ก.พ.ค.ย้ำพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อปฏิรูปการพิทักษ์ระบบคุณธรรมในภาคราชการ พร้อมแนะบันไดสู่ความสำ

ก.พ.ค.ย้ำพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อปฏิรูปการพิทักษ์ระบบคุณธรรมในภาคราชการ พร้อมแนะบันไดสู่ความสำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ก.พ.ค. ย้ำ พร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อปฏิรูปการพิทักษ์ระบบคุณธรรมในภาคราชการ พร้อมแนะบันไดสู่ความสำเร็จของผู้นำ โดยระบุว่า ควรค้นหาต้นแบบที่ดี และต้องเร่งสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ นายศราวุธ เมนะเศวต ประธานคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กล่าวระหว่างการประชุมสัมมนา เรื่อง "ผู้นำภาคราชการที่ประสบความสำเร็จและการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ซึ่งจัดโดยสมาคมนักเรียนทุนรัฐบาลไทย ร่วมกับคณะกรรมการ ก.พ.ค. และสำนักงาน ก.พ. ณ หอประชุมสุขุมนัยประดิษฐ์ สำนักงาน ก.พ. จ.นนทบุรี เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ ก.พ.ค. ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบด้วย 3 สถานภาพ คือ 1.เป็นองค์กรอิสระจากฝ่ายบริหาร 2.เป็นศาลปกครองชั้นต้น และ 3.เป็นองค์กรที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยการทำงานของ ก.พ.ค. จะยึดหลักสำคัญตามระบบคุณธรรม ประกอบด้วย 1.หลักความรู้ความสามารถ 2.หลักความเสมอภาคในโอกาส 3.หลักความเป็นกลางทางการเมือง และ 4.หลความมั่นคง ในการรับราชการ ทั้งนี้ ยืนยันว่า คณะกรรมการ ก.พ.ค. ทั้ง 7 คน จะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในระบบราชการ โดยล่าสุดยังอยู่ระหว่างรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ ประจำปี พ.ศ. 2552 เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ และวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ รวมทั้งปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมายจาก ก.พ.ค. จำนวน 14 ตำแหน่ง ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ 25 สิงหาคม ศกนี้ โดยดูรายละเอียดได้ทาง www.ocsc.go.th ขณะที่นางจรวยพร ธรณินทร์ กรรมการ และโฆษก ก.พ.ค. กล่าวบรรยายในหัวข้อ "ประสบการณ์ผู้บริหาร/ผู้นำภาคราชการที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ว่า การที่ผู้บริหารและผู้นำ ภาคราชการจะประสบความสำเร็จสูงสุดได้ ควรเริ่มจากการค้นหาต้นแบบที่ดี จากนั้นจึงสร้างผลงาน โดยเข้าใจสถานภาพของตนเอง เนื่องจากคนที่จะเป็นผูนำได้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้หน้าที่ของตนอย่าง ถ่องแท้ นอกจากนี้ ผู้นำต้องมีวิสัยทัศน์ และหมั่นเสริมศักยภาพให้กับตัวเอง รวมทั้งต้องรู้จักสร้างเครือข่าย กระจายงาน กระจายคน ฝึกทักษะการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี และที่สำคัญต้องปฏิบัติตนอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและกฎหมาย รวมถึงต้องรู้จักสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเองอยู่เสมอ ส่วนนายสมโภชน์ นพคุณ รองเลขาธิการ ก.พ. กล่าวในหัวข้อ "บทบาทและคุณลักษณะผู้นำต้นแบบที่ดี โดยได้แนะให้ศึกษาจากโฆษก ก.พ.ค. เป็นต้นแบบ เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ ก.พ.ค. จะทำให้ระบบคุณธรรมในภาคราชการนับจากนี้ มีการพัฒนาในทิศทางที่ดียิ่งๆ ขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook