ราชทัณฑ์ประหาร2นักโทษคดียาเสพติดวันนี้
โดยขั้นตอนก่อนประหารชีวิตหลังฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษตกมายังกรมราชทัณฑ์ เรือนจำจะปกปิดเป็นความลับจนกว่าจะเก็บนักโทษทั้งหมดเข้าเรือนนอนในเวลา 15.30 น. จากนั้นเรือนจำจะเบิกตัวนักโทษที่ต้องรับโทษประหารชีวิตออกมาและแจ้งให้ทราบถึงผลฎีกาเพื่อให้เขียนพินัยกรรมสั่งเสียหรือให้โทรศัพท์สั่งเสียกับญาติพี่น้องก่อนประหารชีวิต 1 ชั่วโมง จากนั้นเรือนจำจะจัดอาหารมือสุดท้ายให้แก่นักโทษ นิมนต์พระสงฆ์วัดบางแพรกใต้เข้ามาแสดงธรรม เมื่อถึงเวลาจะนำนักโทษประหารขึ้นรถและนำตัวเข้าสู่แดนประหาร ซึ่งก่อนเข้าสู่แดนประหารผู้คุมจะนำนักโทษเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อเจตตคุปต์และกราบไหว้ต้นโพธิ์ 3 ต้น หน้าแดนประหาร จากนั้นจะนำตัวนักโทษเข้าสู่ห้องฉีดสารพิษและปิดตานักโทษด้วยผ้าดำ รวมทั้งให้นักโทษถือดอกไม้ธูปเทียนและหันหน้าไปทางวัดบางแพรกใต้ที่อยู่ติดกับแดนประหาร สำหรับขั้นตอนในแดนประหาร เรือนจำจะยังคงล่ามโซ่ตรวนไว้และให้นักโทษนอนบนเตียงประหารชีวิต ซึ่งมีผ้าขาวสำหรับห่อศพวางรองอยู่ และทำการขึงแขนนักโทษให้ติดกับเตียงทั้ง 2 ข้างในท่ากางแขน และนำเข็มฉีดยาปักไปที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง และทำการฉีดยาจำนวน 3 เข็ม เข็มที่ 1 คือยานอนหลับ เข็มที่ 2 เป็นยาคลายกล้ามเนื้อ และเข็มที่ 3 คือยาหยุดการเต้นของหัวใจ โดยขั้นตอนการฉีดยาประหารชีวิตจะใช้เวลาประมาณ 25 นาที จากนั้นแพทย์และคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทนอัยการจังหวัด ผู้กำกับกาานีตำรวจ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้แทนกรมราชทัณฑ์ จะตรวจสอบว่านักโทษประหารเสียชีวิตตามคำพิพากษา จากนั้นนำศพนักโทษบรรจุในโลงเย็น ซึ่งมีความเย็น "18 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ก่อนจะให้แพทย์ตรวจเป็นครั้งสุดท้าย และให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลในวันรุ่งขึ้น สำหรับนายบัณฑิต เจริญวานิช และนายจิรวัฒน์ พุ่มพฤกษ์ กับพวกอีก 3 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมเมื่อวันที่ 29 มี.ค. พ.ศ. 2544 พร้อมของกลางยาบ้า 114,219 เม็ด ต่อมาศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิตนายบัณฑิต และนายจิรวัฒน์ คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มีมติให้ยึดอายัดทรัพย์สินของนายบัณฑิต และนายจิรวัฒน์ จำนวน 73 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 41,666,289 บาท