ผู้นำเกาหลีเหนือ-ผู้นำโลก แสดงความเสียใจคิมแดจุงตาย
รายงานข่าวระบุว่า อดีตประธานาธิบดีคิม แด จุง เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ใช้เวลาหลายสิบปีต่อสู้กับบรรดารัฐบาลเผด็จการทหารของเกาหลีใต้ ในที่สุดเขาได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีระหว่างปี 2541-2546 และเขาได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสองเกาหลีกับนายคิม จอง อิล เมื่อปี 2543 ซึ่งทำให้เขาได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีเดียวกัน
นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ผู้เคยเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ยกย่องนายคิม แด จุง ผู้อุทิศตนเพื่อสันติภาพ ประชาธิปไตย และความรุ่งเรืองของคาบสมุทรเกาหลี และว่าเขาสร้างแรงบันดาลใจให้คนหลายล้านคนจากความมุ่งมั่นที่จะรวมชาติเกาหลีภายใต้นโนบายตะวันฉาย (sunshine policy) ของเขา
ขณะที่ ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์แสดงความเสียใจในนามชาวอเมริกันต่ออดีตผู้นำเกาหลีใต้ ผู้ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นแชมเปี้ยนผู้กล้าหาญทั้งด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งมีความพยายามอันไม่เหน็ดเหนื่อยที่จะสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ผู้ปกครองสหรัฐในช่วงเดียวกับอดีตประธานาธิบดีคิม แด จุง และเพิ่งเดินทางไปกรุงเปียงยางในเดือนนี้เพื่อช่วยปลดปล่อยสองผู้สื่อข่าวหญิง ได้ยกย่องว่านโยบายตะวันฉายของนายคิม เพิ่มความหวังที่จะเกิดสันติภาพอันยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี ยิ่งกว่าช่วงเวลาอื่นใดนับจากสงครามเกาหลีระหว่างปี 2493-2496 นายคิม แด จุงเป็นผู้นำที่กล้าและมีวิสัยทัศน์ ผู้นำประเทศเกาหลีใต้ให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจอันร้ายแรง แผ้วถางทางไปสู่สันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลก และสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ