สามีเผยนาทีสลด สูญเสียเมียท้อง 5 เดือน "ถ้าเขาจอด ลูกเมียเราคงไม่ตาย"

สามีเผยนาทีสลด สูญเสียเมียท้อง 5 เดือน "ถ้าเขาจอด ลูกเมียเราคงไม่ตาย"

สามีเผยนาทีสลด สูญเสียเมียท้อง 5 เดือน "ถ้าเขาจอด ลูกเมียเราคงไม่ตาย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สามีหญิงท้อง 5 เดือนใจสลาย เผยนาทีสลด สูญเสียลูก-เมีย จวกช่างซ่อมรถตีนผี ถ้าจอด 2 ชีวิตคงไม่ต้องตาย ตร.ลั่นสาวไม่ได้เมาแล้วขับ 

กรณีรถเก๋งวอลโว่ ขับชนรถจักรยานยนต์ "นายธนายุทธ พุฒิเพ็ง" อายุ 19 ปี  สามี และ "น.ส.นาดียะห์ เดชะคำภู" หรือ "ป่าน" อายุ 21 ปี ที่ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน ทำให้ภรรยาและลูกในครรภ์เสียชีวิต เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย. ก่อนถึงบริเวณปากซอยสุวินทวงศ์ ขณะที่คนขับรถชนจะหลบหนีไป ล่าสุดเข้ามอบตัวกับตร. อ้างไม่ได้ตั้งใจ ที่หนีไปเพราะตกใจ 

รายการโหนกระแสวันที่ 24 มิ.ย. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ "นายธนายุทธ" สามีผู้ตาย ซึ่งมาพร้อม "แม่บี ชญานนท์ เลาะพึ่ง" แม่สามีผู้ตาย "ธนดล วรวงค์" พลเมืองดีที่ขับรถคันก่อเหตุไป และ "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร"

เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น?
ธนายุทธ : "วันที่ 21 ที่ผ่านมา ขี่รถกลับบ้าน 4 ทุ่ม ไปทานข้าวที่บ้านแม่แฟนมา พอขี่มาถึงสุวินทวงศ์ 28 อยู่ดีๆ ไฟสะท้อนกระจกรถมอเตอร์ไซค์ ผมก็นึกว่าเพื่อนแกล้ง เพราะเพื่อนอยู่แถวนั้นเยอะ สักพักก็ลอยเลย โดยชนท้าย เสียงรถไม่ได้ชะลอเลย" 

ตอนภรรยาซ้อน นั่งคร่อมแล้วเกาะ?
ธนายุทธ : "ใช่ครับ ชนจนผมกระเด็นลงมา แล้วผมหันหน้าไปทางรถเขาพอดี รถจะมาหา แต่ผมหมุนตัวออก หันไปเห็นแฟนอยู่บนฝากระโปรง รถมอเตอร์ไซค์อยู่ใต้รถเขา สักระยะ มอเตอร์ไซค์หลุด เขาพยายามเบรก แฟนผมก็กลิ้งตัวอยู่ใต้รถ เขาก็ทับ แล้วเร่งเครื่อง คนแถวนั้นเห็นก็รีบตามไป"

ตัวถูกชน รถเขาลากมอเตอร์ไซค์ ตอนแรกจะชนเราด้วย แต่เราหันไปมอง คุณพลิกตัวหนี ถ้าไม่พลิกก็ชนเลย?
ธนายุทธ : "ครับ เพราะตัวผมอยู่ตรงกับล้อเขาเลย"

ระหว่างผ่าน ก็เห็นแฟนอยู่บนฝากระโปรง?
ธนายุทธ : "ครับ รถมอเตอร์ไซค์ก็อยู่ด้านหน้า เขาลากไป แล้วขับออกไป เขาตีออกเลนขวาสุด จนมอเตอร์ไซค์ผมกระเด็นออกมา เขาพยายามเบรกแล้วแฟนผมกลิ้งออกมา เขาก็เร่งเครื่องทับ ผมก็ลากแฟนผมไป และวิ่งตามแต่วิ่งตามไม่ทัน แต่มีผู้หวังดีตามไป"

พี่ธนดล ผู้หวังดี วันนั้นที่เห็นคืออะไร?
ธนดล : "ผมมาจากหนองจอก ไปหาหลาน เขาวิ่งมาปกติ เลนขวา ผมก็เห็นเหมือนมีสิ่งของอยู่ข้างหน้าดำๆ ก็เห็นน้องเขาโบกรถอยู่ พอเห็นมอเตอร์ไซค์ล้มก็ตบซ้าย แล้วผมเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อถอยหลังมา แต่มีรถมาจ่อด้านหลังก็ไปดีกว่า ขับไปสักพักก็เจอรถคันที่ชน เป็นรถวอลโว่ 740 แต่ผมไม่รู้ว่าเขาชนมอเตอร์ไซค์ ผมไปใกล้ๆ เห็นล้อหลังเขาวิ่งกระโดดเหมือนท่อไอเสีย ผมด้วยความหวังดีก็แซงไปจะไปช่วยเขาโบก แต่เขาเร่งเครื่องหนี ผมก็ตามหลับไป แต่เขาเร่งเครื่องหนีใหญ่"

ยางหลังด้านขวาแตกไปแล้ว?
ธนดล : "ใช่ครับ เขาเร่งหนี ผมก็ตาม แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะรถเขาส่ายเสียการทรงตัวแล้ว แล้ววิ่งคร่อมเลน  ระหว่างเลน 2-3 จังหวะนั้นผมก็คิดว่าเขาจะขึ้นทางยกระดับแต่เขาไม่ขึ้น แล้วเขาก็ชนแท่นตูม เสียหลักแล้วแถไปชนฟุตปาธ มาจอดนิ่งตรงกลาง ผมก็จอดไฟฉุกเฉิน รอดูว่าเขาจะลงมามั้ย แต่เขาไม่ลงมา เขาไปต่อ ผมก็ขับตามเขาไป ตอนนั้นก็รู้แล้วว่ารถคันนี้ต้องชนมอเตอร์ไซค์แน่นอน เขาพยายามหนีตลอด ผมก็ขับตามไปเรื่อยๆ จนเข้าไปดูใกล้ๆ ไปจดทะเบียน และจังหวัด กระพริบไฟตามแต่เขาไม่จอด เขาก็ขับไปสภาพโครงเครง จนเขาเลี้ยวซ้ายเข้ารามคำแหง ผมก็ยูเทิร์นกลับไปจุดเกิดเหตุ เอาหลักฐานให้มูลนิธิ" 

ย้อนกลับมา ตอนรถคันนี้สะบัดแฟนตกลงมา ตอนนั้นมีคนเห็นมั้ยว่าเขาทับแฟนเราเลย?
ธนายุทธ : "มีรถตามมาทีหลัง ตอนนั้นรถน้อยมาก มีรถพี่เขาตามหลังมา ผมลากแฟนเข้าเพราะรถตามมาจะทับอีก เขาไม่รู้ด้านหน้ามีรถชน"

ตอนนั้นแฟนไม่รู้สึกตัวแล้ว?
ธนายุทธ : "มีครับ แฟนมีสติจนถึงรพ. เขาก็ปวดท้อง

ท้องกี่เดือน?
ธนายุทธ : "5 เดือน เป็นลูกคนแรก ผมเห็นทั้งหมดเลย ผมมีสติทุกอย่าง ผมหันไปมองรถ แฟนอยู่บนกระจก แล้วเขาก็ลากไป"

ตอนนั้นถ้าชายคนนั้นเบรก แล้วจอดลงมาดู?
ธนายุทธ : "ใช่ เขาเหยียบไปแรง แฟนผมเกาะอยู่หน้ากระจก"

ถ้าจอดแล้วลงมาดูทุกอย่างจบ ลูกเมียก็ไม่เสียชีวิต?
ธนายุทธ : "ใช่ นี่ไปเลย ไม่เอาใครเลย"

หลังจากนั้นกู้ภัยมา?
ธนายุทธ : "กู้ภัยเขาอยู่ใกล้ๆ หน้าปากซอยบ้านผม ตรงเขาไปชนรอบสอง และพาแฟนไปรพ.  เขาก็รู้สึกตัวไปยันรพ. คุยพูดรู้เรื่องทุกอย่าง เขาบอกแค่ปวดท้อง พอไปรพ. หมอเอาที่เอกซเรย์มาตรวจดูว่าลูกไปแล้ว พอถามว่าแม่จะรอดมั้ย หมอนิ่ง พอเที่่ยงคืนตาเริ่มลอย ซีด เย็นไปหมด หมอบอกว่าด้านในไปหมดแล้ว เพราะทับแรงมาก ล้อเขาแตก ที่โดนขึ้นไปกลางตัว หัวอยู่ใต้รถ"

ยางรถแตกหมดแล้ว เหลือแต่ล้อ?
ธนายุทธ : "ยางน่าจะแตกตอนลากมอเตอร์ไซค์ แล้วล้อหลังแตกทีหลัง ชนตอนสี่ทุ่มสิบ ภรรยาเสียตอนตีสอง สิบนาที"

แม่บีรู้เรื่องยังไงบ้าง?
แม่บี : "คุยกับน้องตอนสามทุ่ม ป่านส่งแชตมาให้ ส่งรูปพ่อมา ว่าอยู่กับพ่อ เราก็คุยกันว่าอยู่กับพ่อเหรอลูก พ่อผอมนะ ก็คุยกันตามประสา สักพักเขาหายจากแชต ก็คิดว่าคงกลับบ้านไปกินข้าว สักพักน้าเขาโทรมากระหน่ำว่าลูกถูกรถชน ลูกสะใภ้โดนทับท้อง พอรู้ตอนสี่ทุ่ม ทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่น ใจสั่น ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ทีนี้ก็ขับรถไม่ได้ จริงๆ ต้องรีบมาแต่มาไม่ได้  ก็รีบโทรหาสามี บอกว่าลูกประสบอุบัติเหตุ ตั้งแต่คืนนั้นพอไปอยู่รพ. จนมาอยู่กับแม่ป่าน แม่ป่านเขาไม่รับรู้เลย เขาแย่ เขาช็อก เราต้องอยู่กับเขาจนย้ายมานวมินทร์ 1 แล้วย้ายมานวมินทร์ 9 เพื่อเอ็กซเรย์ ก็มากับแม่ป่าน"

ธนายุทธ : "ตอนอยู่รพ. หมอบอกว่าไม่ไหวแล้ว จะตายแล้ว พูดอยู่สามครั้งแล้วเงียบ"

แม่บี : "ตอนม๊ะมาถึงเขาบอกให้แจ้งความก่อน พอไปดูลูกสะใภ้เห็นเท้าเขาเหลือง ก็ถามว่าทำยังไงต่อ นั่นแหละไปนวมินทร์ 9 ช่วง 20 นาทีได้ยินเขาเรียกตามสายว่าซีพีอาร์ห้องนี้ด่วน ตอนนั้นก็เริ่มแล้ว หมอเดินออกมาเขาบอกว่าไม่น่ารอดนะ ก็บอกว่าให้เอาเต็มที่ เพราะรู้ว่าหลานไปแล้ว เอาแม่ไว้ เขาก็นิ่งไป สักพักความดันต่ำ ก็ช่วยกันเรียก ขออัลเลาะห์เรียกกลับบ้าน เขาก็กลับมานะ มีสัญญาณชีพ เดี๋ยวจะรีบเอากลับนวมินทร์ 1 ยื้อให้ถึงที่สุด พอไปถึงนวมินทร์ 1 เสียงเรียกซีพีอาร์ก็มาอีก ตอนนั้นลูกก็ช็อก พอได้ยินคำว่าไปแล้ว ทุกอย่างแทบทรุด (ร้องไห้)"

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูลักษณะเมาหรือเปล่า?
รณณรงค์ : "อย่างแรกเลยมีสติระดับหนึ่ง ไม่งั้นหนีไม่ได้ การชนบนท้องถนนเป็นอุบัติเหตุ ไม่ตั้งใจ แต่การหลบหนีคือความตั้งใจ โชคดีที่ทะเบียนรถคันนี้ไม่ใช่ของปลอม ไม่งั้นหายไปแล้ว"

การที่เขาไม่จอดรถลงมาช่วย ถือว่าเจตนามั้ย?
รณณรงค์ : "ผมไม่รู้ว่าในรถคุณเมาหรือไม่เมา หรือมีอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า ทำไมถึงต้องหนีขนาดนั้นเหมือนกลัวมากๆ ต้องบอกอย่างหนึ่งกฎหมายเมืองไทย อุบัติเหตุในเมืองไทย ขึ้นศาลได้ มีเหตุบรรเทาโทษ แต่ถ้าคุณตั้งใจหนีคือความเจตนา ไม่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างมาก"

เขาจะสู้ถึงไหน?
รณณรงค์ : "อย่างแรกเขาคงสู้ว่าไม่ได้เมา แค่หนี ไม่ได้เมา"

คนชนชื่อ "กาวิน สาธร" ช่างซ่อมรถ เมื่อวานตร.บุกไปถึงที่บ้าน เจอภรรยาเขา ภรรยาก็บอกว่าสามีเป็นเจ้าของรถวอลโว่คันนี้ แต่วันที่เกิดเหตุ สามีกลับไปบ้าน รถไม่ได้ไปด้วย วันนี้ไปมอบตัวว่าตกใจเลยไปตั้งหลัก?
รณณรงค์ : "เรื่องตกใจ ต้องจอดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเพื่อช่วยเหลือ แต่ทีนี้การถอยไปแบบนี้ ตัวเองอาจมีความรู้ด้านกฎหมายเลยหนีออกไปก่อน ซึ่งพอหนีออกไปก่อน การวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ วัดว่ามีการสารเสพติดตัวอื่นหรือเปล่ามันก็ทำไม่ได้ ทำให้ข้อหาเหล่านี้ไม่สามารถตั้งฟ้องได้"

อยู่ในสายกับ "พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์" ผกก. สน.มีนบุรี เมื่อเช้าเขาไปมอบตัวเอง ?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "ใช่ครับ ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวพร้อมทนายความเมื่อเช้า เขาเข้ามาก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนชนในวันเกิดเหตุ เขาบอกเขาตกใจเลยขับหนี จอดรถทิ้งไว้ในซอยเลยบางชัน แล้วนั่งรถแท็กซี่เข้าบ้านไป บ้านเขาอยู่ซอยสวนสยาม เขาให้การแบบนี้" 

ที่เขาบอกหลบหายไป เขาหลบไปไหน เขาเมามั้ย?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "เรื่องเมาเขาให้การว่าเขาไม่ได้เมา ซึ่งถ้าจะตรวจสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ ตอนนี้ก็ตรวจไม่พบเพราะหลายวันแล้ว ก็เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาว่าเขาไม่เมา เขากล่าวมาแบบนี้"

สามารถสาวไปถึงได้มั้ยหรือไม่ได้เลย?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "ไม่ได้ครับ ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ตรวจแล้วไม่พบ แต่ถ้าสารเสพติดจะตรวจพบได้อยู่ครับ"

เขาทราบใช่มั้ย น้องผู้หญิงกระเด็นไปตกฝากระโปรง เขาเองก็ไม่หยุดมีการสะบัดให้ผู้หญิงตก แล้วทับซึ่งยางล้อแตกไปแล้ว?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "จากการให้ปากคำของผู้ต้องหา เขาบอกยางแตกก่อน แล้วขับรถมาชน แต่เขาบอกว่าเขามองไม่เห็น เราก็รับฟังในคำให้การผู้ต้องหาตามที่เขาจะให้การได้ในส่วนของเขา ในส่วนเจ้าหน้าที่ตร. เราก็รวบรวมหลักฐาน พยานบุคคล ภาพวงจรปิด เอามาประกอบเพื่อเสนอในศาลให้พิจารณาต่อไป เขาจะให้การยังไงก็ได้ แต่ก็อยู่ที่พยานของเรา" 

มีการสอบได้มั้ยก่อนหน้านี้เขาไปไหนยังไง?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "เขาบอกเขาไปหาเพื่อน แต่เขาบอกเขาไม่ได้ดื่ม ตรงนี้ต้องไปดูกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องอยู่ที่การตรวจวัดแอลกอฮอล์ ว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกฎหมายกำหนดหรือเปล่า แต่มันตรวจไม่ได้"

คงดำเนินคดีให้ถึงที่สุด?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "ครับ ก็ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทุกข้อหา เราแจ้งทุกข้อหา เราดำเนินคดีเต็มที่"

รถมีประกันมั้ย?
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ : "รถไม่มีประกัน ขาดต่อปี 60 พรบ.ก็ไม่มี รถไม่ได้โอนมาเป็นของเขา โอนลอยมาครับ" 

รณณรงค์ : "มีการอ้างว่ายางแตก เป็นการพยายามอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เมาด้วย"

คิดว่ายางเขาแตกมาก่อนมั้ย?
ธนายุทธ : "ไม่ครับ คิดว่าเขาแตกตอนทับมอเตอร์ไซค์ผม"

แม่บีบอกว่าสภาพศพน้องมีแต่รอยล้อ?
แม่บี : "ใช่ ความจริงไม่อยากลงรูปแบบนั้น แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เรียกร้องความเป็นธรรม บางคนบอกว่าตอนอยู่ในคลิปน้องยังมีสติ ทำไมไม่รีบ ทำไมมัวแต่คุย แต่อยากบอกว่าบางทีเขาก็ดำเนินการตามแผน เขาไม่สามารถยกได้ เขาต้องรอกู้ภัยมายก แต่อยากให้เห็นว่าที่น้องเขาเสีย มีแต่รอยที่ท้องเขา แล้วเขาไม่ใช่คนเดียว เขาสองชีวิตนะคะ" 

วันขับรถตามเขาไป คิดว่าเขาเมามั้ย?
ธนดล : "สภาพตอนนั้น รถเขาเสียการทรงตัว ผมก็ไม่แน่ใจว่าเมาหรือไม่เมา เพราะรถเขาโยนอยู่แล้ว ล้อหลังโยน ด้านหน้าก็ส่าย"

สภาพการจากมุมมองพี่เอง อยู่ดีๆ รถล้อแตก ยางแตก วิ่งไป คิดว่าคนดีๆ จะหยุดมั้ย?
ธนดล : "เขาต้องหยุดนะครับ การขับรถถ้ายางระเบิด ยางรั่วต้องจอด แต่นี่เขายังหนีผมไป ผมถึงคิดว่าคันนี้ต้องชนมอเตอร์ไซค์แน่" 

ลักษณะแบบนี้น่าจะโดนหลายข้อหามั้ย?
รณณรงค์ : "นี่โดนเบานะ เขาคงรู้กฎหมาย เขาหนีเพื่อจะได้ไม่ต้องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ชนคนตายแล้วหลบหนี โดนแค่ 6 เดือน แต่ถ้ามีเรื่องเมาด้วย แล้วชนคนเสียชีวิตด้วย โทษหนักไปอีก แล้วการที่คุณขับรถไม่มีประกัน พรบ. เลยเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก เพราะไม่รู้ฝ่ายนี้จะได้รับการเยียวยาหรือเปล่าด้วยซ้ำ"

ถ้าต้องขึ้นศาลพร้อมเป็นพยาน?
ธนดล : "ครับผม สงสารครับ"

สุดท้ายอยากบอกอะไร?
ธนายุทธ : "ทำใจยากครับ"

แม่บี : "ม๊ะพูดเอง เอาให้ถึงที่สุด มันไม่ได้เสียแค่ลูกม๊ะ ลูกสะใภ้ ครอบครัวน้องผู้หญิงเขาก็สูญเสียแต่เขายังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย ตอนนี้เขาคงพูดไม่ได้เต็มที่ เพราะจิตใจเขากำลังพังอยู่ ขอพูดแทนละกัน ถึงป่านจะเป็นแค่ลูกสะใภ้ แต่เรารักเหมือนลูกคนนึง หลานอีก ไม่มีใครยอมแน่นอน ป่านเป็นเด็กน่ารัก ทุกคนรักป่านมาก ทุกคนเสียใจมาก ทุกคนบอกว่าเต็มที่ รอวันมาขอขมา รอ"

เห็นว่าอยากเจอหน้ากาวินมาก เดี๋ยวไปมั้ย?
แม่บี : "ไปค่ะ" 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook