มติครส.เพิ่มค่าครองชีพรัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) แถลงภายการประชุมครส. ว่า ที่ประชุมครส.มีมติให้ปรับขึ้นค่าครองชีพชั่วคราวแก่รัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) องค์การเภสัชกรรม (อภ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทร.) ให้กับพนักงานที่มีอัตราเงินดือนไม่เกิน 15,000 บาท ให้ได้รับอัตราเงินค่าครองชีพเพิ่มเดือนละ 2,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วต้องได้รับไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา และให้ใช้งบประมาณจากรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ตามมาตรา 13 (2) ของพ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 ทั้งนี้การเพิ่มเงินค่าครองชีพของรัฐวิสาหกิจทั้ง 7 แห่งจะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 782 ล้านบาท โดย กฟผ.เป็นหน่วยงานที่มีจำวนพนักงานได้รับค่าครองชีพมากที่สุด นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมครส. ยังมีมติเห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 59 แห่ง พิจารณาขอปรับเพิ่มเงินค่าครองชีพตามที่คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเห็นชอบเพื่อเสนอเข้าที่ประชมครส.อนุมัติต่อไป ทั้งนี้พนักงานรัฐวิสาหกิจทั้ง 59 แห่ง มีพนักงานเกือบ 6 หมื่นคน

ช