ญี่ปุ่นเนรมิตเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำใหม่! เมื่อภัยคุกคามจากเพื่อนบ้านรอวันปะทุ

ญี่ปุ่นเนรมิตเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำใหม่! เมื่อภัยคุกคามจากเพื่อนบ้านรอวันปะทุ

ญี่ปุ่นเนรมิตเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำใหม่! เมื่อภัยคุกคามจากเพื่อนบ้านรอวันปะทุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลัทธิจักรวรรดินิยมของทางตะวันตกที่แผ่ขยายไปทั่วโลกจนบรรดาประเทศในทวีปอเมริกาทั้งเหนือและใต้ แอฟริกา เอเชียตลอดจนทวีปอออสเตรเลียต้องตกเป็นอาณานิคมของชาวยุโรปก็เนื่องมาจากแสนยานุภาพของกองทัพเรือเป็นหลักนั่นเอง

เริ่มต้นจากเรือใบ มาเป็นเรือใช้เครื่องจักรไอน้ำ มาเป็นเรือเหล็ก และช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 เรือรบที่สำคัญในสมัยนั้นก็คือเรือประจัญบาน (Battleship) เรือประจัญบาน เป็นเรือที่ทรงอำนาจสูงสุดด้วยอำนาจการยิงที่รุนแรง ปืนใหญ่นานาขนาดถูกบรรจุลงไปในเรือจนแทบจะไม่มีที่ว่าง ปืนใหญ่หลักของเรือประจัญบานจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบสี่นิ้วขึ้นไป ปืนใหญ่เรือที่ใหญ่ที่สุดเป็นของจักรพรรดินาวีญี่ปุ่น เส้นผ่าศูนย์กลางสิบแปดนิ้ว ปืนใหญ่รองมีขนาดลดหลั่นลงมานับสิบกระบอก เสริมด้วยปืนใหญ่ที่มีขนาดเล็กลงมาอีกจนถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสามนิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นปืนใหญ่ที่สามารถยิงต่อสู้อากาศยานได้ด้วย

การมีฝูงเรือประจัญบานถือว่ามีความสำคัญมาก สำหรับประเทศใดๆ ก็ตามที่ต้องการคงไว้ซึ่งความเป็นใหญ่ทางทะเล

แต่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 บรรดาเรือประจัญบานทั้งหลายกลับถูกจมอับปางโดยฝูงบินทิ้งระเบิดที่มีฐานบินมาจากเรือบรรทุกเครื่องบินทำให้เรือประจัญบานต้องแทบสูญพันธุ์ไปและราชาของกองทัพเรือก็เกิดขึ้นใหม่ในรูปของเรือบรรทุกเครื่องบินนั่นเองแต่เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินแต่ละลำนั้นมีราคาแพงมากและการออกปฏิบัติการทางทะเลแต่ละครั้งต้องนำทหารและผู้คนนับหมื่นคนโดยต้องมีเรือคุ้มกันไปด้วยนับสิบลำ

ดังนั้นประเทศที่จะมีเรือบรรทุกเครื่องบินได้จึงต้องเป็นประเทศที่มั่งคั่งมาก กล่าวกันว่าประเทศสหภาพโซเวียตที่ล่มสลายไปเมื่อปี 2534 นั้นมีสาหตุสำคัญประการหนึ่งคือรัฐบาลสหภาพโซเวียตทุ่มเทเงินงบประมาณในการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำพร้อม ๆกันจนเศรษฐกิจล้มละลายไปเลยทีเดียว

ปัจจุบันนี้มีเรือบรรทุกเครื่องบินประจำการอยู่ 44 ลำในโลกของ 14 ประเทศโดยสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวมีเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดถึง 11 ลำสามารถบรรทุกเครื่องบินโจมตีได้ ลำละ 80เครื่อง นอกจากนี้สหรัฐอเมริกายังมีเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์แบบเรือหลวงจักรีนฤเบศรของไทยแต่ใหญ่กว่าเพราะสามารถบรรทุกเครื่องบินรบแบบขึ้นลงแนวดิ่งได้ถึง 20 เครื่องอีก 9 ลำ

สำหรับอังกฤษและสาธารณรัฐประชาชนจีนมีเรือบรรทุกเครื่องบินประเทศละ 2 ลำ ส่วนฝรั่งเศส อินเดีย รัสเซียมีเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดกลางประเทศละ 1 ลำทั้ง 5 ประเทศนี้ใช้เรือบรรทุกเครื่องบินที่บรรทุกเครื่องบินโจมตีได้ 30-60 เครื่อง โดยอิตาลีมีเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดเล็ก 2 ลำและสเปนมี 1 ลำ

ส่วนเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์หรือบรรทุกเครื่องบินรบที่ขึ้นลงแนวดิ่งได้นั้น ญี่ปุ่นมี 4 ลำ ฝรั่งเศสมี 3 ลำ ออสเตรเลียและอียิปต์มีประเทศละ 2 ลำ แต่บราซิล เกาหลีใต้ และราชอาณาจักรไทยมีประเทศละ 1 ลำ

สาธารณรัฐประชาชนจีนที่โชว์กำลังทางเรือข่มขู่ไต้หวันและอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดก็ได้ใช้เรือบรรทุกเครื่องบินรุ่น 30 กว่าปีมาแล้ว 2 ลำเป็นหลักโดย กำลังสร้างใหม่อีกลำหนึ่งซึ่งจะใหญ่และทันสมัยกว่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีอยู่ทั้ง 2 ลำในปัจจุบัน และมีโครงการที่จะสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์อีกในอนาคตซึ่งหากจีนสามารถสร้างเรือบรรทุกขึ้นอีก 2 ลำตามที่วางโครงการไว้ เมื่อนั้นกำลังทางนาวีของจีนก็จะน่าเกรงขามอย่างแท้จริง

สำหรับญี่ปุ่นที่เป็นประเทศเกาะถูกคุกคามจากสาธารณรัฐประชาชนจีนที่เสริมสร้างกำลังทางนาวีขนานใหญ่โดยมีข้อพิพาทเรื่องเกาะกับญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออกและเกาหลีเหนือ ที่มักยิงขีปนาวุธมาตกในทะเลใกล้ญี่ปุ่นเป็นประจำ) และยังต้องระวังภัยจากรัสเซียที่ยังมีกรณีพิพาทเรื่องเกาะในหมู่เกาะคูรีลอยู่ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเรื่อยมา

ทางการญี่ปุ่นจึงได้มีโครงการที่จะดัดแปลงเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำคือ เรือเจเอส อิซุโมะ และเรือเจเอส คางะ (แบบเดียวกับเรือรบหลวงจักรีนฤเบศรของไทย) ให้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินประเภทขึ้นลงทางดิ่งและใช้ทางวิ่งสั้น (STOVL aircraft) เรือรบทั้ง 2 ลำนี้มีความยาว 814 ฟุต ระวางขับน้ำ 27,000 ตันถือเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่สุดของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นในปัจจุบัน

เรือเจเอส อิซุโมะจะเข้าประจำการเร็ววันนี้นับเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินรบลำแรกของญี่ปุ่นในรอบ 75 ปีภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเรือเจเอส คางะจะเข้าประจำการในปีหน้า โดยเรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้จะใช้เครื่องบิน F-35 Lightning II เครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่ 5 และยังเป็นเครื่องบินขึ้นลงทางดิ่ง ที่สามารถบินทะลุความเร็วเสียง และเป็นเครื่องบินแบบสเตลธ์ (ล่องหน- เรดาร์จับไม่ได้) รุ่นแรกที่ส่งขายออกนอกประเทศได้ซึ่งญี่ปุ่นสั่งซื้อแล้ว 40 เครื่อง

ส่วนทางการสาธารณรัฐประชนจีนได้ออกข่าวเย้ยหยันว่าการดัดแปลงเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินรบของญี่ปุ่นนั้นบรรทุกเครื่องบินรบได้เต็มที่เพียงลำละ 10 เครื่องเท่านั้นการดัดแปลงครั้งนี้เหมือนความพยายามที่จะสร้าง "กาให้เป็นนกฟีนิกซ์" ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งจีนสามารถถล่มเรือบรรทุกเครื่องบินของญี่ปุ่นให้อับปางลงด้วยขีปนาวุธ DF-26  ของจีนซึ่งมีพิสัยการยิงกว่า 40,000 กิโลเมตรอย่างง่ายดาย

ความจริงทางการญี่ปุ่นไม่ปรารถนาที่จะมีเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดมหึมาขนาดบรรทุกเครื่องบินรบได้ถึง 70 เครื่องเลย เนื่องจากสหรัฐอเมริกาพันธมิตรที่มีสนธิสัญญาการป้องกันร่วมกับญี่ปุ่นมีเรือบรรทุกเครื่องบินเหล่านี้เหลือเฟืออยู่แล้วหากแต่ญี่ปุ่นต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินเพื่อเป็นเรือธงนำกองเรือปราบเรือดำน้ำ ซึ่งตั้งแนวป้องกันยาวจากญี่ปุ่นไปถึงประเทศฟิลิปปินส์ต่างหาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook