เร่งวางกรอบหนี้สาธารณะปี 53

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับหนี้สาธารณะว่า ที่ประชุมได้วางกรอบการบริหารหนี้ภาครัฐปีงบประมาณ 53 วงเงิน 1.6 ล้านล้านบาท โดยมีแผนกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 350,000 ล้านบาท เป็นการกู้เงินใหม่ 850,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการกู้เพื่อบริหารจัดการหนี้ ซึ่งรวมการกู้เงินตามพ.ร.ก. 400,000 ล้านบาท และกู้เงินจากต่างประเทศเผื่อไว้แล้ว แต่ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 53 จะไม่กู้เงินเพื่อชดเชยเงินคงคลัง เพราะชดเชยไปแล้วในปีงบประมาณ 52 และจะกู้เงินเพื่อชดเชยเงินคงคลังอีกครั้งในปีงบประมาณ 54

พร้อมกันนี้ได้มอบนโยบายให้สกบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จัดทำกรอบการบริหารหนี้ปีงบประมาณ 53 ให้ลดลงจากเดิม เนื่องจาก กระทรวงการคลังได้ทบทวนแผนการก่อหนี้ต่างประเทศใหม่ ซึ่งลดลงจากแผนเดิม ทั้งในระดับโครงการและระดับนโยบาย มีผลทำให้แผนการก่อหนี้ภาครัฐลดลงด้วย เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ยัง ไม่จำเป็นต้องใช้เงินกู้ต่างประเทศ โดยในส่วน ของรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินนั้น ได้แจ้งไปยัง กระทรวงคมนาคมแล้วว่า ให้เริ่มดำเนินการได้โดยจัดหาแหล่งเงินกู้ในประเทศให้แล้ว เพราะขณะนี้สภาพคล่องของระบบในประเทศยังมีสูงมาก ซึ่งจะมีผลต่อการลดแรงกดดันค่าเงินบาทด้วย

ที่ประชุมได้ทบทวนแผนบริหารหนี้สาธารณะใหม่ หลังจากประเมินภาวะเศรษฐกิจและความ จำเป็นในการใช้เงินกู้อีกครั้ง โดย สบน. ประเมินว่าหนี้สาธารณะสูงสุดต่อจีดีพีปี 57 จะลดลงจากที่คาดไว้ 61% เหลือ 57% ภายใต้สมมุติฐานเดิม คือเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวปลายปีนี้ ก่อนขยายตัวเป็นบวกปีหน้า 2.5% ต่อเนื่องถึงปี 57 ที่ 4.5-5% เงินเฟ้อที่ 3.5% ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าเงินเฟ้อที่คาดไว้นั้นสูงเกินไป และต้องการดูแลให้ต่ำกว่านี้.