รวบ "ซ้อบี เจ้าแม่แชร์ร้อยล้าน" หลอกลงทุนแชร์-เล่นพนันออนไลน์

รวบ "ซ้อบี เจ้าแม่แชร์ร้อยล้าน" หลอกลงทุนแชร์-เล่นพนันออนไลน์

รวบ "ซ้อบี เจ้าแม่แชร์ร้อยล้าน" หลอกลงทุนแชร์-เล่นพนันออนไลน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(9 พ.ค.) กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.สุพิชญา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี กระทำผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นจับกุมได้ที่คอนโดในซอยสุขุมวิท 48 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 มี.ค.63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กกก.3 บก.ป. ได้จับกุมตัว น.ส.สุพิชญา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยพฤติการณ์การกระทำผิดในครั้งนั้น ผู้ต้องหาได้ตั้งกลุ่มแชร์ชื่อ ซ้อบีชักชวนผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุน อ้างว่าจะได้รับผลกำไรตอบแทนสูง, หลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาไปทำงานต่างประเทศ และหลอกลวงผู้เสียหายทางออนไลน์ ให้มาลงทุนส่งออกหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ไปขายที่ต่างประเทศ

ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาประกันตัวออกมานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า น.ส.สุพิชญา ยังคงมีพฤติการณ์หลอกลวงบุคคลอื่น โดยใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนเล่นแชร์, เล่นพนันหวยออนไลน์, เล่นพนันบอลออนไลน์ โดยในครั้งนี้ผู้ต้องหาได้ให้บุคคลอื่นมาทำธุรกรรมต่างๆ แทนตนเอง ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนอีกเป็นจำนวนหลายราย

ตำรวจจึงได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ได้มาเช่าห้องอยู่ที่คอนโดในซอยสุขุมวิท 48 เพื่อเป็นสถานที่พักอาศัยและดำเนินกิจการในการรับแทงหวยออนไลน์, พนันบอลออนไลน์, การเล่นแชร์ต่างๆ โดย น.ส.สุพิชญา จะไม่ออกจากห้องพัก แต่จะให้บุคคลอื่นซื้อเครื่องดื่มและอาหารเข้ามาส่งเป็นประจำ

ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว น.ส.สุพิชญา ยินยอมให้ตำรวจชุดจับกุมตรวจค้นห้องพัก โดยผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับผู้ต้องหาให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเข้าใจดีแล้ว จึงทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา

ตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับจากศาลจังหวัดอุบลราชธานี ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและหมายจับของศาลแขวงนครปฐม ข้อหา “ฉ้อโกง” 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook