปไตยขัดหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของการเมือง

* จิ๋วเมินร่วมวงสวิง 111+37

อีกด้านหนึ่งที่สนามกอล์ฟเลควูด บางนา-ตราด มีการแข่งขันกอล์ฟสานสัมพันธ์สามัคคี 111+37 = เพื่อไทย ครั้งที่ 3 ชิงถ้วย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน ตลอดจน ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมแข่งขันกว่า 100 คน อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทหารสูงสุด นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต รมว. ยุติธรรม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน

นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ผอ.จัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้ทำหนังสือเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย แต่ พล.อ.ชวลิตไม่ได้ตอบรับ ส่วนการชุมนุมครบรอบ 3 ปีการรัฐประหารของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย. ถ้าชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ถือว่าเป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าไม่น่าจะมีความรุนแรง

* อ๋อยเตือนระวังสีอื่นมั่วนิ่ม

ผมพูดไปหลายครั้งแล้วว่า ถ้าอยากเป็นนายกฯ อย่างสง่างามก็ให้มีการเลือกตั้งให้ประชา ชนเป็นผู้เลือกถึงจะสง่างาม เมื่อประชาชนส่วนใหญ่เลือกใครผู้ที่คิดจะออกมาต่อต้านก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะหาข้ออ้างออกมาเคลื่อนไหว ผมก็ขอให้กำลังใจนายกฯ แต่คิดว่าเวลานี้นายกฯ ยังทำงานน้อยไป เพราะถ้าบริหารงานดีคงไม่มีใครออกมาต่อต้าน นายสุรชัยกล่าว

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย. ว่า รัฐบาลต้องระวังเรื่องมือที่ 3 เข้ามาแทรกแซงและสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะคนเสื้อน้ำเงินและลูกน้องของผู้ใหญ่ในกองทัพ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์จากปัญหาความขัดแย้งของแกนนำรัฐบาลกับกองทัพ ส่วนการจะประกาศ พ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อรับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น มองว่าเป็นการประกาศพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น และอาจจะกลายเป็นว่ารัฐบาลใช้กฎหมายนี้เพื่อป้องกันการชุมนุม ซึ่งจะกระทบกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

* เลือกตั้งใหม่ ปชช.ยอมรับ

นายจาตุรนต์ยังกล่าวถึงการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรม การสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประเทศกำลังมาถึงทาง ออกสำคัญที่จะคลี่คลายวิกฤติหรือไม่ ก็อยู่ที่การอภิปรายของ ส.ส. และ ส.ว. ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ที่สำคัญคือท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ หากยังเป็นแบบเดิมคือจะแก้ไขเพียงแค่ 2 ประเด็น คือในมาตรา 190 และเรื่องระบบเลือกตั้งก็จะทำให้การหาทางออกจะวิกฤติครั้งนี้ยากยิ่งขึ้น เพราะทั้ง 2 ประเด็นไม่เกี่ยวกับวิกฤติประเทศ

พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้านและ ส.ว. ต่างก็ เห็นตรงกันกับข้อเสนอของคณะกรรมการสมาน ฉันท์ฯ ที่เสนอแก้ไขวิกฤติการเมืองด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น โดยในระยะสั้นควรมีการแก้ไขเรื่องการเลือกตั้งและการยุบพรรคก่อน จากนั้นจัดการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อให้มีรัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับ แล้วค่อยแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับอีกครั้ง จะทำให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งได้รับการยอมรับจากประชาชน นายจาตุรนต์กล่าว และ ว่า รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานได้แล้วอยู่ต่อไปประเทศก็มีแต่สูญเปล่า มีปัญหากับพรรคร่วม และกองทัพจนมีข่าวเรื่องการปฏิวัติออกมา

* เห็นไม่ตรงกันให้ตั้ง ส.ส.ร.

นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล แถลงภายหลังการประชุมว่า วิปรัฐบาลได้หารือถึงการเปิดอภิปรายเพื่อประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 16-17 ก.ย. โดยให้อภิปรายตามกรอบของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่เสนอมา และให้ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และเชิญสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นมาร่วมด้วยเพื่อให้ประชาชนรับทราบ

ประธานวิปรัฐบาลกล่าวต่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญวิปมีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อรับฟังความคิดเห็น หากมีประเด็นที่เห็นพ้องต้องกันว่าต้องแก้ไขก็ให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลเสนอแก้ไข แต่หากมีประเด็นที่เห็นไม่สอดคล้องกัน เห็นควรให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมา นำส่วนดีและส่วนด้อยของรัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 มาปรับปรุงเพื่อ ให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับสมานฉันท์ต่อไป

* ปชป.ปัดเกมยื้อเวลาอีกรอบ

หากเห็นพ้องให้ตั้ง ส.ส.ร.ก็คงจะให้มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน โดยให้รัฐสภาเป็นเจ้าภาพ อยากเรียกร้องให้ฝ่ายค้านและวุฒิสภากำหนดประเด็นขึ้นมาให้ชัดเจน ไม่ใช่มากล่าวหาว่ารัฐบาลยื้อเวลา เพราะเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากยังไม่เห็นพ้องต้องกันก็ขอให้มาเข้าชื่อกัน เพื่อให้ ส.ส.ร.ยกร่างไปเลย เพราะวันนี้ทุกฝ่ายก็ยอมรับแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นทางออกหนึ่งที่จะทำให้การเมืองแก้ปัญหาข้ามพ้นข้อกล่าวหาที่ว่ากติกาไม่ชอบธรรมได้ นายชินวรณ์กล่าว

นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยืนยันว่า การประชุมรัฐสภาดังกล่าว ไม่ใช่การพูดถึงการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ เป็นเพียงแต่การคุยกันว่ารัฐธรรมนูญมาตราใดที่มีปัญหาเท่านั้น หลังการประชุม จะรวบรวมประเด็นที่เป็นปัญหา แล้วแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจะนัดประชุมอีกครั้งเพื่อกำหนดประเด็นและวิธีการแก้ไขต่อไป จริง ๆ การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังไม่เหมาะสมในสถานการณ์แบบนี้ แต่นายกฯ พูดชัดคือเราไม่ขัดข้องหากจะมีการแก้ไข แต่กระบวนการแก้ไขต้องมีอีกหลายขั้นตอน ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเกมดึงเวลาของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหรือไม่ นายชุมพลกล่าวว่า จะแก้ทั้งทีก็ควรจะทำให้ละเอียดรอบคอบ

* เหน็บแก๊งเติมเงินอย่าประท้วงมั่ว

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นหลักคือพรรคสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น และไม่เห็นด้วยหากพรรคประชาธิปัตย์จะซื้อเวลาด้วยการเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาอีกครั้ง โดยประเด็นเร่งด่วนที่ต้องมีการแก้ไขคือ มาตราที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ อย่างไรก็ตามพรรคอยากให้รัฐบาลเปิดกว้างรับฟังความเห็นของเพื่อนสมาชิก โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ต้องเตือน ส.ส.ประเภทแก๊งเติมเงินไม่ให้ประท้วงพร่ำเพรื่อ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.กล่าวถึงท่าทีของนายกฯ ที่อยากให้มี ส.ส.ร.3 ขึ้นมาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หากจะให้มี ส.ส.ร.3 จะต้องแก้มาตรา 291 ก่อน กลุ่ม 40 ส.ว. มองว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งแตะรัฐธรรมนูญ หากจะแก้ต้องไปถามประชาชนก่อนโดยการทำประชามติไม่ใช่มาทำกันเอง ข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ 6 ประเด็น 40 ส.ว.มองว่าเป็นการแก้เพื่อประโยชน์ส่วนตน

* แม้วสับโหรไร้จรรยาบรรณ

สำหรับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะถึงวันครบรอบ 3 ปีของการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ และอยู่ในประเทศจนกระทั่งปัจจุบัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 14 ก.ย. พ.ต.ท.ทักษิณได้โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า ประเทศไทยในอุดมคติต้องปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเสมอภาคและยุติธรรมไม่มีการแทรกแซง ประชาธิปไตย ต้องมาจากอำนาจประชาชนไม่ให้บุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้รับอำนาจจากประชาชนใช้อำนาจที่เหนือกว่าอำนาจประชาชนยกเว้นพระราชอำนาจ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ได้มีสมาชิกทางทวิตเตอร์รายหนึ่งถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า โหรทำนายดวงชะตาของท่านว่าจะเหมือนพ่อของท่าน ท่านคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง พ.ต.ท. ทักษิณได้ตอบว่า โหรมี 2 ประเภทคือโหรกับโหน ทุกวิชาชีพถ้าจะให้เป็นที่เคารพต้องมีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพนั้น นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังได้ตอบคำถามอีกในหลายเรื่อง รวมทั้งแสดงความเห็นว่า การเมืองอ่อนแอมีการต่อรองตลอดเวลารัฐบาลประชาธิปัตย์จะโชว์วาทะมากกว่าความสามารถในการบริหารบ้านเมือง

* วุฒิฯเซ็ง ครม.เมินฟังงบฯ

วันเดียวกันที่รัฐสภามีการประชุมวุฒิสภา เพืารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ที่สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบแล้ว มี ส.ว.แจ้งความจำนงใช้สิทธิอภิปราย 51 คน โดยนายพิเชต สุนทรพิพิธ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วุฒิสภา ได้ชี้แจงรายงานพร้อมตั้งข้อสังเกตถึงการจัด ทำงบฯ ที่ได้ตั้งวงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท ว่ายังขาด การบูรณาการ งบลงทุนส่วนใหญ่ไปอยู่ใน พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การอภิปรายส่วนใหญ่พูดถึงการตั้งงบฯ ที่มีความซ้ำซ้อน ไม่ได้สะท้อนว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างไร อย่างไรก็ตามหลัง ส.ว.อภิปรายได้ระยะหนึ่ง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒน ส.ว.สรรหา ได้ลุกขึ้นกล่าวด้วยความไม่พอใจที่ยังไม่เห็นมี ครม.มาร่วมรับฟังด้วย พร้อมกล่าวว่า ไม่รู้ว่าจะพูดให้ใครฟัง แต่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ชี้แจงว่า มีตัวแทน ครม.มาร่วมรับฟังการอภิปราย แต่อาจไม่ได้อยู่ในห้อง ขณะที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้เข้ามาในห้องประชุมและชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพิจารณางบฯ และจะมีตัวแทน ครม.มานั่งฟังกันเป็นระยะ

n ขู่คว่ำร่างถึงโผล่หน้าให้เห็น

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นนายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ไม่ทราบรัฐบาลย่ามใจไปหรือเปล่าที่คิดว่าอย่างไรวุฒิฯ ก็ต้องลงมติให้ผ่านจึงไม่สนใจฟังกัน จึงขอฝากประธานไปบอกรัฐบาลว่าควรให้ความสนใจมากกว่านี้ และ ส.ว.ได้หารือกันแล้วว่าอยากสร้างประวัติสักครั้งด้วยการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณหาก ครม.ยังไม่ให้ความสนใจ ทำให้รัฐมนตรีที่อยู่ภายนอกห้องประชุมต้องสลับกันเข้ามานั่งฟังการอภิปราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมในช่วงบ่ายก็ยังไม่คึกคัก ส.ว.ผลัดเปลี่ยนกันอภิปราย ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตเรื่องงบรายจ่ายลงทุนในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมีน้อย แต่ไปอยู่ในส่วนเงินกู้ทำให้ตรวจสอบยาก นอกจากนี้การเบ ิกจ่ายงบฯ ปีปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพ มีการเร่งเบิกจ่ายช่วงใกล้หมดปีงบประมาณ การจัดสรรไปยังหน่วยงาน ต่าง ๆ ยังมีความซ้ำซ้อน รวมถึงเม็ดเงินที่จะช่วยเหลือเกษตรกรน้อยมาก

* มท.แบ่งเค้กโควตาผู้ว่าฯ

ส่วนการเมืองอื่นผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคภูมิใจไทย นำโดยนายเนวิน ชิดชอบ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรค นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรค ได้เห็นชอบร่วมกันที่จะนำรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยระดับ 10 ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวง เข้าสู่ที่ประชุม ครม.เป็นวาระจร ในวันที่ 15 ก.ย. โดยเป็นการเสนอพร้อมกับการแต่งตั้งปลัดกระทรวง พาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม ที่พรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดสรรตำแหน่งส่วนใหญ่เพื่อยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมการเลือกตั้ง โดยการนำคนใกล้ชิด เพื่อนร่วมรุ่นให้มาอยู่ ในตำแหน่งที่เตรียมไว้ ที่น่าสนใจก็คือพบว่าในกลุ่มผู้ร่วมจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งครั้งนี้มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทรับเหมาก่อสร้างยักษ์ใหญ่รายหนึ่งด้วย ขณะเดียวกันก็มีการต่อรองจากพรรคประชาธิปัตย์ ให้ผลักดันผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ สายพรรคประชาธิปัตย์ ไปรับตำแหน่ง ในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้และบางจังหวัดในภาคกลางด้วย

* เผย 25 ตำแหน่งแบ่งกันชม

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ จะเป็นครั้งใหญ่ เพราะมีผู้เกษียณ 23 ตำแหน่ง อาทิ รองปลัดกระทรวง 2 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ 15 ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการ 5 ตำแหน่ง รองอธิบดีกรมการปกครอง 1 ตำแหน่ง รวมถึงการย้ายสลับผู้ว่าฯของฝ่ายการเมือง โดยตำแหน่งที่น่าสนใจ คือ นายขวัญชัย วงศ์นิติกร ผวจ.สมุทรปราการ คาดว่าได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) โดยนายขวัญชัยเป็นเพื่อนร่วมสถาบันสิงห์แดง รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และจะให้นายสุรชัย ขันอาสา รอง ผวจ.สมุทร ปราการ มาเป็น ผวจ.สมุทรปราการแทน ส่วนนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.นครศรีธรรมราช คาดว่าจะได้รับตำแหน่งรองปลัดกระทรวง

ขณะที่นายธีรเทพ ศรียะพันธุ์ ผวจ.ปัตตา นี คาดว่าจะได้ขึ้นมาเป็น ผวจ.สงขลา โดยจะมีนายประทีป กีรติเรขา รอง ผวจ.ปัตตานี ขึ้นเป็น ผวจ.ปัตตานีแทน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผวจ.ลพบุรี นายวิเชียร พุฒิวิญญู รอง ผวจ.นนทบุรี จะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผวจ.นนทบุรี แทนนายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ซึ่งเกษียณอายุราชการในปีนี้ รวมถึง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง 10 คาดว่าจะเป็น ผวจ.ปทุมธานี นาย วีระยุทธ เอี่ยมอำภา ผวจ.สมุทรสาคร ไปเป็น ผวจ.นครปฐม และนายไมตรี อินทุสุต รอง ผวจ.ลพบุรี จะขึ้นเป็น ผวจ.อ่างทอง ส่วน ผวจ. ที่จะเข้าเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง อาทิ นายประภาศ บุญยินดี ผวจ.สมุทรสงคราม นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผวจ.ชุมพร นายปรีชา บุตรศรี ผวจ.ปทุมธานี และนายอธิคม สุพรรณพงศ์ ผวจ.หนองบัวลำภู

* คมนาคมพลิก สุพจน์นั่งแท่น

ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 15 ก.ย.จะเสนอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวง คมนาคมรวมทั้งหมด 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงคมนาคม 1 ตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง 1 ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการ 2 ตำแหน่ง และตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ 1 ตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่จะเป็นปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ คือ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทล.) ถือเป็นการพลิกโผจากเดิมที่ก่อนหน้านี้ชื่อของนายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นตัวเต็งมาโดยตลอด ส่วนตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงคนใหม่ที่จะมาแทนนาย สุพจน์หากเลื่อนตำแหน่งเป็นปลัด คือ นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง เนื่องจากเป็นคน จ.บุรีรัมย์ มีความใกล้ชิดกับนายชัยและนายเนวิน ชิดชอบ ส่วนอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศนั้น คาดว่านายวุฒิชัย สิงหมณี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศขึ้นมาแทนนางกรรณิการ์ เขมาวุฒานนท์ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ก็จะเสนอ นพ.ไพจิตร วราชิต รองปลัดกระทรวงขึ้นเป็นปลัดด้วย

* สักวันความจริงจะปรากฏ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook