“เฟซบุ๊ก” เจ็บหนัก หลังบริษัทยักษ์ใหญ่แห่บอยคอต เหตุไม่แบน Hate Speech

“เฟซบุ๊ก” เจ็บหนัก หลังบริษัทยักษ์ใหญ่แห่บอยคอต เหตุไม่แบน Hate Speech

“เฟซบุ๊ก” เจ็บหนัก หลังบริษัทยักษ์ใหญ่แห่บอยคอต เหตุไม่แบน Hate Speech
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกประกาศยกเลิกการลงโฆษณากับเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง เพื่อประท้วงการอนุญาตให้เผยแพร่ข้อความที่สร้างความเกลียดชัง ความรุนแรง และการเหยียดสีผิว หรือเชื้อชาติ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าว โดยวันจันทร์ ที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา บริษัทฟอร์ด (Ford) ก็ออกประกาศยกเลิกการลงโฆษณาในเฟซบุ๊ก ซึ่งถือเป็นบริษัทล่าสุดที่ออกมาแสดงจุดยืน หลังจากที่บริษัทสตาร์บัคส์, โคคาโคล่า, ยูนิลิเวอร์ และอีกหลายบริษัทได้ประกาศยกเลิกสัญญาโฆษณากับเฟซบุ๊กไปก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า พวกเขาต้องการต่อต้านการแสดงข้อความที่สร้างความเกลียดชัง ขณะที่ บริษัทคลอเร็กซ์ได้ประกาศว่าจะเลิกการลงโฆษณาบนเฟซบุ๊กจนถึงเดือนธันวาคม

เฟซบุ๊กต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ยอมบล็อกหรือลบโพสต์ทางการเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กระทั่งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเฟซบุ๊ก ได้ออกมาประกาศในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีใจความว่า เฟซบุ๊กจะออกนโยบายแจ้งผู้ใช้เฟซบุ๊ก ในกรณีที่โพสต์นั้นอาจไม่ทำตามกฎการใช้งาน ขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น Anti-Defamation League, NAACP และ Color of Change ได้เริ่มแคมเปญ #StopHateFroProfit และเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ยกเลิกสัญญาโฆษณากับเฟซบุ๊กในช่วงเดือนกรกฎาคม และระบุว่า โซเชียลมีเดียไม่ควรทำเงินได้จากการคลั่งศาสนา การเหยียดสีผิว และความรุนแรง

สำหรับบริษัทเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของอินสตาแกรมด้วย มีรายได้จากการลงโฆษณาเป็นรายได้หลักของบริษัท ซึ่งปีที่แล้ว เฟซบุ๊กมีรายได้จากช่องทางดังกล่าวมากกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก มีความเชื่อว่าประชาชนควรมีสิทธิ์ได้รับรู้ความคิดเห็นของนักการเมือง ไม่ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะร้ายแรงมากแค่ไหน ขณะเดียวกัน ซักเคอร์เบิร์กก็ได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของทวิตเตอร์ ที่แจ้งผู้ใช้ทวิตเตอร์ว่าทวีตของประธานาธิบดีทรัมป์มีข้อความที่สร้างความเกลียดชัง อย่างไรก็ตาม ซักเคอร์เบิร์กไม่ได้กล่าวถึงการบอยคอตของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทในครั้งนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook