ขู่ฟ้องรัฐ-อ้างเมินป้องสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กรรมการผู้อำนวยการสมัชชาองค์กรเอกชน ด้านการคุ้มครอง สิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เปิดเผยว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงถึงปัญหาการบังคับใช้มาตรา 67 ของรัฐธรรม นูญ ในเรื่องผลกระทบที่รุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ว่า ครม. ได้รับทราบการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกา และได้เร่งเดินหน้าเรื่องการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติตามมาตรา 67 ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมาย ที่จะต้องจัดตั้งองค์การอิสระด้าน สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ทั้งนี้เพื่อให้เรื่องของการอนุมัติใบอนุญาตโครงการที่ยังค้างอยู่ในกระทรวงอุตสหกรรมซึ่งมี เม็ดเงินกว่าแสนล้านบาทเดินหน้าต่อไปได้จึงต้องเร่งออกระเบียบดังกล่าวมาใช้ก่อนที่จะมี พ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หากหน่วยงานภาครัฐมีการดำเนินการโดยยังไม่มี พ.ร.บ.ออกมาตามความเห็นของคณะกฤษฎีกา ทางสมาคมฯ ได้เตรียมทนายความด้านสิ่งแวดล้อมไว้แล้วกว่า 20 คน ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ทางปกครองและหน่วยงานของรัฐที่ลงนามอนุมัติให้ใบอนุญาตโครงการประเภทรุนแรงทั่วประเทศ เพราะเห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 อีกด้วย

การตีความตามคำวินิจฉัยของคณะกรรม การกฤษฎีกา ไม่ใช่ข้อยุติทางกฎหมาย เพราะกฤษ ฎีกาเป็นเพียงแค่หน่วยงานให้คำปรึกษาของรับาล การตีความอาจจะเข้าข้างรัฐบาลได้ เพราะในอดีตที่ผ่านมาการตีความของกฤษฎีกาก็เคยมีความเห็นที่ขัดหรือแย้งต่อคำพิพากษาของศาลฎีกาหรือศาลปกครองสูงสุด ดังนั้นหากหน่วยงานที่มีอำนาจในการอนุญาตต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนก็พร้อมที่จะพิสูจน์เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในมาตรา 67 วรรคสาม เช่นกันที่ว่า สิทธิของชุมชนที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัตินี้ย่อมได้รับการคุ้มครอง นายศรีสุวรรณ กล่าว.