สบน.เผยหนี้สาธารณะเดือนมิ.ย.ลด

วันนี้(21 ส.ค.) นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา มียอดหนี้สาธารณะคงค้าง 3.831 ล้านล้านบาท หรือ 43.385% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลง 2,796 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2.466 ล้านล้านบาท ลดลง 11,446 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน205,889 ล้านบาท ลดลง 2,077 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 102,020 ล้านบาท ลดลง 3,173 ล้านบาท ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.052 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,900 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 3,755 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลง

นายพงษ์ภาณุ กล่าวต่อว่า หนี้สาธารณะคงค้างที่ลดลงนั้น เกิดจากการลดระดับตั๋วเงินคลังลง 16,000 ล้านบาท เพื่อปรับระดับดุลเงินสดให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดรับ-จ่ายของรัฐบาล ประกอบกับรัฐบาลได้ออกพันธบัตรรัฐบาลปรับโครงสร้างหนี้ 21,000 ล้านบาท นำเงินไปทยอยชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในเดือน พ.ค. อีกทั้งได้ออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 9,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ไถ่ถอนพันธบัตร 3,000 ล้านบาท และออกพันธบัตร 1,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูฯ ซื้อคืนพันธบัตรฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน สำหรับหนี้ที่เพิ่มขึ้นนั้น ที่สำคัญเกิดจากการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ออกพันธบัตร 3,782 ล้านบาท

สำหรับหนี้สาธารณะดังกล่าว แยกเป็นหนี้ต่างประเทศ 377,974 ล้านบาท หรือ 9.87% หนี้ในประเทศ 3.453 ล้านล้านบาท หรือ90.13% เป็นหนี้ระยะยาว 3.377 ล้านล้านบาท หรือ 88.15% และหนี้ระยะสั้น 454,126 ล้านบาท หรือ 11.85% ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง.