ปุระชัยเบิกความไม่ได้สมคบทำผิดหวยบนดินเผยถูกแม้วซัดเอาดีใส่ตัว

ปุระชัยเบิกความไม่ได้สมคบทำผิดหวยบนดินเผยถูกแม้วซัดเอาดีใส่ตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 สิงหาคม ที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายสบโชค สุขารมณ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) พร้อมองค์คณะ 9 คน ได้ไต่สวนพยานจำเลย คดีหมายเลขดำ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (จำหน่ายคดีชั่วคราว) จำเลยที่ 1 อดีตคณะรัฐมนตรีชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2-30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐานร่วมกันทำผิดยักยอกทรัพย์ เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,152,153,154,157 และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3,4,8,9,10 และ 11 โดย ป.ป.ช. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินที่มีมติอนุมัติให้จ่ายไปรวมจำนวน 14,862,254,865.94 บาท ให้แก่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จำเลยที่ 28 ขึ้นเบิกความสรุปว่า ได้เข้าประชุม ครม.จริง แต่ไม่ได้ร่วมพิจารณาในขณะที่ ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการ และอนุมัติให้ดำเนินโครงการหวยบนดิน เพียงแต่ทราบว่าโครงการดังกล่าวนำเงินไปช่วยการศึกษาของเด็กยากไร้หลายแสนคน แต่ไม่ทราบว่ารายได้จากการจำหน่ายสลากไม่ได้นำส่งเข้ากระทรวงการคลัง

ภายหลังเบิกความเสร็จ ศาลสอบถามคุณหญิงสุดารัตน์ ว่า มีปัญหาสุขภาพหรือไม่ เนื่องจากไอเป็นระยะ ศาลได้รับคำตอบว่า เป็นหวัดนิดหน่อย ศาลถามต่อไปว่า มีโครงการที่จะไปรักษาตัวต่างประเทศหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า ไม่มี ผู้เข้าฟังการพิจารณาถึงกับหัวเราะเล็กน้อย ศาลถามอีกว่า เมื่อศาลนัดฟังคำพิพากษาวันใด ก็สามารถเดินทางมาฟังได้ใช่หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่าได้

ต่อมา ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 6 ขึ้นเบิกความสรุปว่า ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวหาว่า พยานร่วมหรือสมคบกับคณะรัฐมนตรี สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ไม่เป็นความจริง แม้เข้าร่วมประชุม ครม. แต่ไม่ได้ร่วมลงมติอนุมัติโครงการหวยบนดิน 2 และ 3 ตัว เพราะไปประชุมเรื่องอื่น และไม่ทราบว่าจะมีวาระเข้าสู่การพิจารณา เพราะไม่ได้ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง โดยมาทราบหลังจากหนังสือเวียนว่าเป็นสลากการกุศล มีวัตถุประสงค์นำเงินรายได้คืนสู่สังคม นำไปช่วยเด็กยากไร้ทางการศึกษา โดยการให้เขียนเรียงความ มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์พิจารณาอนุมัติ ซึ่งพยานไม่เกี่ยวข้องกับกรรมการยุทธศาสตร์ จึงไม่มีส่วนได้เสียกับการอนุมัติ และไม่เคยทุจริต อีกทั้งเงินรายได้ก็ไม่ได้นำเงินไปใช้ในการประชุม ครม.

ร.ต.อ.ปุระชัย เบิกความอีกว่า สมัยร่วมรัฐบาลเคยถูกปรับ ครม. โดยไม่ทราบสาเหตุถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นรองนายกรัฐมนตรี โดยพยานไม่เคยสอบถาม พ.ต.ท.ทักษิณ จนกระทั่งมาทราบสาเหตุที่ถูกย้าย เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2546 พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกพยานและคณะทำงานเข้าไปตำหนิทำนองว่า เมื่อไปมอบนโยบายหรือตรวจราชการต่างจังหวัด พยานไม่ให้ความสำคัญที่จะพูดถึงผลงานของพรรคไทยรักไทย และหัวหน้าพรรค ทำงานเอาแต่ความดีใส่ตัว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะพยานทำไปเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ จึงคิดว่าคงจะไม่สามารถร่วมงานกับรัฐบาลได้อีกต่อไป แต่เหตุที่ไม่ลาออกเนื่องจากมีผู้ใหญ่ที่เคารพขอร้องให้อยู่จนครบวาระแล้ว กระทั่งขอลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค และไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป พยานจึงไม่ได้ร่วมสมคบกันกับ ครม.กระทำผิดคดีนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook