กทม.วอนคนเมืองกรุงอย่าตระหนกสถานการณ์น้ำท่วมจากสภาะโลกร้อน ยืนยันมีความพร้อมรับมือได้
นายประกอบ กล่าวถึงข้อเสนอที่ว่าให้เพิ่มความสูงของเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 50 เซนติเมตร รวมถึงการสร้างคันกั้นน้ำนั้น คงต้องนำประเด็นดังกล่าวพิจารณากับคณะทำงานของสำนักการระบายน้ำ(สนน.)อีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นต้องพิจารณาตามความเหมาะสม อาทิ เขื่อนกั้นน้ำเจ้าพระยามีความสูงเฉลี่ย 2.5 เมตร หากจะสร้างเพิ่มอีก 50 ซม. นั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ หากพิจารณาตามโครงสร้างฐานรากของเขื่อน เพราะหากสร้างสูงกว่านั้นประชาชนที่อยู่หลังเขื่อนจะได้รับความเดือดร้อน รวมไปถึงนำข้อมูลระดับน้ำสูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมานำมาวิเคราะห์ ซึ่งหากพบว่าในอนาคตระดับน้ำในแ้ำเจ้าพระยาสูงเกินระดับเขื่อน อาจจะมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น นำกระสอบทรายเสริมความสูงให้กับเขื่อน เป็นต้น
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่าตนคาดว่าช่วงปลายปี 2552 นี้ หากสถานการณ์ฝนตกไม่มีพายุเกิดขึ้น ระดับน้ำทะเลไม่หนุนสูง กทม.น่าจะรับมือกับสถานการณ์ได้ ทั้งนี้จากรายงานของสนน.เรื่องปริมาณฝนตกในเดือนสิงหาคมพบว่ามีปริมาณ 93 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับสถานการณ์รอบ 30 ปีที่ คือ 114.2 มิลลิเมตร แม้การรายงานปริมาณน้ำฝนจะไม่ถึงขั้นวิกฤต กทม.ก็ได้เตรียมรับมือเบื้องต้น คือ พร่องน้ำในคลองแสนแสบ และคลองอื่นๆ รวมไปถึงระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เพื่อเตรียมการหากมีฝนตกในปริมาณมากก็จะสามารถระบายลงคลองได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับการระบายน้ำออกสู่ทะเลนั้น กทม.ได้คำนึงถึงประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งด้วย เนื่องจากหากระบายน้ำจืดออกสู่ทะเลมากเกินไป ก็อาจกระทบต่อการประมงชายฝั่งได้